X

มารดาเหยื่อโจรกัญชานั่งรถทัวร์จากร้อยเอ็ดมาเผาศพลูกชาย ด้านภรรยาคลอดก่อนกำหนดในวันเผาศพพ่อ

มารดาเหยื่อโจรกัญชานั่งรถทัวร์จากร้อยเอ็ดมารับศพลูกชายมาเผาทันที เนื่องจากครอบครัวไม่มีเงินทำศพ ที่วัดบางพลีใหญ่กลาง ขณะเดียวกันด้านภรรยาคลอดก่อนกำหนดในวันเผาศพพ่อ ที่โรงพยาบาลจังหวัดชลบุรี โดยได้บุตรชาย พระครูแจ้ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง เปิดเผยว่าสำหรับการรับศพนายพรเทพมาฌาปนกิจที่วัดบางพลีใหญ่กลางครั้งนี้ ทางวัดของรับเป็นเจ้าภาพค่าใช้จ่ายทั้งหมดโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดทั้งสิ้น

จากกรณีที่นายพรเทพ ศรีวรรณ อายุ 29 ปี พาภรรยาท้อง 8 เดือน นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ออกไปซื้อข้าว ก่อนที่จะกลับมาพบกับ นาย อนุ บุณกลั่นสอน อายุ 33 ปี (ผู้ก่อเหตุ) ที่กำลังลักตัดต้นกัญชาบริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ภายในซอยบ้านของผู้เสียชีวิต ระหว่างที่นายพรเทพ (ผู้เสียชีวิต) กลับมาจากซื้อกับข้าว ได้พบกับผู้ก่อเหตุกำลังตัดต้นกัญชา จึงหันไปมอง แต่กลับถูกผู้ก่อเหตุพยายามใช้มีดแทงภรรยา จึงรีบบิดรถจักรยานยนต์หนีทำให้รถเสียหลักล้ม จากนั้นผู้ก่อเหตุถือมีดปรี่จะเข้าไปทำร้ายภรรยา ทำให้นายพรเทพ ต้องออกมาปกป้องภรรยาจึงถูกคนร้ายแทงเข้าที่ใต้ราวนมด้านซ้ายอาการสาหัสแพทย์ช่วยกันยื้อชีวิตแต่ไม่เป็นผล นายพรเทพ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนภรรยาผู้เสียชีวิตได้รับบาดเจ็บจากสาเหตุรถจักรยานยนต์ล้มมีบาดแผลที่ริมฝีปาก และตามร่างกายหน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง สืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุหลบหนี้ไปซ่อนตัวอยู่บนหลังคาบ้านของผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่กว่า 50 นายจึงนำกำลังปิดล้อมเจรจานานกว่า 3 ชั่วโมง แต่ไม่เป็นผล ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าชาร์จตามยุทธวิธีโดยใช้ปืนลูกซองกระสุนยาง และปืนไฟฟ้า จึงสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 4 กันยายน 2566 ที่หน้าบ้านพักเลขที่ 202/220 ภายในซอย 6 หมู่บ้านการเคหะเมืองใหม่บางพลี หมู่ 16 ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 6 กันยายน 2566 ที่ วัดบางพลีใหญ่กลาง ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เคลื่อนย้ายร่างไร้วิญญาณ ของ นาย พรเทพ ศรีวรรณ อายุ 29 ปี มาทำการ ฌาปนกิจศพ ทันที ตามความประสงค์ของ นาง ศิริกุล ไชยเสนา อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นมารดาผู้ตาย ต้องนั่งรถทัวร์จากจังหวัดร้อยเอ็ดมารับศพลูกชายมาเผาทันที เนื่องจากครอบครัวไม่มีเงินทำศพ ท่ามกลางเพื่อนร่วมงาน นายกเหล่ากาชาติจังหวัดสมุทรปราการ ตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัด หวัดหน้าส่วนราชการ และ พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง เดินทางมาร่วมไว้อาลัยในครั้งนี้ โดยมีการรวบรวมเงินทุนจากหน่วยงานต่าง ๆ และเพื่อนร่วมงานมอบให้กับมารดาและบุตรชายแรกเกิดของผู้เสียชีวิต  ขณะเดียวกันมีรายงานทางด้าน นางสาว ศิริพร สิงห์ขัน อายุ 37 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิตที่ตั้งครรภ์ท้องแก่นั้น ได้คลอดก่อนกำหนดที่โรงพยาบาลจังหวัดชลบุรี โดยได้บุตรชาย

พระครูปลัดสุวัฒนศิลคุณ  หรือพระครูแจ้ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง เปิดเผยว่าสำหรับการรับศพนายพรเทพมาฌาปนกิจที่วัดบางพลีใหญ่กลางครั้งนี้ ทางวัดของรับเป็นเจ้าภาพค่าใช้จ่ายทั้งหมดโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดทั้งสิ้น ซึ่งหลังจากที่ทางวัดได้รับการประสานจากมูลนิธิร่วมกตัญญูและสื่อท้องถิ่นก็ยินดีที่จะจัดการศพให้กับทางครอบครัว พร้อมกันนี้พระครูแจ้ยังมอบเงินสดหนึ่งหมื่นบาทให้เป็นค่านมบุตรชายของนายพรเทพอีกด้วย

พระครูแจ้ยังเปิด เผยอีกว่า สำหรับวัดบางพลีใหญ่กลางแห่งนี้ ยินดีช่วยเหลือศพยากไร้ทุกกรณีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายหากประสานขอความช่วยเหลือมา

นาง ศิริกุล มารดาของผู้ตาย เปิดใจว่า ตนเองมีบุตรทั้งหมด 3 คน นายพรเทพ เป็นบุตรคนกลาง ที่ผ่านมา นายพรเทพ ถือว่าเป็นลูกที่ดีและดิ้นรนทำงานมาตั้งแต่เด็กจนกระทั่งมามีครอบครัวที่สมุทรปราการและทำงานโรงงาน ตนเองอยู่บ้านที่ร้อยเอ็ดมาทราบข่าวตอนเที่ยงคืนกว่า ก็ช็อกเหมือนกันไม่คิดว่าบุตรชายจะมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ถามว่าโกรธผู้ก่อเหตุไหม ตนเองไม่โกรธและอโหสิกรรมให้ ยิ่งพอได้คุยกับมารดาของผู้ก่อเหตุก็ยิ่งเข้าใจถึงหัวอกคนเป็นแม่ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใคร ส่วนหลานชายและภรรยาของ นายพรเทพ ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสได้เจอหน้าหลานชายที่เพิ่งคลอดหรือพูดคุยกับลูกสะใภ้แต่อย่างใด และหากลูกสะใภ้จะให้หลานชายมาให้ตนเองดูแลก็ยินดีไม่ติดขัดอะไร รวมถึงลูกสะใภ้

พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง เปิดเผยทางคดีว่า สำหรับผู้ต้องหา จากการสอบปากคำของพนักงานสอบสวนก็ให้การรับรู้ทุกอย่างปกติดี และยอมรับว่าใช้มีดแทงผู้ตายจริง อ้างว่าตกใจที่มีคนมาเห็น ทั้งนี้ก็ได้ส่งตัวฝากขังศาลจังหวัดสมุทรปราการผลัดแรกแล้ว ซึ่งไม่ได้รับการประกันตัว ส่วนข้อกล่าวหา ได้แจ้งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ พกพาอาวุธมีดไปในทางเมืองสารธารณะ ส่วนประเด็นที่ว่าป่วยวิกลจริตจริงไหมนั้นต้องให้ทางครอบครัวนำเอกสารรับรองจากแพทย์ยื่นต่อศาล ต่อไป

ขณะเดียวกัน พระครูสมัย  จินตะโฆสโก ประธานมูลนิธิกลุ่มแสงเทียน และเป็นเจ้าอาวาสวัดบางไส้ไก่ นำข้าวสารและไก่แช่แข็งมาแจกจ่ายให้กับผู้ที่มาร่วมงานในวันนี้อีกด้วย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน