แม่ร้องขอหมอปลาช่วยด้วย หลังลูกชายที่ประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับมารักษาตัวที่บ้านนานเกือบปี มีพระทักว่าลูกเสียชีวิตแล้ว ทำให้แม่มีความกังวลในเรื่องดังกล่าว เลยอยากให้ หมอปลา มาดูมาช่วยเหลือไขข้อข้องใจของคนใจครอบครัว
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 13 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ บ้านพักหลังหนึ่ง ภายในซอยวัดในสองวิหาร ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังจากที่ นางนัยนา พริทราร์ด อายุ 50 ปี (แม่) พร้อม นายก้องเกียรติ สายประดิษฐ อายุ 28 ปี (น้องชาย) ได้ร้องขอความช่วยเหลือวอนให้สื่อช่วย ติดต่อ หมอปลา มือปราบสัมภเวสี คนดัง ให้ช่วยมาดู และ ช่วยเหลือ นายอนันต์ จูนิยม อายุ 33 ปี ( ลูกชาย ) ที่นอนติดเตียงมาหลายเดือน หลังเกิดประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ผู้บาดเจ็บต้องนอนอยู่ในโรงพยาบาลกว่า 3 เดือน และ กลับมารักษาตัวที่บ้านกว่าครึ่งปีแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
โดยที่ผ่านมา ผู้เป็นแม่ ได้ไปทำบุญที่วัดใกล้บ้าน เนื่องจากก่อนหน้าที่ผู้บาดเจ็บจะประสบอุบัติเหตุนั้น ผู้บาดเจ็บมีความตั้งใจว่าจะ บวช ทดแทนพระคุณบิดามารดา แต่ก็มาเกิดเหตุเสียก่อน โดย ผู้เป็นแม่ ได้ไปถวายผ้าไตรจีวร กับ พระสงฆ์ โดยมีการจดชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด ของผู้ได้รับบาดเจ็บลงไปด้วย ก่อนที่พระรูปดังกล่าว จะ บอกว่า เอาชื่อคนตายมาทำไหม ทำให้ผู้เป็นแม่มีความกังวลในเรื่องดังกล่าว โดยที่ผ่านมาก็มีคนทักว่า ชื่อนามสกุลของลูกตนเองเป็นชื่อของคนตายไปแล้ว โดยมีทั้ง บอกว่าที่ผู้บาดเจ็บนั้นไปลบหลู่สิ่งสักสิทธิ์บ้าง เป็น ตัวตายตัวแทนบริเวณที่เกิดเหตุบ้าง ส่วนที่หนักสุดนั้น คือที่อยู่นั้นไม่ใช่ลูกตนเองเป็นใครก็ไม่รู้ เลยอยากให้ หมอปลา มาดูมาช่วยเหลือ นายอนันต์ และ ไขข้อข้องใจของคนใจครอบครัวด้วย
นางนัยนา พริทราร์ด อายุ 50 ปี (แม่) เล่าว่า เหตุดังกล่าวเกิดวันที่ 21 ธันวาคม 65 เขาขี่รถออกไปข้างนอกแล้วไปเกิดอุบัติเหตุ แล้วหมอแจ้งตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม ปีที่แล้วว่าสมองเขาตายเปอร์เซ็นต์รอดเป็นศูนย์ โอกาสรอดเป็นศูนย์ในหัวสมองมีแต่เลือดไม่เห็นสมอง แล้วทีนี้วันที่ 23 แม่ก็ไปขอขมาตรงที่เกิดเหตุ แม่ไปดูตรงที่เกิดเหตุมันมีต้นไม้อยู่ต้นหนึ่งมีพวงมาลัยมีผ้าสามสีผูกแม่ก็เลยไปขอขมาตรงนั้นเอาของเซ่นไหว้ไป พอแม่เลี้ยวรถออกมาหมอก็โทรมาบอกคนไข้ม่านตาตอบสนองต้องผ่าตัดด่วนก็เลยผ่าตัด พอผ่าตัดเสร็จเขาฟื้นตัวก็ขยับเขยื้อนได้แรงเยอะมาก มันไม่น่าจะใช่แบบคนที่ผ่าสมองมาก็ต้องมัดมือมัดแขน แม่สังเกตดูหน้าว่ามันเหมือนไม่ใช่ลูกเรา แล้วทีนี้ก่อนที่เขาจะเกิดอุบัติเหตุเขาก็ตั้งใจอยากจะบวชแม่ก็เลยซื้อผ้าไตรไปถวายสังฆทานแม่ก็เลยเขียนชื่อเขาไป พอเขียนชื่อเขาไปเสร็จพระเขาก็หยิบใบชื่อเขาไปดูก็บอกว่าชื่อนี้ตายแล้วนิ แม่ก็บอกว่ายังค่ะ นอนอยู่โรงพยาบาล พระบอกตายแล้วที่อยู่ไม่ใช่เขาเหมือนแบบว่าแฝง เลยทำให้แม่ใจเสีย แล้วแม่ก็มาสังเกตดูเพราะว่าวันพระวันโกนเขาจะไม่ยอมนอนตาเขาจะจ้องอยู่ตลอด ตาจะแบบตาเหลือก แบบไม่ใช่หน้าลูกเราหน้าจะดำไม่ใช่ลูกเรามองแล้วไม่ใช่ลูกเรา แล้วทีนี้น้องสะใภ้เขามีปู่ที่นับถือเขาก็ไปดูแล้วก็ยังไม่พูดอะไรเขาก็เอารูปในโทรศัพท์ให้ดู พอปู่ดูก็ว่าเอารูปคนตายมาให้ดูทำไม ให้ลบทิ้งไปเลยเอาออกจากโทรศัพท์ไปเลย ช่วงแรกๆ แฟนเขาเอาดวงไปดูที่พระที่อะไรอย่างนี้บอกว่าเขาไปลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถึงได้เกิดเหตุ แล้วลูกเราก็ผอมลงๆ แล้วบางทีมันมีความรู้สึกเหมือนมีกลิ่นเหม็น เหม็นเหมือนที่ไม่ใช่กลิ่นคน แม่ก็เลยพยายามเสาะหาว่าจะติดต่อหมอปลาทางไหนดี แม่ก็เลยเสิร์ชกูเกิล ก็เลยได้เจอเบอร์โทรน้องสะใภ้ก็เลยโทรไป แม่อยากให้หมอปลาเข้ามาช่วยเพราะอยากจะรู้ว่าที่อยู่ทุกวันนี้คือลูกเราไหม ใช่อย่างที่พระพูดไหม มันจริงหรือเปล่า เพราะเขาผอมลงๆ จากคนอ้วนมีเนื้อมีหนังก็ให้กินอาหารปกติเพราะเขากินอาหารทางสายยาง ตรงที่เกิดเหตุมีต้นไม้ มีผ้าสามสี มีพวงมาลัย แล้วแม่ก็ยามยามเพราะอยู่ตรงหน้าโรงงานพอดี ว่าตรงนี้เคยมีเกิดเหตุไหม เขาก็บอกว่าเขาไม่รู้เพราะเขาพึ่งมาอยู่ แล้วตอนที่เกิดเหตุเราดูที่กล้องแล้วว่ารถไม่ได้ขี่เร็ว แล้วสถานที่มันเป็นหลุมๆ ไหล่ทาง เหมือนรถเขาตกหลุมแล้วเหินไปโหม่งเสาไฟฟ้าแล้วรถเขาก็ตกลงไปในน้ำ แต่ตัวเขาไปค้างอยู่บนต้นไม้ที่มีผ้าสามสีผูกอยู่ ที่คนที่เขาเห็นเหตุการณ์บอก
แม่อยากให้หมอปลามาดูว่าทุกวันนี้ที่อยู่คือลูกเราหรือว่าเป็นอย่างที่พระบอกว่ามีสัมภเวสีแฝงอยู่ แล้วพอมามองดูอาการลูกเราคือลูกเราผอมลงๆ มันก็เลยทำให้เราคิดหลายๆ อย่างว่าคือมันยังไงกันแน่และเขาก็พูดไม่ได้มันก็เลยยิ่งทำให้เราอยากให้หมอปลาเข้ามาช่วย คนที่ทักว่าลูกเราตายแล้วมีพระ มีปู่ และมีหมอดูดวง ประมาณ 3-4 คนที่ทัก หลังจากนั้นมาแม่ก็สังเกตุวันพระวันโกนไม่ยอมนอน ธรรมดาเขาจะนอนกลางคืนก็นอนปกติเหมือนคนปกติแต่พอวันพระวันโกนเขาจะไม่นอนตาเขาจะลืมอยู่อย่างนั้นเหมือนตาเหลือกอยู่ย่างนั้นอยู่ได้ตลอด เป็นเฉพาะวันโกนวันพระ เป็นมานานแล้วตั้งแต่กลับมาจากโรงพยาบาล วันที่ 21 ธันวาคม นี่ก็ครบปีแล้ว
นายก้องเกียรติ สายประดิษฐ อายุ 28 ปี ( น้องชาย ) เล่าว่า พี่ชายมีอาการตาเหลือกลอยอยู่เป็นประจำจะเป็นช่วงวันพระ วันโกนที่แม่บอก ผมก็เข้ามาดูแลตลอด คอยสังเกตอาการ คอยกระซิบคุยกับเขา ถามพูดได้ไหม บอกได้ไหม เขาก็ตาลอยหันหน้าหนี ประมาณนี้ครับ ในมุมมองผมที่ผมมองฝั่งซ้ายไม่ใช่เขาเลยครับ แต่ฝั่งขวาครึ่งหน้าเป็นหน้าเขา ที่มุมมองผมสัมผัสเขาได้ เรื่องที่พี่ชายไปลบหลู่อะไรอันนี้ไม่ทราบเพราะช่วงหลังๆ ไม่ค่อยได้คุยกันพอมาเกิดอุบัติเหตุผมก็เลยมาดูแลเอาใจใส่เขา อยากให้หมอปลาเข้ามาช่วยดูว่าใช่พี่หรือเปล่า เพราะรอบนั้นผมทักไปในติ๊กต๊อกครับไปเจออยู่ช่องหมอปลาช่วยด้วย มีเคสแถวบ้านเหมือนกันครับเป็นรุ่นพี่ครับอาการเดียวกันผมก็เลยเข้าไปคอมเม้นต์ครับอยากให้หมอปลามาช่วย อยากรู้ว่าใช่พี่ผมจริงหรือเปล่า
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: