โชเฟอร์แท็กซี่ น้อยใจภรรยาทิ้ง จอดรถกลางสะพานกาญจนาฯ จะกระโดดลงแม่น้ำเจ้าพระยา เจ้าหน้าที่ และน้องชาย เกลี้ยกล่อมอยู่นานประมาณ 3 ชั่วโมง พร้อมโทรหาภรรยาของโชเฟอร์ให้คุยกันอยู่นาน จึงมีท่าทีใจเย็นลง ก่อนจะยอมเข้ามาเองอย่างปลอดภัย และโผเข้ากอดน้องชายร้องไห้
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 เจ้าหน้าที่การทางพิเศษ ได้รับแจ้งว่ามีชายจะกระโดดสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ด่วนกาญจนาภิเษก จากสุขสวัสดิ์มุ่งหน้าบางนา ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 20 หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมเรือ เดินทางตรวจสอบ
บนสะพานบริเวณกลางแม่น้ำเจ้าพระยา พบรถนั่งสาธารณะแท็กซี่สีเขียวเหลือง ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีเหลือง-เขียว จอดอยู่ ที่ด้านข้าง บริเวณราวกันสะพาน พบ นาย มานึก (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ยื่นเกาะราวสะพานอยู่ด้านนอก หันหน้าเข้ามาด้านใน อยู่ในอาการเครียด และไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันเกลี้ยกล่อม นายมานึก จนทราบว่า ถูกภรรยาทิ้งไปไม่ได้เจอกันนานแล้ว และอยากให้กลับมาอยู่ด้วยกัน เจ้าหน้าที่ได้เกลี้ยกล่องอยู่นานเกือบ 2 ชั่วโมง ให้ นายมานึก เข้ามาพูดคุยที่ด้านใน แต่ นายมานึก ไม่ยอมพร้อมพูดตลอดเวลาว่าถ้าภรรยาไม่มาหา จะกระโดดสะพาน เจ้าหน้าที่จึงเตรียมแผนช่วยเหลือหากเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยให้นักประดาน้ำพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ นำเรือมาลอยลำที่ด้านล่างเพื่อเตรียมความพร้อมหาก นายมานึก กระโดดลงแม่น้ำ
โดยต่อมาพอ น้องชายของนายมานึก พอทราบจึงเดินทางมาที่เกิดเหตุ และช่วยเกลี้ยกล่อม พร้อมโทรหาภรรยาของ นายมานึก ให้พูดคุยกัน หลังจากที่ นายมานึก ได้พูดคุยกับภรรยา อยู่นาน จึงมีท่าทีใจเย็นลง ก่อนที่ นายมานึก จะยอมเข้ามาเองอย่างปลอดภัย และโผเข้ากอดน้องชายร้องไห้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ให้น้องชายพาตัวนายมานึก เข้าไปสงบสติอารมณ์ที่ สภ.พระประแดง และติดต่อภรรยาให้เข้ามาพูดคุยกันให้เข้าใจ เพื่อไม่ให้ นายมานึก ไปก่อเหตุอีก และอยากฝากประชาชนว่าการคิดสั้นหรือฆ่าตัวตายมันไม่ใช่ทางออกที่ดี จะทำอะไรให้นึกถึงคนข้างหลังเยอะๆ ทั้ง พ่อ แม่ ภรรยา ลูก ทุกปัญหามีทางออก
