เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ ช่วยเหลือนำตัวยายน้ำหนักว่า 200 กิโลป่วยโรคสะเก็ดเงินนอนทนทุกข์ทรมานกับบาดแผลเรื้อรัง นอนติดเตียงมากว่า 3 เดือน พักอยู่ภายในซอยตรากบ ส่งโรงพยาบาล
จากรณีเพจข่าวสารเมืองปราการ V2 นำภาพหญิงรายหนึ่ง มีน้ำหนักกว่า 200 กิโลกรัม ป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงิน ต้องนอนทนทุกข์ทรมานกับบาดแผลเรื้อรัง นอนติดเตียงมากว่า 3 เดือน พร้อมกับให้ข้อมูลว่า หญิงดังกล่าวพักอยู่ภายในซอยตรากบ ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ วอนหน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือด้วย ก่อนที่จะมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์กันเป็นจำนวนมาก
ข่าวน่าสนใจ:
- คึกคักกว่าทุกปีสุดยอดงานสืบสานประเพณีตีคลีไฟหนึ่งเดียวในโลก!
- คึกคัก นาย"บุ่นเล้ง" อดีตนายกอบจ.ตรัง นำทีมนายกบุ่นเล้ง สมัครครบ 30 เขต ท่ามกลางกองเชียร์คับคั่ง
- นักท่องเที่ยวแห่ชมดอกไม้งามดอยตุง ชิมอาหารพื้นถิ่น ถ่ายรูปดอกไม้สวย
- เปิดศึกชิงนายก อบจ.ปัตตานี อดีต สส.ท้าชน อดีตนายก อบจ.4 สมัยเดือดตั้งแต่วันแรก (มีคลิป)
ความคืบหน้า ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 25 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้าน เลขที่ 556/1 หมู่ 3 ซอยเทศบาลบางปู 43 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ ซึ่งเป็นบ้านพักของผู้ป่วย ตามที่ชาวบ้านให้ข้อมูล เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นและพูดคุยกับนางสาววาสนา แก้วบริสุทธิ์ อายุ 57 ปี ผู้ป่วยรายนี้ เมื่อไปถึงพบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวสภาพทรุดโทรมปลูกอยู่กลางป่าหญ้า โดยมีทางเท้าทำด้วยแผ่นพื้นปูนทอดเข้าไปจากถนนซอยประมาณ 50 เมตร บริเวณกลางบ้านพบนางสาววาสนา ต้องนอนอยู่บนที่นอนไม่สามารถชวยเหลือตัวเองได้ ตามผิวหนังลอก และมือเท้าบวม มีนางสาวสุภัสสร บุญนาที อายุ 22 ปี หลายสาว คอยดูแลทั้งเรื่องการเปลี่ยนแพมเพิส เช็ดตัว รวมถึงเรื่องอาหาร ขณะที่เพื่อนบ้าน เช่นนายชูชาติ ดุลยปภัสศร หรือผู้ใหญ่กบ อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 นับว่าเป็นอีกคนหนึ่ง ที่พาชาวบ้านสับเปลี่ยนกันเข้ามาดูแลช่วยเหลือ มาตั้งแต่นางสาววาสนา เริ่มป่วย ก่อนที่มีอาการเริ่มทรุดลงในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
นายชูชาติ ดุลยปภัสศร กล่าวว่า นางสาววาสนา เข้ามาอยู่ในพื้นที่นานกว่า 25 ปีแล้ว แต่ก่อนเคยอาศัยอยู่กับแม่ ก่อนที่แม่จะเสียไป ปกติแล้วนางสาววสานา พิการมาตั้งแต่เด็กคือมีอาการแขนขาซ้ายอ่อนแรง และยังมาถูกรถชนตอนอายุ 26 จนไม่สามารถเดินได้แบบเมื่อก่อน ต่อมาก็มีโรคต่างๆ เข้ามาแทรกซ้อนทั้งความดัน โรคอ้วน และมาเป็นโรคสะเก็ด แต่ด้วยอุปสรรคน้ำหนักตัวกว่า 200 กิโลกรัม จึงทำให้เดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลค่อนข้างลำบาก อาการไม่ดีขึ้น ก่อนที่จะเริ่มมามีอาการรุนแรงเมื่อช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ตนเองและเพื่อนบ้าน รวมถึง คณะ อสม.ก็ผลัดเปลี่ยนเข้ามาดูแลบ้าง และยังมีหลานสาวที่พักอยู่ด้วยกัน ค่อยดูแลด้วย
นางสาวสุภัสสร บุญนาที อายุ 22 ปี หลายสาว กล่าวว่า ป้าล้มป่วยมานานหลายปีแล้ว แต่เพิ่งจะมาอาการหนัก จนตนเองต้องลาออกจากงานมาดูแลป้า เนื่องจากป้าเองไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และทนทรมานกับแผลสะเก็ดเงินตามผิวหนัง จนบางทีถึงกับร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด แต่ละวันตนต้องคอยตื่นขึ้นมาค่อยเช็ดตัว และเปลี่ยนผ้าปูรองที่นอนที่เปื้อนคราบน้ำเหลืองให้ พร้อมกับหาข้าวหาน้ำให้ทาน ทั้งนี้ป้าเองไม่มีครอบครัว อาศัยอยู่คนเดียว จนทำให้ค่อนข้างขัดสนเรื่องค้าใช้จ่าย แต่ตนเองก็ไม่ได้ต้องการจะเรียกร้องอะไร ขอเพียงแพมเพิส กับผ้ารองที่นอนมาให้ป้าก็พอแล้ว
ส่วนนายณัฐพงษ์ เสรีพาณิชย์ ผอ.กองสาธารสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลบางปู กล่าวว่า แนวทางการช่วยเหลือนั้น วันนี้ตนเองได้รับมอบหมายจาก นายธีรพล ชุนเจริญ นากยกเทศบาลตำบลบางปู เข้ามาดูแลและมอบเครื่องอุปโถคบริโภคให้เบื้องต้น ทั้งนี้จาการตรวจสอบประวัติทราบว่า ผู้ป่วยเคยไปรักษาที่ รพ.สมุทรปราการ ไปเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ก่อนที่แพทย์จะส่งไปรักษาต่อที่ สถาบันราชประชาสมาสัย อ.พระประแดง ซึ่งเป็นสถานพยาบาลเฉพาะทางด้านโรคผิวหนัง แต่ผู้ป่วยไม่ยอมไปเนื่องมีความกังวลและกลัว กระทั่งวันนี้หลายหน่ายงานเข้ามาช่วยและเกลี้ยกล่อมให้ผู้ป่วยไปรักษาที่โรงพยาบาล เบื้องต้นได้รับการร่วมมือจาก มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการนำเตียงมามอบให้ พร้อมกับส่งเจ้าหน้าที่ และชาวบ้านเข้ามาเคลื่อนย้ายตัวผู้ป่วยออกจากบ้านไปที่ รพ.สมุทรปราการก่อน จากนั้นในวันที่ 27 มี.ค.จะส่งไปรักษาต่อที่ สถาบันราชประชาสมาสัยตามขั้นตอนต่อไป
ขณะที่นางสาววาสนา กล่าวทั้งน้ำตาว่าตนเอง ขอบคุณทุกหน่วยงาน ที่มาช่วยเหลือ หลังป่วยตนเองปวดแสบร้อนกับแผลมาก และยังมีไข้ขึ้นจนทำให้หนาวสั่นนอนไม่หลับ นอกจากจะเป็นโรคสะเก็ดเงินแล้ว ยังมีความดัน โรคหอบจนตอนนี้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว หลังจากนี้ก็ภาวนาให้อาการดีขึ้น เพื่อตนเองจะได้กลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมได้บ้าง
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น.ซึ่งเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางมาที่บ้านหลังดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือกันเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกมาจากบ้าน ซึ่งช่วงขนย้ายเป็นไปอย่างลำบากเนื่องจากผู้ป่วยมีน้ำหนักตัวมาก จนต้องระดมชาวบ้าน และวินมอเตอร์ไซต์ นับ 10 คน มาช่วยกันยกเปล เคลื่อนยายออจากบ้าน ประกอบกับบริเวณทางเดินมีสภาพเก่า พร้อมที่จะทรุดอยู่ตลอดเจ้าหน้าที่จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก จนเวลาผ่านไปกว่า 20 นาทีจึงสามารถเคลื่อนย้ายขึ้นรถได้อย่างปลอดภัย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: