X

นายจ้างโหด รัวยิงคนงานตัวเอง 4 นัดดับคาที่ ชาวบ้านถูกลูกหลงเจ็บ 1 ราย

นายจ้างโหด ควักปืนรัวยิงคนงานตัวเอง 4 นัดดับคาร้านสนุกเกอร์ ปลอกกระสุนกระเด็นไปโดนเข้าที่บริเวณขาชาวบ้านเจ็บอีก 1 ราย ก่อนจะขึ้นห้องไปหยิบกุญแจรถยนต์กระบะขับหลบหนีไป เหตุเกิดภายในร้านสนุ๊กเกอร์ ภายในซอยไทยประกัน 2/2 ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 กันยายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุ ทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธปืน ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณหน้าโต๊ะสนุกเกอร์ ภายในซอยไทยประกัน 2/2 ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามระดับชั้น พร้อมประสาน ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัด แพทย์เวรโรงพยาบาลบางเสาธง และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุ บริเวณโต๊ะหินอ่อน พบ ร่าง นายสมพร แสงอาทิตย์ อายุ 54 ปี นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่กับพื้น มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด ถูกยิงเข้าที่ ศีรษะด้านหลังทะลุตาขวา ถูกยิงด้านหลังทะลุหน้าท้อง และ ถูกยิงที่บริเวณขาซ้าย เจ้าหน้าที่จึงปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้า ส่วน ผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อ นายอรรพล ทองเปลว อายุ 56 ปี เป็นนายจ้างของผู้เสียชีวิต หลังจากก่อเหตุได้ขับรถกระบะ หลบหนีไป เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว และ ในจุดเกิดเหตุยังพบ ผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย เป็นพ่อค้าขายอาหารตามสั่ง ถูกลูกหลงโดนความร้อนปลอกกระสุนปืนกระเด็นเข้าที่บริเวณขา เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาลบางพลี ในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ที่พื้นจำนวน 4 ปลอก

ภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพ นายอรรพล (ผู้ก่อเหตุ) (เสื้อกล้ามขาวกางเกงขาสั้น) เดินออกมาจากอพาร์ทเม้นท์ฝั่งตรงข้ามเข้ามาที่โต๊ะสนุ๊กเกอร์ ที่มี นายสมพร (ผู้ตาย) นั่งเล่นอยู่ภายในร้าน กล้องวงจรปิดภายในร้านสนุ๊กเกอร์ พบว่ามีคนมาเล่นสนุ๊กเกอร์ตามปกติแล้ว และนายสมพร  (เสื้อฟ้ากางเกงขายาวสีดำจุดขาว ) กำลังเล่นสนุ๊กเกอร์เพลินๆ กับเพื่อนๆ รวม 3 คน  ระหว่างนั้น นายอรรคพล ผู้ก่อเหตุ เดินทางมาตะโกนถามหาอะไรบางอย่าง คล้ายกับต่อว่า นายสมพร จนเกิดมีปากเสียงและท้าทายกัน ทำให้นาย สมพร พยายามวิ่งเข้าหา นายอรรคพล แต่ถูก นายอรรคพล ชักปืนพกสั้น ออโตเมติก สีดำ ที่พกเหน็บเอวด้านหน้ามา ชักขึ้นลำ รัวยิงใส่ นายสมพร 4 นัด อย่างเลือดเย็น ก่อนจะเดินออกจากร้านไป กลับไปที่อพาร์ตเม้นต์ แล้วรถกระบะออกมาขับหลบหนีไปจากที่เกิดเหตุ

จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง พบว่า ผู้เสียชีวิตกับผู้ก่อเหตุนั้น เป็น ลูกจ้างกับนายจ้าง โดยที่ผู้ก่อเหตุนั้นเป็นนายจ้างเป็นเจ้าของอพาร์ตเมนต์ และ ตัวผู้เสียชีวิตนั้นเป็นช่างประจำตึก ซึ่งเมื่อวานนี้ทั้งคู่พึ่งจะมีปากเสียงกัน เรื่องการทำโครงหลังคาไม่ถูกใจนายจ้าง จากที่ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เมื่อวานเข้าพูดกัน ส่วนทางด้าน ญาติ ของผู้เสียชีวิตที่เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ เล่าว่า เมื่อวานผู้เสียชีวิตนั้นได้มาเล่าให้ฟังอยู่ว่ามีปัญหากับนายจ้างและเกิดการโต้เถียงกันนิดหน่อย

ส่วน นายประกอบ พ่อค้าขายของที่ถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า ตนเองนั้นเล่นโทรศัพท์บริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ แต่ตนเองก็ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะตนเองนั่งเล่นโทรศัพท์ได้ยินแต่เสียงปืนดัง 3-4 นัด ส่วนก่อนเกิดเหตุการณ์นั้น ได้ยินแต่ว่าผู้ก่อเหตุนั้นได้มาทวงคีย์การ์ดเข้าตึก หลังจากนั้นตนเองก็ไม่ได้ฟังว่าเขาคุยอะไรกัน ก่อนที่จะมีการยิงกัน ซึ่งหลังก่อเหตุผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไป

ป้าอุ๊ เล่าว่า ตนเองได้ยินผู้ก่อเหตุมาถามเอาคีย์การ์ดจากตาพร (คนตาย) แล้วก็ทะเลาะกันเรื่องจะแจ้งตำรวจ สักพักตนก็ได้ยินแต่เสียงปืน ประมาณ 4 นัด หลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินอะไรอีกเลย คนตายมานั่งกินข้าวตั้งแต่เช้า คนตายเป็นนิสัยดี เมื่อวานตอนเย็นเขาก็ทะเลาะกันแล้วรอบนึ่ง เรื่องต่อเติมหลังคา เหมือนบ่นน้อยใจ อยู่ไม่ได้เขาไม่ให้เหยียบตึก จะหางานทำใหม่ ปกติเขาเป็นคนไม่กินเหล้า เขาอยู่มาหลายปีแล้ว ก่อนหน้าที่คนก่อเหตุก็เคยไล่ยิงคนมารอบหนึ่งแล้ว คนก่อเหตุเป็นคนขอบพกปืนแบบนี้ประจำพอโมโหเขาก็มายิงขู่แบบนี้ประจำ

ด้านนายยอด เล่าว่า ผู้ตายสั่งข้าวร้านข้าง ๆ แต่มารออยู่ที่โต๊ะสนุก ส่วนผู้ก่อเหตุเดินลงมาจากตึกเพื่อที่จะมาเคลียร์ปัญหากับคนตาย ที่โต๊ะสนุก พอคนตายเห็นผู้ก่อเหตุก็ได้ทะเลาะกันเสียงดังอยู่ ก่อนที่ผู้ตายจะเดินเข้าไปหาผู้ก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุก็ควักปืนออกมายิงใส่ผู้ตาย จำนวน 4 นัด แล้วผู้ก่อเหตุเขาก็เดินกลับไปบ้าน หลังจากนั้นตนก็ไม่เห็นแล้ว คนตายตนก็พอรู้จักอยู่เขาทะเลาะกับเถ้าแก่เขาทะเลาะกันน่าจะเรื่องงาน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิดำเนินการส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์สมุทรปราการ ส่วนผู้ก่อเหตุขณะนี้ยังหลบหนีพร้อมอาวุธปืนตำรวจได้วิทยุสกัดจับทั้งจังหวัดแล้วแต่ยังไร้วี่แวว หลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน