รวบตัวแล้วชายวัย 42 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุวิ่งราวร้านทองออโรร่าภายในห้างเยสบางพลี ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ได้ทองไป 4 เส้น น้ำหนักรวมกว่า 6 บาท โดยสามารถจับได้ที่บ้านพักหลังหนึ่ง ใน อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ เจ้าตัวอ้างเอาเงินไปใช้จ่ายช่วงสงกรานต์ และไม่มีเงินส่งค่างวดรถ
อ่านข่าว โจรแสบทำทีมาซื้อทอง ก่อนอาศัยช่วงพนักงานหยิบกระจกและตำรวจเข้าห้องน้ำ ฉกทองไป 4 เส้น
จากกรณีที่มีคนร้ายชายหนึ่งคนอาศัยจังหวะตำรวจร้านทองไปเข้าห้องน้ำลงมือทำทีเป็นลูกค้าเลือกซื้อสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท และน้ำหนัก 50 สตางค์ กับพนักงานภายในร้านทองออโรร่าภายในห้างเยสบางพลี ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนจะออกอุบายขอกระจกจากพนักงานแล้วอาศัยจังหวะที่พนักงานหันไปหยิบกระจก ก่อเหตุชิงทองรวมทั้งหมด 4 เส้น วิ่งหลบหนีมาขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ที่ข้างห้างดังกล่าวหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อบ่ายโมงของวันที่ 17 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา
ข่าวน่าสนใจ:
- มหกรรมสุดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี จ.ขอนแก่น งานเทศกาล “ปลาร้า หมอลำ ISAN to the World‘24” วันที่ 26-29 ธ.ค. 67 ณ ลานศรีจันทร์ อาคารขอนแก่น…
- เปิดแล้วสุดยอดจุดเคาท์ดาวน์ซับสะเลเตบนขุนเขาแห่งดอกไม้ใหญ่สุดในภาคอีสาน!
- ชื่นมื่น แขกนับพันร่วมงานฉลองงานแต่งสาวหล่อสาวสวยคู่แรกของพังงา เตรียมจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม22มกราคม68
- กระฮึ่มรุมสาปแช่งทั่วเมืองสาวแสบยังไม่สำนึกขโมยของศาลเจ้าพ่อพญาแลผู้ก่อตั้งเมืองชัยภูมิ!
ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังจากเกิดเหตุ พล.ต.ต.พัภภล แอร่มหล้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนของ สภ.บางเสาธง และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ไล่ล่าตัวคนร้ายรายนี้ให้ได้ภายใน 3 วัน ความคืบหน้าล่าสุด ตำรวจชุดสืบสวนได้ติดตามแกะรอยจากภาพวงจรปิดจนทราบเส้นทางหลบหนีของคนร้ายรายนี้และสืบทราบตัวผู้ต้องหารายนี้แล้ว จึงรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดขออนุมัติขอหมายจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ และศาลอนุมัติหมายจับ ที่ 257/2566 ลงวันที่ 19 เมษายน 2566 ให้จับกุมตัว นาย วสันต์ นวลศิริ อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ในข้อหา วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นการจับกุม ล่าสุดมีรายงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุรายนี้หลบหนีกลับบ้านเกิดในอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ พ.ต.ท.ปราการ จงประสิทธิ์ รองผู้กำกับสืบสวน สภ.บางเสาธง พร้อมด้วย สารวัตรสืบและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของ สภ.บางเสาธง ติดตามตัวนายวสันต์ ไปที่บ้านพักในอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมประสานฝ่ายสืบสวน สภ.สตึก เฝ้าติดตามตัว กระทั่งช่วงสายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบรถกระบะต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นรถกระบะที่นายวสันต์ขับขี่กลับมาบ้านเกิด จึงเข้าตรวจสอบ พบตัว นายวสันต์ เป็นคนขับรถคันดังกล่าวจริง จึงแสดงหมายจับและตรวจค้นภายในรถพบของกลางเป็นสร้อยคอทองคำที่ยังมีป้ายชื่อของห้างทองออโรร่า จำนวน 3 เส้น น้ำหนัก 2 บาท 2 เส้น และสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 50 สตางค์ 1 เส้น ซึ่งทั้งหมดเป็นลายตรงกับที่ร้านทองระบุไว้ ด้านผู้ต้องหายอมรับว่าลงมือก่อเหตุจริง หลังก่อเหตุนำทองไปขายที่ร้านทองแถวลาดหวาย บางบ่อ จำนวน 1 เส้น ได้เงินมา 61,000 บาท ส่วนทองที่เหลือยังไม่ทันนำไปขาย เงินที่ได้มาใช้จ่ายไปแล้วเหลือเพียง 18,000 บาท. ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่าลงมือก่อเหตุเพราะเอาเงินใช้จ่ายช่วงสงกรานต์และถูกเพื่อนยืมเงินไปก่อนหน้านี้ไม่มีเงินส่งค่างวดรถให้มารดาและจำเป็นต้องพาลูกกลับบ้านเกิดจึงตัดสินใจวางแผนลงมือก่อเหตุ ตำรวจจึงคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมดมาทำการบันทึกจับกุมตัวที่ สภ.สตึก และอยู่ระหว่าง คุมตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายที่ สภ.บางเสาธง โดยในวันพรุ่งนี้จะคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
พล.ต.ต.พัภภล แอร่มหล้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ฝากขอความร่วมมือร้านทอง โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นร้านทองที่ไม่มีประตูหรือเหล็กกั้นจึงง่ายต่อการก่อเหตุของคนร้าย ขอความร่วมมืองดนำทองจำนวนมากมาให้คนร้ายเลือกเหมือนเช่นร้านทองแห่งนี้จนถูกคนร้ายลงมือก่อเหตุ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: