ลูกบ้านโหดขับกระบะตามท้ายรถจักรยานยนต์ของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ก่อนจะเปิดประตูเดินปรี่เข้ามาทำร้ายผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ก่อนที่คนขับกระบะจะเดินมาพร้อมไม้เบสบอลฟาดไปที่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านจนสลบลงไปกองกับพื้น ก่อนจะขึ้นรถขับหนีไป ล่าสุดผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านพึ่งออกจากห้อง ไอซียู แต่แพทย์ยังคงให้รักษาตัวที่โรงพยาบาลดูอาการเลือดที่คลั่งในสมองว่าต้องผ่าตัดหรือไม่
ภาพวงจรปิดภายในหมู่บ้านชลเทพ ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จับภาพได้ในขณะที่ นาย สมหวัง หิรัญทัศน์ อายุ 58 ปี (เสื้อฟ้า) ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 ตำบลบางพลีใหญ่ ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากลานกิจกรรมของหมู่บ้าน ภายหลังจากที่ได้ร่วมกับคนในชุมชนแห่งนี้ ช่วยกันเก็บกวาด ตัดต้นไม้ และทำกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันแม่ เป็นที่เรียบร้อย ก็กำลังจะขับขี่รถจักรยานยนต์ไปซื้อกับข้าว ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ถึง 500 เมตร เท่านั้น ในภาพจะเห็นว่าหลังจากที่ นายสมหวัง ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาไม่ถึงนาทีก็พบว่ามีรถยนต์กระบะ สีดำ ขับไล่ตามหลังไปติด ๆ จังหวะที่ นายสมหวัง กำลังเลี้ยวเข้าร้านอาหารในละแวกดังกล่าว รถยนต์กระบะคันดังกล่าว ที่มีชายนั่งมาในรถ ได้จอดรถเปิดประตูปรี่ลงไปหา นายสมหวัง แล้วชกเข้าที่ใบหน้า นายสมหวัง จนตกจากรถจักรยานยนต์ จากนั่นมีชายคนขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ถือไม้เบสบอล ตามลงมารุมฟาดไปที่ศีรษะ นายสมหวัง จนสลบกองกับพื้น ก่อนจะขับรถหลบหนีไป จากคลิปดังกล่าวถือว่าเป็นการก่อเหตุอุกอาจกลางชุมชนแถมยังผู้ถูกกระทำเป็นถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง
ล่าสุด เมื่อช่วงเย็น วันที่ 15 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้น ไปพูดคุยกับ นาง พรวิภา เรืองนก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ตำบลบางพลีใหญ่ เล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุ คือช่วงบ่ายสีโมงของวันที่ 12 สิงหาคม ที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้ช่วยสมหวังและลูกบ้านช่วยกันทำกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเป็นที่เรียบร้อยก็กำลังจะไปสั่งกับข้าวมาทานกันจนขับรถออกไปถึงหน้าร้านก็ถูกชายวัยกลางคนสองคนลงมาทำร้ายร่างกายจนเลือดคลั่งในสมอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยเหลือส่งโรงพยาบาล เบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นลูกบ้านในชุมชนแห่งนี้ ซึ่งทางตำรวจทราบตัวทั้งสองคนแล้ว แต่ไม่ทราบว่าขณะนี้คดีไปถึงไหน แต่ในเบื้องต้นตนเองในฐานะหัวหน้าของผู้ช่วยสมหวังก็มีการไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ก่อเหตุทั้งสองแล้ว ส่วนสาเหตุเพียงแค่มาจากในวันดังกล่าวช่วงเช้า ทางผู้ช่วยได้รับแจ้งว่าบ้านของหนึ่งในผู้ก่อเหตุมีการตีลูกเสียงดังและรุนแรง ผู้ช่วย ด้วยความที่เป็นผู้นำของชุมชน และเกรงว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น จึงไปสอบถามทางพ่อเด็กว่าเกิดเรื่องราวอะไร ฝ่ายพ่อเด็กบอกกลับมาว่าตีลูกเท่านั้น ซึ่งผู้ช่วยก็กลับออกมาโดยคิดว่าเป็นเรื่องของพ่อลูกกันไม่มีอะไรรุนแรงจากนั้นก็มาร่วมกับลูกบ้านทำกิจกรรมวันแม่ จนต่อมาช่วงบ่ายมาถูกตามไปทำร้ายร่างกาย ซึ่งมาตรวจสอบกล้องกันภายหลังจนทราบว่ามีการรุมทำร้ายอย่างอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ส่วนอาการของผู้ช่วยล่าสุดเพิ่งออกจากห้อง ไอซียู แต่แพทย์ยังคงให้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล เพื่อดูผลอาการเลือดที่คลั่งในสมองว่าจะต้องถึงขั้นผ่าตัดหรือไม่
นาย อภิวัฒน์ ปั่นอุ๊ค ผู้เห็นเหตุการณ์ ระบุว่า ในวันเกิดเหตุ ตนเองอยู่ในร้านอาหารตรงจุดเกิดเหตุพอดี หันมาเห็นว่ามีคนถูกคนขับรถกระบะสีดำกำลังรุมทำร้ายร่างกายอยู่ จึงรีบออกมาดู แต่ไม่ทันผู้ก่อเหตุได้ขับรถหลบหนีไปก่อน
