สองหนุ่มร้องสื่อถูกอดีตเพื่อนบุกมายิงใส่ 1 นัด แต่ไม่โดน ก่อนจะขึ้นรถจักรยานยนต์หนีไป เหตุเกิดภายใน ซอยด่านสำโรง ส่วนอีกคนโดนบุกไปล็อกคอถึงบ้าน เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมากล้องวงจรปิดสามรถจับภาพเหตุการณ์ไว้ได้ คาดว่าคนที่ก่อเหตุนั้นเป็นชุดเดียวกัน
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องทุกข์ จาก นายวรเชษฐ เขียวขำ อายุ 30 ปี ว่า ถูกชาย 4 คน ขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีขาว และ ฮอนด้า พีซีเอ็ก สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดที่หน้าปากซอยบ้าน ก่อนจะเดินเข้ามาบริเวณปากซอยชักปืนยิงใส่ตนเอง จำนวน 1 นัด แต่ไม่โดน ก่อนจะขึ้นรถจักรยานยนต์หนีไป หลังรับเรื่องผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปบ้านหลังหนึ่งภายใน ซอยด่านสำโรง ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ พบกับ นายวรเชษฐ เขียวขำ อายุ 30 ปี และ นายอรรถพล อยู่เจริญ อายุ 27 ปี ผู้เสียหายโดยทั้งคู่ได้เปิดภาพจากกล้องวงจรปิดให้ดู
ภาพจากกล้องชุดแรกเป็นเหตุการณ์ที่เกิด เมื่อเวลา 20.28 น. วันที่ 4 สิงหาคม 2566 กล้องตัวแรก สามารถจับภาพชาย 2 คน สวนเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ใส่หมวกปิดบังใบหน้า ขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ เข้ามาจอดบริเวณปากซอยบ้านของ นายวรเชษฐ ก่อนที่คนซ้อนท้ายจะลงจากรถแล้วเดินเลาะกำแพงออกมาปากซอย ก่อนที่เพื่อนของ นายวรเชษฐ จะเดินออกมาจากบ้านของ นายวรเชษฐ มายืนดูที่ท้ายซอยก่อนจะเดินเข้าไป ผ่านไปไม่นาน นายวรเชษฐ ได้เดินออกจากบ้านมายืนดูที่บริเวณหน้ารถ ก่อนที่ชายคนที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มา จะเดินเข้ามาบริเวณหน้ารถอีกคันที่อยู่บริเวณปากซอย ก่อนจะชักปืนออกมายิงใส่ นายวรเชษฐ จำนวน 1 นัด นายวรเชษฐ จึงวิ่งหนีเข้าบ้าน ส่วนชายดังกล่าวได้วิ่งกลับมาที่รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ปากซอย กล้องวงจรปิดอีกตัว จับภาพ ชาย 4 คน รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ และฮอนด้า พีซีเอ็ก ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาวนเวียนที่บริเวณปากซอยบ้านของ นายวรเชษฐ ก่อนที่ชายที่ขี่และซ้อนรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า พีซีเอ็ก ได้ยกมือคล้ายกวักมือเรียกคนในซอย ก่อนที่คนซ้อนท้ายจะชักปืนออกมาจากเอว ชี้ไปภายในซอย ก่อนที่จะเดินเข้าไปในซอยผ่านไปไม่ได้คนที่ซ้อนท้ายจะเดินกลับมาขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ออกไป
ภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งเป็นอีกเหตุการณ์หนึ่ง โดยเหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 25 กรกฎาคม 2566 สามารถจับภาพ นายอรรถพล กำลังจะเดินออกจากบ้าน ได้มีสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ วิ่งเขามาล็อกคอ นายอรรถพล จนหลุดกล้องไป
นายวรเชษฐ ( เสื้อสีเทา ) เล่าว่า คือเมื่อวานตนไปส่งของแล้วจะไปแม็คโคร แล้วไปเจอพวกรุ่นน้องที่ตนเคยมีปัญหาด้วยที่ท้ายซอย ตนสังเกตมาหลายรอบแล้วเพราะพักหลัง ๆ เจอบ่อย เมื่อวานตนเลยลองขี่รถตามดูว่าเขามาทำอะไรแถวบ้านตน พอเขาเห็นว่าตนขี่ตามเขาเลยพาตนขี่วนในหมู่บ้าน สักพักเขาก็โทรหาใครไม่รู้ จนไปถึงแบริ่ง 48 แต่ตนตั้งใจจะไปแม็คโครอยู่แล้ว ไม่ได้ตั้งใจตามเขาอยู่แล้ว พอถึงแยกตนก็เลยเลี้ยวไปแม็คโคร ซื้อของมาเตรียมขาย พอกลับมาถึงบ้านตนก็มาทอดตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่ง ยังทำอะไรไม่เสร็จเลย เพื่อนตนได้ยินเสียงรถ ก็มาถามตนว่าใครมาเต็มหน้าซอยเลย พอตนหันออกไปมอง ผู้ก่อเหตุกวักมือเรียก ตนก็สงสัย แต่ไม่ได้กลัว ก็เดินออกมาดูตรงหน้ารถที่จอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน สักพักผู้ก่อเหตุเขาชักปืนออกมาชี้มาทางตน ตนก็เลยโดดเข้าไปหลบตรงรถ คนก่อเหตุก็ผลุบ ๆ โผล่ ๆ อยู่กับตน สักพัก ตอนที่ตนโผล่ไปทางขวาเขาก็ยิงใส่ตนเลย แม่ตนก็ตะโกนเรียกให้เข้าบ้าน ตนก็เลยเข้าบ้าน พอเขายิงเสร็จเขาก็ยังวนกันอยู่ปากซอย ตอนแม่ของตนออกไปเอาภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าปากซอยก็ยังเห็นมีคนยืนอยู่เต็มหน้าซอย มันก็ขี่รถเข้าไปข้างหลัง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวาน ตอนที่ตนขี่รถไปเจอเขา ก็ประมาณ 19.30 น. ตอนที่เขามายิงเวลา 20.28 น. หลังเกิดเหตุมีผู้ใหญ่บ้านมาเขาก็ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ และตนก็เดินทางไปแจ้งความ พร้อมกล้องวงจรปิด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบก็มาที่บ้านตน และก็มาวันนี้ตนก็พึ่งไปให้ปากคำเพิ่มเติมมาที่โรงพัก
นายวรเชษฐ (เสื้อเทา) เล่าอีกว่า คนก่อเหตุตนรู้จักเคยเป็นเพื่อนพี่น้องกันมาก่อน แต่ที่ฟังจากเพื่อนอีกทีเนื่องจากวันที่เขาไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน แต่ตนไม่ได้ไป ก็กินเหล้าด้วยกัน แล้วแบบพูดจาไม่เขาหูกัน ก็เลยมีเรื่องชกต่อยกัน แต่ก็เคลียกันจบแล้ว ทางผมผิดก็เอาน้องเข้าไปรับผิดแล้ว ตนก็นึกว่าจบแล้ว แต่เขาก็ยังแค้นอยู่ พอมาวันสงกรานต์ที่ผ่านมา เขาก็มากระทืบรุ่นพี่ตน กระทืบ เอาปืนจ่อล้อมตั้ง 4-5 กระบอก โดนเอาปืนตบหน้าบ้างอะไรบ้าง แต่ตอนนี้เป็นเรื่องที่อยู่ในคดีชั้นศาลอยู่ หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์มาเรื่อย ๆ เพื่อนตนนั่งอยู่บ้านอยู่กับลูกกับเมีย พวกเขาก็เขาไปทีเผลอเอาปืนไปจ่อเพื่อนตนตั้ง 5-6 กระบอก แต่เคสนี้มีประจักษ์พยานแต่แค่กล้องไม่มีเลยทำอะไรไม่ได้ เพราะพยานเป็นละแวกแถวบ้าน พูดไปเขาก็ไม่เชื่อ หลังจากนั้นพวกตนก็โดนกันมาเรื่อย ฝ่ายตนเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำ เขามาขับรถวนบ้าง วนซอยบ้านตน วนซอยบ้านพี่ตน วนซอยบ้านน้องตน คือแบบว่าปั่นป่วนไปเรื่อย วันไหนพวกเขาเมาแล้วก็มักจะออกล่าโจทท์ ชุดที่ก่อเหตุเป็นเด็กวัยรุ่นในซอยวัดด่านที่บ้านเขาเปิดบริษัทสำนักงานกฎหมายทนายความ จึงทำให้ตนกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย
นายอรรถพล (เสื้อสีดำ) เล่าว่า ตนเองไปรับลูกที่โรงเรียนเพื่อไปส่งที่บ้านพัก ก่อนที่ตนเองจะออกมาขายของตามปกติ โดยขณะนั้นเป็นช่วงฝนตก ตนเองก็ใส่ชุดกันฝนตามปกติและไม่ได้คิดอะไร เพราะตนเองยืนอยู่หน้าบ้าน โดยที่ตนเองมองไปที่บริเวณปากซอยก็เห็นผู้ก่อเหตุนั้น ยืนอยู่บริเวณหน้าปากซอยอยู่ 3 คน แต่ตนเองไม่ได้คิดอะไร ก่อนที่ผู้ก่อเหตุมาทำร้ายตนเอง ตนเองจึงวิ่งเข้าบ้าน ส่วนคนที่ก่อเหตุนั้นเป็นชุดเดียวกับที่ทำร้ายนายวรเชษฐ
