ความคืบหน้า เหตุวัยรุ่น 2 กลุ่ม ตีกันอีกฝ่ายหนึ่งชักปืนยิง ส่วนอีกฝ่ายขับรถยนต์กระบะพุ่งชนรถจักรยานยนต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองกลุ่มได้ครบแล้ว
จากกรณี วัยรุ่นบางพลีโหดเปิดศึกหน้าผับไม่หนำใจยกพวกอาวุธครบมือตามล่าปิดซอยไล่ทำร้ายร่างกายกันอีกฝ่ายขับรถกระบะพุ่งชนตาย 1 เจ็บ 1 ราย หน้าร้านซักผ้า ภายในซอยธนสิทธิ์ หมู่ที่ 11 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 12 มกราคม 2566
เมื่อช่วงสายของวันนี้ที่ 12 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุที่ลานจอดรถที่หน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่งภายในตลาดษมาภรณ์ หมู่ที่ 11 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร ลานจอดรถจุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นของชนวนเหตุดังกล่าว โดยภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าข่วงเวลาประมาณ เที่ยงคืนกว่า มีกลุ่มวัยรุ่นทั้งสองฝ่ายมาเผชิญหน้ากันที่ลานจอดรถหลังจากออกมาจากร้านเหล้าในบริเวณดังกล่าว ก่อนจะเปิดฉากชกต่อยกันจนชุลมุน จากนั้นจะเห็นว่ามีรถกระบะสีขาวคันหนึ่งขับมาจอดแล้วคนในรถลงมาร่วมก่อเหตุ ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีก่อนจะพากันแยกย้าย โดยตามกันมาเจอกันอีกครั้งที่ด้านข้างร้านสะดวกซื้อจากนั้นกลุ่มวัยรุ่นฝ่ายหนึ่งใช้ปืนกระหน่ำยิงใส่หลายนัด จนแตกกระเจิง โดยมีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ใช้มือถือบันทึกภาพเอาไว้ได้ หลังจากต่างฝ่ายต่างแยกย้าย ภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้ร้านซักผ้า จับภาพนาทีรถกระบะคันหนึ่งสีเทาบรอนซ์ขับพุ่งชนรถจักรยานยนต์คู่กรณี ก่อนจะขับหลบหนีไป
ล่าสุดฝ่ายสืบสวนของ สภ.บางพลี ร่วมกับฝ่ายสืบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ สามรถติดตามไปควบคุมตัวกลุ่มวันรุ่นทั้งสองฝ่ายได้แล้วบางส่วน โดยเฉพาะ คนขับรถกระบะสีเทาบรอนซ์ ที่พุ่งชนคู่กรณีจนถึงแก่ความตาย
จาการสอบสวน นาย จิรายุทธ พลแสน อายุ 20 ปี คนขับรถกระบะสีเทาบรอนซ์ คันก่อเหตุ เล่าว่า ตนเองและกลุ่มเพื่อนไปมีเรื่องกันที่ลานจอดรถหน้าร้านเหล้าจริง หลังจากนั้นจึงขับรถออกมาแล้วพบว่าอีกฝ่ายคือฝ่ายของรถกระบะสีขาวพาพวกดักรอพอตนเองขับรถมาถึงปากซอยที่เกิดเหตุก็ถูกคนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ชักปืนยิงใส่หลายนัด ตนจึงตัดสินใจขับรถกระบะไล่ตามกลุ่มคู่กรณี จังหวะจะแซงรถจักรยานยนต์หนึ่งในกลุ่มคู่กรณีรถตนได้เสียหลักพุ่งเข้าไปชนตามภาพวงจรปิด ยืนยันไม่ได้ตั้งใจจะขับขนแต่อย่างใด หลังเกิดเหตุพยามขับรถกลับบ้านที่ย่านแพรกษา ระหว่างทางพบว่ากลุ่มคู่กรณีคือกระบะสีขาวยังขับตามมาจนรถตนเองไปต่อไม่ได้ ตัดสินใจทิ้งรถแล้วกลับบ้านก่อนจะแจ้งประกันให้มาเอารถ จนกระทั่งตำรวจตามมาเชิญตัว
ด้านนาย จักรกฤษ จันทรแดง อายุ 24 ปี หนึ่งในกลุ่มรถกระบะที่พุ่งชน และเป็นผู้บาดเจ็บที่ถูกเตะก้านคอจนสลบและไปฟื้นที่ โรงพยาบาล ออกมาให้ข้อมูลว่า ตนเองและเพื่อนประมาณ 8-9 คนพากันมาเลี้ยงฉลองวันเกิดจนกระทั่งเที่ยงคืนกว่ากำลังจะพากันกลับพอเดินมาถึงที่รถจอดในลาน ก็ได้ยืนคุยกันตามประสาเพื่อน ต่อมามีรถกระบะสีขาวคู่กรณีขับมารอเข้าจอดแทนที่กลุ่มตน ทั้งที่รถพวกตนยังไม่ทันถอยรถออก อีกฝ่ายหัวร้อนตะโกนด่าทำให้เกิดชกต่อยกัน ส่วนตนเองถูกเตะก้านคอจนหลับกลางอากาศ มาฟื้นอีกทีพบว่านอนอยู่ท้ายกระบะและมีรถกู้ภัยมารับส่งรพ.แล้ว
พ.ต.อ. วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี เปิดเผยว่า ชนวนเหตุมาจากการเริ่มทะเลาะวิวาทกันที่หน้าร้านเหล้าโดยฝ่ายของกลุ่มรถกระบะสีขาวหลังจากแยกย้ายที่ลานจอดได้พากันมาดักรอก่อนจะเปิดฉากไล่ยิงจนอีกฝ่ายตัดสินใจพุ่งชน หลังเกิดเหตุที่ขับรถชนพบว่ามีเพื่อนโดนเตะจนสลบอยู่ท้ายกระบะจึงพากันหลบหนีและถูกอีกฝ่ายไล่ตามทันจึงทิ้งรถทิ้งเพื่อนที่นอนสลบท้ายรถแยกย้ายหลบหนี ส่วนเพื่อนที่นอนท้ายรถได้แจ้งกู้ภัยมารับส่งรพ. ฝ่ายสืบสวนหลังจากไล่เส้นทางหลบหนีจนทราบว่ามีคนเจ็บที่เป็นเพื่อนของรถกระบะที่ขับชนไปรักษาตัวจึงตามไปสอบปากคำจนทราบตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุบางคนจากนั้นจึงตามเชิญตัวมาสอบปากคำขยายผลติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งสองฝ่าย
ส่วนนายภูวันหรือนิว จันประทัด อายุ 20 ปี สัญชาติลาว ผู้ตายและนายทาวัน มุด อายุ 20 ปี สัญชาติกัมพูชา ผู้บาดเจ็บที่ซ้อนท้ายมาจากการสืบสวนทราบว่าทั้งสองคนไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ลานจอดรถ โดยทั้งสองพากันขับขี่รถจักรยานยนต์กำลังกลับบ้านพักในซอยที่เกิดเหตุ ระหว่างทางพบกับกลุ่มกระบะสีขาวซึ่งรู้จักรกัน แล้วอีกฝ่ายตะโกนเรียกบอกว่ามีเรื่อง คนตายและคนเจ็บจึงเลี้ยวรถกะเข้าไปจอดดูที่หน้าร้านซักผ้าและถูกกระบะเสียหลักพุ่งชน และขณะนี้ ฝ่ายสืบสวนได้เร่งรัดหาเบาะแสจนทราบตัวทั้งสองฝ่าย กลุ่มรถกระบะที่พุ่งชนสามารถตามจับกุมตัวได้ยกแก๊งค์ 8 คน ส่วนกลุ่มของคนตาย มีทั้งหมด 5 คนรวมคนที่ยิงปืน
เบื้องต้น พนักงานสอบสวน แจ้งข้อหาทั้งสองฝ่ายคือสมัครใจทะเลาะวิวาท และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น ร่วมกันมั่วสุมชุลมุนวุ่นวาย ส่วนคนที่ยิงปืน เบื้องต้นพบว่าปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนแบล็งกันดัดแปลงจึงแจ้งข้อหา พยายามฆ่า และข้อหาตาม พรบ. อาวุธปืน ส่วนคนขับรถกระบะที่พุ่งชน แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ทั้งนี้หากสอบสวนเพิ่มเติมและพบความผิดเพิ่มตามพยานหลักฐานต่อบุคคลใดก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป
