พายุถล่ม อบต.ราชาเทวะ เต็นท์ภายในลานจอดรถปลิวล้มระล้มระเนระนาดโดนรถพังเสียหายไม่ต่ำกว่า 20 คัน เจ้าหน้าที่เร่งนำรถออกจากลานจอด และยกเต็นท์ที่ทับรถเพื่อให้เจ้าของรถตรวจดูความเสียหายและติดต่อประกันภัยเข้ามาดูแลความเสียหาย
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 25 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีเหตุพายุพัดเต็นท์ปลิวทับรถเสียหายหลายคัน ภายในลานจอดรถ อบต.ราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จึงเดินทางตรวจสอบ
ภายในลานจอดพบเต็นท์ล้มระล้มระเนระนาดหลายหลัง มีรถได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่า 20 คัน ทั้งโดนเต็นท์ทับ และโดนขาเต็นท์ฟาด เจ้าหน้าที่เร่งนำรถออกจากลานจอด และยกเต็นท์ที่ทับรถเพื่อนำรถที่ถูกทับออก ก่อนจะเคลียร์เก็บเต็นท์ที่ล้ม เพื่อรอเจ้าของที่ทำการเช้าเต็นท์มากางให้ใหม่
ภาพคลิปจากมือถือ สามารถบันทึกภาพได้ขณะเกิดลมกรรโชก จนเต็นท์กระพือ ก่อนที่จะปลิวจนล้มระเนระนาดไปทับรถ โดยขณะนั้นมีรถจอดอยู่เต็มเต็นท์
จากการสอบถาม นาย ยุทธจักร กิณเรศ คนงานก่อสร้าง ที่กำลังก่อสร้างลานจอด ภายใน อบต.ราชาเทวะ เล่าว่า ขณะกำลังทำงานอยู่ พบว่าเริ่มมีเมฆฝนครึ้มในพื้นที่ จากนั้นไม่นานก็เริ่มมีลมพัดแรง ให้หลังต่อมาไม่กี่นาที พบว่ามีลมคล้ายลมหมุนพัดเข้ามาถึงสองลูกติดจนทำให้เต็นท์ที่ลานจอดรถยกตัวพังเสียหายทับรถที่จอดในเต็นท์จำนวนมาก
น.ส เพ็ญนภา อุมดสมุทร อายุ 47 ปี ข้าราชการ อบต. ซึ่งเป็นเจ้าของรถที่โดนเต็นท์ทับอยู่ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุตนทำงานอยู่ในสำนักงาน ได้ยินประกาศให้เลื่อนรถออกจากเต็นท์เพราะฝนตกลมแรง ตนจึงเดินออกมา เพื่อจะเลื่อนรถออก ตอนออกมาด้านนอกตนเห็นลมแรงฝนตกหนักมาก ตนจึงรีบวิ่งไปที่รถเพื่อจะเลื่อนรถแต่ไม่ทัน โดยปกติรถที่จอดอยู่ในลานจะเป็นรถของเจ้าหน้าที่และรถของประชาชนที่เข้ามาติดต่อ ตอนเกิดเหตุรถจอดกับเต็ม ตอนเกิดเหตุลมมา 2 รอบ ประมาณไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเต็นท์ก็ปลิว
นาย ทรงชัย นกขมิ้น นายก อบต.ราชาเทวะ ออกมาสำรวจความเสียหายของพายุที่พัดถล่มเข้ามาในพื้นที่ ในเบื้องต้นพบว่าส่วนใหญ่เป็นเต็นท์ลานจอดรถของพนักงาน ซึ่งเป็นเต็นท์ของเอกชนที่เช่ามากางชั่วคราว หลังจากนี้จะติดต่อเอกชนให้มาดำเนินการนำเต็นท์ใหม่มากาง ส่วนความเสียหายอื่น ได้ให้เจ้าหน้าที่สำรวจพร้อมทั้งประสานไปยังผู้นำชุมชนทุกชุมชนในเขตให้สำรวจลูกบ้านที่ได้รับผลกระทบจากพายุเข้าในพื้นที่ครั้งนี้ หากพบความเสียหายก็จะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปสำรวจและให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของ อบต.ต่อไป ส่วนรถยนต์พนักงานที่ได้รับความเสียหายนั้นได้ให้ทางเจ้าของรถติดต่อประกันภัยเข้ามาดูแลความเสียหายแล้ว
