หนุ่มวัย 28 ขี่มอไซค์ถูกเก๋งปาดหน้าจึงขี่รถไปตีคู่แต่ถูกเบียดจนล้มเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนกิ่งแก้ว ขาเข้า ก่อนถึงปั้มน้ำมันเอสโซ่ ด้านคดีอยู่ในขั้นตอนสอบว่าตั้งใจชนหรือไม่
อ่านข่าว หัวร้อน หรือ ตกใจ รถเก๋งมีปัญหากับรถมอไซค์ก่อนหักเลี้ยวชนได้รับบาดเจ็บ
จากกรณี หนุ่มวัย 28 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ตีคู่มากับรถยนต์เก๋งก่อนจะถูกรถยนต์เก๋งเบียดจนล้มได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เหตุเกิดบนถนนกิ่งแก้ว ขาเข้า ก่อนถึงปั้มน้ำมันเอสโซ่ หมู่ 7 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 6 สิงหาคม 2566
ข่าวน่าสนใจ:
- ชวนชิม 'ศรีบุญเรือน' ร้านข้าวต้มต้นตำรับ สืบทอดสามรุ่น เสน่ห์ร้านข้าวต้มยามค่ำคืน ที่รวมอาหารจีน อาหารเหลา อาหารใต้ไว้ในร้านเดียว
- ขาดสภาพคล่องขั้นรุนแรง! อธิบดีกรมท่าฯ ร่อนนส.ด่วน! แจ้งบอกเลิกสัญญาทิ้งงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสนามบินตรัง 1.2 พันล.แล้ว…
- ธุรกิจโก-ลกเริ่มหวั่น! นทท.ลดฮวบ-หลังมาเลย์ดีเดย์ 1 ธค.เข้า-ออกผิดกฎหมาย - จับทันที
- หนุ่มชลบุรีซิ่งมอไซค์ชนรถแม็คโครเจ็บสาหัส
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่าย วันที่ 7 สิงหาคม 2556 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง และได้คลิปจากกล้องหน้ารถของอีกคันที่สามารถบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะได้เดินทางไปที่บ้านของ นายวลงกช กรุดสัมพันธ์ อายุ 28 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังได้รับการรักษาและออกมาพักรักษาตัวต่อที่บ้าน พบว่าตามลำตัว นายวลงกช มีแผลถลอกจนหนังเปิดหลายแห่ง และไหปลาร้าขวาหัก ต้องคล้องผ้าประคองเอาไว้
นายวลงกช เล่าว่า ตนเองขี่รถจักรยานยนต์มาจากฝั่งคลองขุดโดยขับรถจักรยานยนต์มาเลนขวา พอก่อนถึงที่เกิดเหตุ เป็นที่กลับรถ พบรถเก๋งวิ่งมาเลนขวาสุดแต่ไม่กลับรถ ได้เบียดรถตนเองที่วิ่งตีคู่มาเพื่อหลบแบริเออร์ ตนจึงขับรถจักรยานยนต์หลบและขับตามหลังมาเพื่อบอกว่าขับรถเบียดตนเองทำไมและไม่ยอมขอโทษ พอเลยมาถึงที่เกิดเหตุ ตนขับรถตีคู่กับรถเก๋งเพื่อบอกให้เปิดกระจกพูดคุยกันหรือขอโทษตนเอง ระหว่างนั้นจู่ๆ คนขับรถเก๋งก็ขับรถเข้าออกมาทางซ้ายมาชนตนเองจนตนเองล้มคว่ำได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
พ.ต.ท.สพัศ ปราการพิทักษ์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.บางพลี กล่าว่า ในส่วนเรื่องคดี ตอนนี้ได้นำตัวคนขับรถเก๋งมาสอบปากคำแล้วส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บต้องรอเวลาให้หายดีก่อนจะเรียกมาสอบปากคำอีกครั้ง ส่วนการเกิดอุบัติเหตุ จะตั้งใจชนหรือไม่นั้นอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนทางคดี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: