เร่งล่าตัววัยรุ่นโหดใช้มีดยาวประมาณ 1 ฟุต ไล่ฟันท้ายทอยสองหนุ่มเขมรปางตาย ภายในซอยไทยประกันซอย 2 ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงผู้สื่อข่าวได้หลักฐานชิ้นใหม่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุม สามารถจับภาพได้ชัดเจน
อ่านข่าว สองหนุ่มเขมรขี่มอไซค์หันมองหน้าโจ๋เจ้าถิ่นถูกไล่ฟันท้ายทอยบาดเจ็บสาหัส
จากกรณีสองวัยรุ่นซึ่งคาดว่าจะเป็นวัยรุ่นเจ้าถิ่นขับขี่รถจักรยานยนต์ใช้มีดยาวประมาณ 1 ฟุต ไล่ฟันสองหนุ่มชาวกัมพูชา เข้าที่ท้ายทอยของสองหนุ่มชาวกัมพูชาจนรถล้ม ก่อนจะลงไปไล่ฟันซ้ำจนสองหนุ่มชาวกัมพูชาได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ก่อนจะขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายในซอยไทยประกันซอย 2 ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 6 สิงหาคม 2566
ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยง วันที่ 7 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้หลักฐานชิ้นใหม่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุม ที่สามารถจับภาพได้ชัดเจนในขณะที่ฝ่ายของคนเจ็บ ซึ่งก็คือสองหนุ่มชาวกัมพูชา ได้พากันขับขี่รถจักรยานยนต์หนีมาจากด้านในซอย จนมาถึงหน้าร้านจำหน่ายใบกระท่อมซึ่งเป็นจังหวะที่คนร้าย ซึ่งเป็นสองวัยรุ่นคาดว่าเป็นเจ้าถิ่นขับขี่รถจักรยานยนต์ตามมาทันแล้วคนที่นั่งซ้อนท้ายมาซึ่งเป็นมือมีด ได้ชักมีดฟันเข้าที่ท้ายทอยคนเจ็บที่ซ้อนท้ายจนรถจักรยานยนต์ล้มลง ทันทีที่รถจักรยานยนต์คนเจ็บล้ม คนที่ถูกฟันท้ายทอยคนแรกได้วิ่งหนีตายเข้าไปในซอยด้านข้าง โดยมีภาพจากกล้องอีกมุมจับภาพนาทีวิ่งหนีตายได้ ส่วนชายเสื้อดำชาวกัมพูชาที่เป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์ พอรถล้มเจ้าตัววิ่งหนีตายไปอีกด้าน แต่ถูกมือมีดวิ่งตามไปฟันซ้ำ ตามที่ปรากฏในภาพวงจรปิดที่ออกข่าวไปก่อหน้านี้
ส่วนความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง ผู้สื่อข่าวได้ไปพูดคุยกับชาวบ้านในละแวกดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวขอปิดชื่อและใบหน้าเพราะหวั่นเรื่องความปลอดภัย ชาวบ้านท่านนี้ บอกว่า ตอนเกิดเหตุตนเองขึ้นนอนแล้วพอได้ยินเสียงโวยวายก็ลงมาดูพบว่ากำลังก่อเหตุ ได้ยินเพียงว่าฝ่ายของคนที่ถือมีดบอกคนเจ็บให้ปล่อยมีดออก แต่ทั้งสองฝ่ายพูดภาษาไทยค่อนข้างชัด จึงไม่แน่ใจว่าเป็นคนไทยหรือต่างด้าว ซึ่งจากการฟังบอกต่อของคนในซอยทราบว่าฝ่ายของคนเจ็บเป็นพนักงานร้านคาร์แคร์ในละแวกซอยดังกล่าว ส่วนสาเหตุไม่ทราบว่ามาจากเรื่องอะไรหรือมีเรื่องอะไรกันมาก่อน
พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์ว่า ขณะนี้ให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาตัวผู้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งจะไล่กล้องวงจรปิดหาเบาะแสของผู้ก่อเหตุเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว
