เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสมุทรปราการ นำกำลังเข้าจับกุมต่างด้าวประอาชีพเป็นช่างเสริมสวย ซึ่งเป็นอาชีพต้องห้าม เนื่องจากเป็นการแย่งงานคนไทย จำนวน 2 แห่ง ใน อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ
ตามนโยบาย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ , พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.ตม.3 สั่งการให้หน่วยงานในสังกัด ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมลักลอบเข้ามาทำงานในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกอบอาชีพต้องห้าม ซึ่งเป็นการแย่งอาชีพคนไทยเช่น เปิดร้านขายของเร่ขายสินค้าและช่างเสริมสวย งานนวดไทย
ข่าวน่าสนใจ:
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสมุทรปราการได้นำกำลังตรวจสอบต่างด้าวในพื้นที่ จากกรณีมีประชาชนให้เบาะแสร้องเรียนว่ามีร้านเสริมสวย 2 แห่ง ที่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ มีคนต่างด้าวทำงานเป็นช่างเสริมสวยอยู่ภายในร้าน ซึ่งเป็นอาชีพที่ต้องห้ามสงวนไว้ให้กับคนไทยเท่านั้น จึงได้บูรณาการร่วมกับจัดหางานจังหวัดสมุทรปราการเข้าตรวจสอบ โดยให้เจ้าหน้าที่แฝงตัวเข้าไปใช้บริการเสริมสวย โดยจุดที่ 1 เลขที่ 39/50 ม.7 อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ พบร้านเสริมสวยดังกล่าวมีต่างด้าว 2 ราย กำลังทำผมให้กับลูกค้าจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจสอบหนังสือเดินทางและเอกสารต่างๆ พบว่าต่างด้าวทั้ง 2 ราย คือ น.ส.ดอน และน.ส.แก้ว สัญชาติลาว โดยน.ส.ดอน อยู่เกินกว่ากำหนดได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร (Over Stay) ตั้งแต่ 26 มกราคม 2566 เป็นระยะเวลา 168 วัน ซึ่งทั้ง 2 รายรับว่าทำงานเสริมสวยมาแล้ว 1 เดือน ได้ค่าจ้างวันละ 400 บาท จากนายจ้างคือ น.ส.เกศมณีฯ สัญชาติไทย และไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานตามกฎหมายแต่อย่างใด จึงได้จับกุม น.ส.ดอน ในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด,เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากมีสิทธิที่จะทำ” และน.ส.แก้ว ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากมีสิทธิที่จะทำ” จุดที่ 2 ม.7 ถ.บางนาการ์เด้นท์ ตรงข้ามท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ พบร้านเสริมสวยดังกล่าว มี น.ส.เกศมณีฯ สัญชาติไทย กำลังทำผมให้กับลูกค้าภายในร้าน และมีต่างด้าว 1 รายกำลังเป็นลูกมือช่วย น.ส.เกศมณีฯ ทำผมอยู่ข้างๆ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจสอบหนังสือเดินทางและเอกสารต่างๆ พบว่าต่างด้าว คือ น.ส.บุดสดี สัญขาติลาว ซึ่งน.ส.เกศมณีฯ รับว่าตนเป็นเจ้าของร้านเสริมสวยดังกล่าวและได้จ้าง น.ส.บุดสดี มาทำงานเสริมสวยที่ร้าน รวมถึง น.ส.ดอน และน.ส.แก้ว ที่ถูกจับกุม ณ จุดที่ 1 โดยจ่ายค่าจ้างให้ต่างด้าววันละ 400 บาท ซึ่งต่างด้าวไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานตามกฎหมายแต่อย่างใด จึงได้จับกุม น.ส.เกศมณีฯ ในข้อหา “รับคนต่างด้าวทำงานโดยที่คนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากมีสิทธิที่จะทำ” และน.ส.บุดสดี ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากมีสิทธิที่จะทำ” รวมผู้ต้องหาทั้งสิ้น 4 ราย นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปรากรา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.ชินวุฒิ ตั้งวงษ์เลิศ ผกก.ตม.สมุทรปราการฝากถึงพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ปัจจุบันรัฐบาลให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายในการตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าวและสถานประกอบการอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวที่แย่งอาชีพคนไทย กรมการจัดหางานบูรณาการร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบมาโดยตลอด ซึ่งอาชีพห้ามที่พบแรงงานต่างด้าวทำงานมากที่สุด ได้แก่ งานเร่ขายสินค้า งานตัดผม งานนวดไทยและงานขับขี่ยานพาหนะ ส่วนการตรวจสอบคนต่างชาติไม่ได้เน้นตรวจเฉพาะแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา กัมพูชาและลาว แต่ยังตรวจสอบทุกสัญชาติ เช่น เวียดนาม จีน และจากยุโรป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: