กลุ่มมอเตอร์ไซค์ดวงซวย ถูกกระบะขับมาจากฝั่งท่าน้ำพระประแดง จนมาถึงที่เกิดเหตุได้เลี้ยวตัดหน้าพุ่งชนกลางลำ 5 คันรวด มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 ราย เสียชีวิต 1 ราย บนถนนปู่เจ้าสมิงพราย ด้านคนขับกระบะ ยอมรับว่าดื่มมาจริง แต่ยังมีสติดี
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 19 สิงหาคม 2566 ร.ต.อ.ปัญญาพล บุญศรี รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงใต้ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์หลายคันชนรถยนต์กระบะ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บนถนนปู่เจ้าสมิงพราย บริเวณฝั่งตรงข้ามซอยผลละมัย ตำบลสำโรงกลาง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้า และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ข่าวน่าสนใจ:
- ชัยภูมิชาวโนนทองสืบสานประเพณีนอนลานตีข้าวเปิดลานศูนย์รวมสุดยอดสินค้าอาหารพื้นบ้านไทยส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 68 คึกคักกว่าทุกปี!
- เปิดศึกชิงนายก อบจ.ปัตตานี อดีต สส.ท้าชน อดีตนายก อบจ.4 สมัยเดือดตั้งแต่วันแรก (มีคลิป)
- พิธีเปิดนิทรรศการฟอสซิลช้างดึกดำบรรพ์และสัตว์ร่วมยุคในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
- “วิทยา แก้วภราดรัย” รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ยันการแก้ปัญหาน้ำมันแพง เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อประชาชน ไม่หวั่นปัญหาพรรคที่เกิดขึ้น
ในที่เกิดเหตุ บนถนนเลนซ้าย พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า ฟอร์ซ่า สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนล้มอยู่ หน้าพังยับเยิน ใกล้กับพบร่าง นายสุชนัย จองจิตบริสุทธิ์ อายุ 35 ปี นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนถนน ใกล้กันบริเวณฟุตบาท พบ นายเมธา ผากทอง อายุ 26 ปี ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ชีพให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้าฯ ใกล้กับพบ นายนิตินันท์ วัชโรสินธ์ อายุ 23 ปี ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ชีพให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลบางประกอก 3 ที่กลางถนน พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า เอ็กซ์แม็กซ์ สีเทา ทะเบียน 2 ขพ 4537 กรุงเทพมหานคร สภาพหน้าพังยับ ชนติดอยู่ตรงซุ่มล้อรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีน้ำเงิน ทะเบียน ษล 578 กรุงเทพมหานคร ด้านข้างฝั่งซ้าย และท้ายรถฝั่งขวา พังยับ ห่างออกไปไม่ไกล ที่บริเวณกลางถนนพบ นายธนากร การรักเรียน อายุ 30 ปี นอนตะแคงอยู่กลางถนน ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ชีพให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า ฟอร์ซ่า สีเทา ทะเบียน 3 ขอ 9410 กรุงเทพมหานคร ล้มอยู่สภาพหน้าพังยับเยิน ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร ริมขอบฟุตบาท พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า ฟอร์ซ่า สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพหน้าพังยับเยิน เลขไมชี้ค้างอยู่ 110 ห่างออกไปไม่ไกลบนฟุทบาท พบ นายเฉลิมพร พลายชุมพล อายุ 28 ปี นอนอยู่ข้างทางขยะ ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ชีพให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ห่างออกไปไม่ไกลพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า ฟอร์ซ่า สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้มอยู่กลางถนน
หลังเกิดเหตุไม่นานพบว่ามีญาติของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ ทันทีที่เห็นผู้เสียชีวิตถึงกับเข่าทรุดร้องไห้ฟูมฟายด้วยความเสียใจ และเข้ากอดศพทันที เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปประคองหญิงคนดังกล่าวออกมาเกรงว่าจะเป็นลมช็อกไปอีกราย
จากการสอบถามนายตี๋ พยานที่เห็นเหตุการณ์อีกคน ให้ข้อมูลว่าตนเองเห็นรถกระบะคันเกิดเหตุขับเร่งเครื่องควันดำกลบถนนมาตั้งแต่แยกท่าน้ำพระประแดง จนมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งตนเองขับตามหลังมาในเลนขวาสุด ส่วนรถกระบะอีซูซุสีน้ำเงินคันเกิดเหตุมาในเลนกลางของถนนพอมาถึงที่เกิดเหตุรถคันดังกล่าวทำท่าจะเลี้ยวกลับรถ ซึ่งตนเองอยู่ขวาสุดจึงเร่งเครื่องแซงจนพ้นรถกระบะก็เลี้ยวกลับรถทันทีซึ่งเป็นจังหวะที่รถจักรยานยนต์ออกตัวมาจากแยกไฟแดงพอดีจึงเบรกกันไม่ทันพุ่งชนรวด 5 คัน
ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนให้การสอดคล้องตรงกันว่า พบเห็นรถกระบะสีน้ำเงินคู่กรณี ขับมาจากฝั่งท่าน้ำพระประแดง จนมาถึงที่เกิดเหตุได้เลี้ยวกลับรถกะทันหัน ซึ่งเป็นจังหวะที่รถจักรยานยนต์กลุ่มนี้ทั้ง 5 คัน จับกลุ่มออกตัวด้วยความเร็วจากแยกไฟแดงวัดสวนส้มพอดี จึงเบรกไม่ทันพุ่งชนอย่างจังพร้อมกัน 5 คันรวดจนทำให้คนขับขี่รถจักรยานยนต์ทั้งหมดกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง
ส่วนนาย นิกร เหล้าผักสาร อายุ 40 ปี คนขับรถกระบะคันเกิดเหตุบอกว่า ตนเองเพิ่งออกมาจากร้านเหล้าแถวท่าน้ำพระประแดง กำลังมุ่งหน้ากลับบ้านแถวมหาวงศ์ แต่ยังไม่ทันถึงบ้าน อ้างว่าเพื่อนโทรตามให้กลับไปกินต่อ จึงเปิดไฟเลี้ยวเพื่อเลี้ยวกลับรถไปหาเพื่อน แต่กลุ่มรถจักรยานยนต์ คู่กรณี นายนิกร คนขับอ้างว่าพากันแข่งมาด้วยความเร็ว จึงพุ่งชนรถตนเองอย่างแรง ยอมรับว่าดื่มมาจริง แต่ยังมีสติดี
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะเชิญพยานที่เห็นเหตุการณ์ไปให้การเพิ่มเติม พร้อมทั้งคุมตัวคนขับกระบะไปสอบปากคำ และตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดอีกครั้ง หากพบว่าสูงเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่ากฎหมายกำหนด ก็จะถูกแจ้งข้อหา เมาแล้วขับเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บสาหัส อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุอีกครั้ง และมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: