ภาพจากกล้องวงจรปิดริมถนนในซอยด่านสำโรง บันทึกภาพ ชายวัย 63 พาเมียน้อยมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เมียหลวงมาดักกระโดดขึ้นท้ายกระบะกระหน่ำยิงและแทง เจ็บ ส่วนฝั่งซ้ายในรถจะเห็นว่ามีหญิงสาวเปิดประตูฝั่งซ้ายวิ่งหนีตายออกมาจากที่เกิดเหตุ เบื้องต้นตำรวจจึงแจ้งข้อหาพยามฆ่าโดยเจตนาและพ.ร.บ. อาวุธปืน
เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ภาพวงจรปิดริมถนนในซอยด่านสำโรง ตำบลด่านสำโรง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ จับภาพได้ มุมแรกพบว่า มีรถกระบะอีซุซุ ตอนเดียวสีบรอนซ์ ขับมาบนถนนในซอยดังกล่าวด้วยความเร็ว ผ่านหน้ากล้องไป จากนั้นกล้องอีกมุมในจุดเดียวกันจับภาพได้ในขณะที่ รถกระบะคันดังกล่าว เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทาง ซึ่งมีหญิงสวมเสื้อสีแดงนั่งเกาะอยู่ที่ด้านหลังของกระบะ ส่วนกล้องวงจรปิดอีกมุมที่อยู่ฝั่งตรงข้ามใกล้เคียงปากซอยด่านสำโรง 58 จับภาพได้อย่างชัดเจนในขณะที่รถกระบะคันดังกล่าวเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทาง โดยมีหญิงเสื้อแดงที่นั่งเกาะกระบะท้ายพยามทุบกระจกด้านหลังของคนขับแล้วชักปืนที่พกติดตัวมายิงใส่คนขับรถไปหลายครั้ง กรทั่งคนขับต้องเปิดประตูลงหนีตายลงมา ส่วนฝั่งซ้ายในรถกระบะคันดังกล่าวจะเห็นว่ามีหญิงสาวอีกรายสวมเสื้อแขนยาวสีขาวเปิดประตูฝั่งซ้ายวิ่งหนีตายออกมาจากที่เกิดเหตุเช่นกัน ท่ามกลางสายตาของประชาชนจำนวนมากในละแวกที่เกิดเหตุ ในขณะที่ภาพจากมือถือของพลเมืองดีสองมุม บันทึกภาพเอาไว้ได้ พบว่า หญิงเสื้อสีแดงที่นั่งเกาะมาในท้ายกระบะรถกระโดนตามชายคนขับลงมาจากรถจากนั้นใช้มีดพยามจ้วงแทงชายคนดังกล่าวอีกหลายครั้งจนชาวบ้านต้องเข้ามาห้ามปรามให้แยกย้ายและรีบแจ้งตำรวจและกู้ภัยมาช่วยเหลือคนเจ็บและควบคุมตัวหญิงเสื้อแดงรอตำรวจ
ข่าวน่าสนใจ:
หลังเกิดเหตุไม่นาน พ.ต.ท.มงคล พฤกษชาติ รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ เข้าควบคุมตัวหญิงเสื้อแดงคนดังกล่าว ส่วนชายคนขับ ทราบชื่อ นายสมคิด มูลเหล็ก อายุ 63 ปี มีแผลฉีกขาดที่บริเวณคอ มือข้างซ้าย ต้นขา และที่หลัง เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ
ด้านแม่ค้าอาหารตามสั่งที่ขายอยู่ข้างทางตรงที่เกิดเหตุบอกว่า ขณะขายของอยู่หันไปสังเกตเห็นรถกระบะคันดังกล่าวขับส่ายไปมาจนมาพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทางก่อนถึงร้านตนเอง จากนั้นก็เห็นชายคนขับเปิดประตุรถลงมาและหญิงเสื้อแดงก็ตามลงจากรถใช้มีดแทงฝ่ายชายจนมีคนเข้าไปห้าม ยังถือว่าดวงดีสำหรับตน หากรถไม่ชนเสาไฟก่อนอาจจะพุ่งเข้ามาชนตนเองและร้านก็เป็นได้
นาง สมร มูลเหล็ก อายุ 61 ปี หญิงเสื้อแดงผู้ก่อเหตุ ซึ่งถูกตำรวจควบคุมตัวได้พร้อมของกลางทั้งอาวุธปืนลูกโม่และมีปลายแหลมที่ใช้ก่อเหตุ โดยนาง สมร ผู้ก่อเหตุรายนี้ให้การด้วยสีหน้าขึงขังว่า ตนเองยอมรับว่าก่อเหตุจริง คนที่ตนเองก่อเหตุนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือนาย สมคิด มูลเหล็ก อายุ 63 ปี เป็นสามีแท้ๆ ของตนเองนี่แหล่ะ ที่ต้องลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ก็เพราะต้องการหวังสั่งสอนกะทำให้แค่บาดเจ็บไม่กะให้ถึงตายแต่ถ้าต้องตายไปจริงก็ไม่เสียดาย เหตุผลเพราะว่า ตนเองเกิดความแค้นที่สามีไปมีเมียน้อยหลายต่อหลายครั้งหลายคน ตนเองเจอสามีครั้งสุดท้ายเมื่อปี 62 หลังจากที่สามีไปมีเมียน้อยก็แยกย้ายกันอยู่กับตนเอง ที่ผ่านมา จับได้หลายครั้งที่สามีไปติดหญิงอื่น จนหมดเนื้อหมดตัว แถมยังเอารถไปขายเลี้ยงดูผู้หญิงอื่น แต่งงานกันมาตั้งแต่ปี 2525 จนมีลูกจนลูกโตหมดแล้ว กระทั่งมาทราบภายหลังว่าสามีไปมีเมียน้อย และเอารถคันเกิดเหตุไปรับส่งเมียน้อยแอบไปเช่าห้องอยู่ที่ลาดกระบัง ที่ผ่านมาตนเองพยามให้มาเคลียร์ให้จบปัญหาเนื่องจากมีการจดทะเบียนสมรสกันแต่ฝ่ายสามีไม่มาเคลียร์ กระทั่งทราบว่าวันนี้ สามีจะพาเมียน้อยมาเลือกตั้งที่ซอยวัดด่าน ตนเองจึงนั่งรถมาจากจังหวัดอยุธยา เพื่อมาดักรอหวังเคลียร์ปัญหาครอบครัว กระทั่งมาเจอสามีขับรถอกมาจากหน่วยเลือกตั้ง ตนพยามเรียกให้จอดแต่สามีไม่จอดจึงยิงปืนใส่ไปหนึ่งนัด แล้วกระโดดขึ้นท้ายรถและยิงซ้ำใส่สามีจากกระจกด้านหลังจนรถเสียหลักขนเสาไฟฟ้าจึงตามลงไปใช้มีดแทงซ้ำไปอีกสองครั้ง ส่วนปืนยิงไปจนหมดโม่ ไม่ได้นับว่ากี่นัด ปืนที่ใช้ก็เหตุก็เป็นปืนของสามีที่เคยซื้อมาไว้นานแล้ว
ตำรวจจึงคุมตัวภรรยาใจเด็ดรายนี้ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่สภ.สำโรงเหนือ และตรวจยึดของกลาง เป็นปืนลูกโม่ ขนาด.38 พร้อมปลอกกระสุนที่ยิงแล้วคาลูกโม่จำนวน 5 นัด กระสุนที่ยังไม่ยิงอีก 5 นัด มีดปลายแหลมเปื้อนเลือกจำนวน 2 เล่ม เบื้องต้นตำรวจจึงแจ้งข้อหาพยามฆ่าโดยเจตนาและพ.ร.บ. อาวุธปืน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: