วัยรุ่นพระประแดงเปิดศึกดวลมีดกันกลางถนน ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 74 แยก 6 (ซอยวัดชมนิมิต) ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ดับ 1 ราย จังหวะที่ผู้ตายใช้มีดปักเข้าไปที่คออีกฝ่ายทำให้ผู้ตายไม่มีอาวุธ อีกฝ่ายจึงไล่แทงเข้าที่ลำตัวหลายครั้งจึงทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะนี้ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ที่เกี่ยวข้องไว้ทั้งหมดแล้ว
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 เมษายน 2566 พ.ต.ท.อิศรัฐ ตันสุ สว.สอบสวน สภ.พระประแดง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุวัยรุ่นใช้อาวุธมีดไล่ทำร้ายกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบนถนนภายในซอยสุขสวัสดิ์ 74 แยก 6 (ซอยวัดชมนิมิต) หมู่ 8 ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานฝ่ายสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่บริเวณตรงเสาไฟข้างทางริมกำแพงโรงเรียนมัธยมนิมิตร พบ นาย เอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี นอนจมกองเลือดอยู่กับพื้นถนน มีบาดแผลถูกแทงที่ หน้าท้อง จำนวน 4 แผล และ มีบาดแผลฉีกขาดที่ใบหน้า ข้างกันพบ น.ส.กัน (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี มีแผลถลอกตามร่างกาย เจ้าหน้าที่มูลนิธิเร่งให้การช่วยเหลือก่อนรีบนำส่งโรงพยาบาลบางประกอก 3 สุดท้าย นาย เอ (นามสมมุติ)ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ ไม่ติดแผนป้ายทะเบียน ล้มอยู่ข้างทาง สภาพรถช่วงหน้าด้านซ้ายพังยับเยิน ที่เสาไฟฟ้าพบคราบเลือดจำนวนมากกระจายเต็มเสาไฟฟ้า และที่พื้นถนนพบคราบเลือกเป็นทางยาว ในที่เกิดเหตุยังพบมีดและปลอก ตกอยู่ริมถนน จำนวน 1 เล่ม ส่วนอีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บเช่นกัน คือ นายชาติ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี มีดแผลที่ลำคอและที่ปลายคาง จำนวน 2 แผล และ นายต้า (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี มีแผลถูกมีดแทงคาอยู่หลังคอ ทั้ง 2 คน รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบางจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางไปอายัดตัวไว้เพื่อรอสอบสวนและดำเนินคดี
กล้องวงจรปิดหน้าร้านขายอาหารตามสั่ง ซึ่งเป็นจุดที่ทั้ง 2 ฝ่ายเปิดศึกกัน พบว่าผู้ตายมากับเพื่อนผู้หญิงขับขี่รถจักรายานยนต์ตามกันมา ก่อนทั้งคู่จะลงจากรถเปิดศึกดวลมีดกัน มีจังหวะที่ผู้ตายใช้มีดปักเข้าไปที่คอเสื้อแดงจนทำให้มีดปักคาเข้าไปที่ลำคอ จนทำให้ผู้ตายไม่มีอาวุธ อีกฝ่ายจึงไล่แทงเข้าที่ลำตัวของผู้ตายไปหลายครั้ง จากนั้นก็แยกย้ายกันไป ระหว่างที่ผู้ตายขี่รถหลบหนีก็ไปชนกับเสาไฟฟ้าที่ห่างจากจุดดวลมีดไปไม่ถึง 200 เมตร
นายทวีศักดิ์ กล่ำดิษฐ์ อายุ 39 ปี คนเห็นเหตุการณ์ (เสื้อยืดคอกลมสีเทา) ได้เล่าว่า ตนขับรถมาแล้วจังหวะ ลักษณะคล้ายคนกำลังจะต่อยกัน แต่ผมไม่เห็นมีดว่ามีมีดอยู่ในมือ ไอ้คนที่โดนแทงรถล้มตรงนี้ มันก็สวนไอ้คนนั้นไป แล้วพอสวนกันเสร็จ เหมือนมันเจ็บกันแล้วมันก็เลยขับรถหนี ไปกับเพื่อนทางด้านหลังวัด ซึ่งต่างฝ่ายก็ต่างมีมีด โดยแทงกันกลางถนนเลย และต่อยกันกลางถนนด้วย ส่วนคนที่เจ็บตรงเสาไฟขับรถหนีออกมา พอมันรู้ว่ามันเจ็บมันก็เลยขับรถหนีออกมา แต่ขับรถล้มและชนเสาไฟอีกที ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่น ผมเห็นจังหวะที่ ขึ้นรถแล้วหลบหนีออกไป หลังจากที่โดนแทงเสร็จแล้ว
น.ส.กิตติยา กล่ำดิษฐ์ อายุ 36 ปี เเม่ของ นายชาติ (นามสมมุติ) (เสื้อคอปกสีน้ำเงินคอสีส้ม) เล่าว่า แม่ทำงานไม่ทราบเรื่องพอดีหลานข้างบ้านโทรไปบอก ตอนแรกนั่งกินข้าวอยู่ แล้วพี่กำลังนั่งดูเฟซ มีแทงกระเดือกหน้าวัดชม หนูก็คิดแล้วว่าเป็นลูกของหนูหรือเปล่า สักพักนึงหนูโทรหาเด็กหลังบ้าน เด็กหลังบ้านบอกว่าต้าโดนแทงคอมีดปักคาเลย ชาติคือลูกเรา ซึ่งต้าเป็นคนขับรถ ส่วนรูปของเราซ้อนท้าย โดยตนเองไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น แต่ว่าลูกของหนูไม่สามารถควบคุมตัวเองอารมณ์ไม่ได้ เพราะว่าตอนนี้หนูให้ลูกหนูไปหาหมอ ที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ เกี่ยวกับนักจิตวิทยา ตอนแรกรักษาตัวที่โรงพยาบาลบางจากและหลังจากนั้นหมอให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลสมุทรปราการหรือโรงพยาบาลปากน้ำ ส่วนสาเหตุตนเองคิดว่าน่าจะ มาจากลูกมีอาการทางจิต โดยมีลักษณะอาการที่ใครจะพูดผิดหูเขานิดนึงก็ไม่ได้เลย ลักษณะคล้ายไบโพล่า บางครั้งตัวเองก็ถูกกระทำบ้างซึ่งเขาคงคิดได้ว่าเราเป็นแม่ เขาเป็นเด็กเก็บ เซ็นก่อนหน้านี้เขาก็เคยมีเรื่องค้างเก่า และยังไม่สิ้นสุดแต่ว่าประกันตัวออกมา แล้วก็มามีเรื่องอีกรอบ หลังจากนี้ตนเองก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อเพราะเนื่องจากคู่กรณีเสียชีวิต ซึ่งตนเองเป็นแม่ก็อยากจะกราบขอโทษคู่กรณี เด็กสมัยนี้ก็ต้องเข้าใจนะเพราะเราไม่สามารถไปว่าเขาได้ หนูก็หาเช้ากินค่ำหนูก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ซึ่งตนเองก็ต้องปล่อยให้เป็นตามกระบวนของกฎหมายต่อไป
น.ส.กัน (นามสมมุติ) ผู้ได้รับบาดเจ็บที่ซ้อนท้าย นาย เอ (นามสมมุติ) (ผู้ตาย) เล่าว่า ตนเองมาหารุ่นพี่ที่ซอยวัดชม โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากเพื่อนหนูมันโดนตบหน้า แล้วทีนี้มันก็แทงเข้าเพื่อนหนู หลังจากนั้นมันก็ขับตามเพื่อนหนู ซึ่งตนเองยืนยันว่าไม่รู้จากฝ่ายคู่กรณี ซึ่งหนูเป็นเพื่อนเขาไม่มีแฟนใคร ส่วนสาเหตุคาดว่า มองหน้าหรือ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า แล้วไปเรียกรุ่นพี่มา ซึ่งเพื่อนเราชื่อกุลที่นอนเจ็บรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลบางปะกอก 3 ซึ่งเป็นคนที่ขับรถจักรยานชนเสาไฟ ฝั่งนู้นมันมามองหน้าเพื่อนหนู เพื่อนของหนูจึงตะโกนออกไปว่ามองหน้ามีอะไร แล้วฝั่งโน้นก็ไปเรียกรุ่นพี่มา คราวนี้มันก็เดินมาตบหน้าเพื่อนหนู ซึ่งมีเหตุตบหน้ากันก่อนที่จะมีการใช้อาวุธมีดแทงกัน หลังจากนั้นเพื่อนหนูก็เลยลงไปเล่น แต่เพื่อนหนูถูกแทงกลับมา ซึ่งเพื่อนตนเองก็มีมีดมาด้วย
นางสาวอนงค์นาถ ฉายทรัพย์ แม่ของผู้ตาย รู้เหตุการณ์เนื่องจากเพื่อนโทรบอก ว่าลูกชายเลือดเต็มตัวเลย ซิ่งมาไม่ทันเห็นสภาพลูกชาย เนื่องจากถูกนำส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนสาเหตุของการเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้แม่ไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใดต้องถามเพื่อน ที่อยู่ในเหตุการณ์ตนเองตอนนี้พูดไม่ออก และร้องไห้
นาย ชลชาติ วัฒนวิกรม อายุ 18 ปี ได้เล่าว่า คู่กรณีมาตบหน้าเพื่อนผม โดยมาด้วยกัน 2 คน โดยรถจักรยานยนต์และมีอาวุธมีดสั้นพกติดตัวมาด้วยมันโดนตบหน้า แล้วมันก็หนีตายมา แต่หนีไม่พ้นจึงขับรถวน จากนั้นได้พุ่งชนเสาไฟฟ้า โดยมีมีดปักบริเวณหน้าท้อง ได้รับบาดเจ็บ 2 คน โดยฝั่งคู่กรณีมาด้วยกัน 2 คนรถจักรยานยนต์ ฝั่งผมมีผู้หญิง รวมผมมีด้วยกัน 2 คน แต่ผู้ชายโดนแทงและผู้หญิงคือรถล้ม โดยตนเองไม่รู้ว่าสาเหตุมีเรื่องอะไรกันมาก่อนและไม่รู้จักคู่กรณี เท่าที่รู้คือ มันโดนตบหน้ามาก่อน แล้วมันก็หนีตายมา คือสาเหตุมันตบหน้าเพื่อนผมแต่ไม่รู้ว่าสาเหตุอะไร จากนั้นเพื่อนผมก็หนีมา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ บันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน พร้อมสอบถามพยานที่เกิดเหตุรวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบพฤติการณ์การเกิดเหตุทั้งหมด ตอนนี้ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ที่เกี่ยวข้องไว้ทั้งหมดแล้ว และจะนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.พระประแดง ส่วนร่างผู้เสียชีวิตมอบให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบอาการผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย หากแพทย์ประเมินว่าปลอดภัยแล้วก็จะนำตัวมาสอบสวนและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
