พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง.ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ แถลงผลการจับกุมแก๊งลักรถจักรยานยนต์ ในพื้นที่ อำเภอพระประแดง และ พื้นบางพลี และคดีน่าสนใจ โดย พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย กล่าวว่า คดีลักรถนี้ถือว่าค่อนข้างยาก และอยากได้จะฝากถึงคนที่คิดจะมาก่อเหตุในสมุทรปราการ ว่าคุณเข้ามาก่อเหตุในเขตสมุทรปราการเมื่อไร ผมอาจจะจับคุณไม่ได้ทันที แต่คุณไม่รอดแน่นอน
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 กันยายน 2566 พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง.ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ / พ.ต.อ.ประเสริฐสุข เฮงสุวรรณ์ ผกก.สภ.พระประแดง / พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของทั้งสองโรงพัก ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมแก๊งลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ อำเภอพระประแดง และ พื้นที่ใกล้เคียง และคดีอื่นในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ข่าวน่าสนใจ:
- “วิทยา แก้วภราดรัย” รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ยันการแก้ปัญหาน้ำมันแพง เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อประชาชน ไม่หวั่นปัญหาพรรคที่เกิดขึ้น
- คึกคัก นาย"บุ่นเล้ง" อดีตนายกอบจ.ตรัง นำทีมนายกบุ่นเล้ง สมัครครบ 30 เขต ท่ามกลางกองเชียร์คับคั่ง
- คึกคักกว่าทุกปีสุดยอดงานสืบสานประเพณีตีคลีไฟหนึ่งเดียวในโลก!
- ศึกชิงนายก อบจ.สมุทรปราการ คึกคัก
คดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ บริเวณท้ายซอยสุขสวัสดิ์ 76 ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 เวลาประมาณ 00.30 น. และ บริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์ 78 แยก 9 ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2566 เวลาประมาณ 04.50 น. โดยเจ้าหนาที่ตำรวจ สามารถจับกุมผู้ต้องหา 1.นายพิสุทธิ์ เยี่ยมโพธิ์ศรีอายุ 31 ปี / 2.นายกิตติศักดิ์ พลอยทับทิม อายุ 39 ปี แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะฯ พร้อมด้วยของกลาง 1.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 125 แอลอีดี สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน (ใช้ก่อเหตุตรวจยึดได้ บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 299/265 ม.12 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ) / 2.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีน้ำเงินเทา (ได้จากการก่อเหตุตรวจยึดได้บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 299/265 ม.12 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ) / 3.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 100 เอส สีแดงดำ (ได้จากการก่อเหตุ ตรวจยึดได้บริเวณในป่า ท้ายซอย สุขปราการ สุขสวัสดิ์ 84 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ) โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 299/265 ม.12 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2566
คดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ บริเวณหมู่บ้านพัชราภรณ์ ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2566 และ บริเวณหลังวัดจวนดำรงราชพลขันธ์ ต.ตลาด อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 โดยเจ้าหนาที่ตำรวจ สามารถจับกุมผู้ต้องหา นายอดิรุจ จิตรภิรมย์ อายุ 26 ปี แจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำความผิดหรือรับของโจร พร้อมด้วยของกลาง (ที่เกิดเหตุ หมู่บ้านพัชราภรณ์) 1.โครงรถจักรยานยนต์ หมายเลขตัวถัง MLHJA 2109M5698018 จำนวน 1 เครื่อง / 2.ชุดไฟหน้า จำนวน 1 ชุด / 3.ชุดไฟหลัง จำนวน 1 ชุด / 4.ชุดสายไฟ จำนวน 1 ชุด / 5.โช๊ครถจักยานยนต์หน้า จำนวน 1 คู่ / 6.โช๊ครถจักยานยนต์หลัง จำนวน 1 คู่ / 7.ถังน้ำมันรถจักยานยนต์ จำนวน 1 ถัง / 8.ล้อรถจักยานยนต์ จำนวน 1 คู่ / 9.ชุดเบาะรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 ชุด / 10.ชุดสีรถ จำนวน 1 ชุด / 11.เครื่องยนต์ รถจักรยานยนต์ หมายเลขเครื่อง JA 21 E-3498013 จำนวน 1 เครื่อง / 12.แบตเตอรี่ จำนวน 1 ก้อน / 13.เสื้อฮู้ดสีเทา จำนวน 1 ตัว / 14.กางเกงยีนส์ขายาว 1 ตัว / 15.ฮอนด้า บริโอ้ ป้ายทะเบียน กธ 4172 กทม. จำนวน 1 คัน / 16.แผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ หมายเลข 4 ขญ 577 กทม. จำนวน 1 แผ่น พร้อมด้วยของกลาง (ที่เกิดเหตุ หลังวัดจวนดำรงค์ราชพลขันธ์) 1.แฮนด์รถจักรยานยนต์ 1 อัน / 2.เรือนไมล์รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 อัน / 3.ชุดไฟหน้า จำนวน 1 ชุด / 4.ถังน้ำมันรถจักยานยนต์ จำนวน 1 ถัง / 5.ท่อไอเสีย จำนวน 1 อัน / 6.ชุดที่พักเท้า จำนวน 1 ชุด / 7.ชุดเบาะรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 ชุด / 8.แบตเตอรี่ จำนวน 1 ก้อน / 9.แผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ หมายเลข 7 กฬ 9205 กทม. จำนวน 1 แผ่น โดยสามารถจับกุมได้ที่ หมู่บ้านภูมิใจไพร์ม 234/79 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566
คดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ บริเวณครุนอกคอนโด ต.บางครุ อ.พรประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่21 กันยายน 2566 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมผู้ต้องหา 1.นายอินทร ทองหวาน อายุ 25 ปี / 2.น.ส.อภิชญา พรมสีสุข อายุ 18 ปี / 3.นายปรีดา ปิ่นแดง อายุ 45 ปี แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะฯ พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีดำแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณ หน้าหอพักทองใบ 88/11 หมู่ 11 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี
คดีพยายามชิงทรัพย์ ธนาคารออมสิน สาขาสุขสวัสดิ์ ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 เวลาประมาณ 14.30 น. โดยเจ้าหนาที่ตำรวจ สามารถจับกุมผู้ต้องหา 1.นายเอกภพ สมชาติอายุ 39 ปี แจ้งข้อกล่าวหา พยายามชิงทรัพย์ฯ โดยมีอาวุธ และใช้ยานพาหนะ พร้อมด้วยของกลาง 1.อาวุธมีดปลายแหลม ความยาวรวมด้าม 13 นิ้ว / 2.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีดำแดง ทะเบียน 9 กอ 7986 กทม. หลังเกิดเหตุไม่นานผู้ก่อเหตุได้เดินทางมามอบตัวที่สถานีตำรวจภูธรพระประแดง ต.ตลาด อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
คดีทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ซ.สุขสวัสดิ์ 78 แยก 10 ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2566 เวลาประมาณ 17.40 น. โดยเจ้าหนาที่ตำรวจ สามารถจับกุมผู้ต้องหา นายไข่วินทูน ( KHAING WIN TUN ) อายุ 32 ปี สัญชาติเมียนมา หมายเลขหนังสือเดินทาง CC8048510 พัก อาศัยอยู่ที่ แฟลตแสนดี ห้อง 403 ม.7 ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ แจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส สถานที่จับกุม โรงบาลบางปะกอก 3 ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
คดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ “แก๊งนายมี่” เหตุเกิดที่หอพักแห่งหนึ่ง ภายในซอยพงษ์เอี่ยม หมู่ 1 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2566 โดยเจ้าหนาที่ตำรวจ สามารถจับกุมผู้ต้องหา 1.นายจิรศักดิ์(หรือมี่) แซ่เอี๊ยบ อายุ 32 ปี / 2.นายธรรมรงค์(หรือหนุ่ย) โพนสูง อายุ 29 ปี แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร พร้อมด้วยของกลาง 1.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 125 สีเทา สวมทะเบียน ฬลษ 911 กทม. (รถจักรยานยนต์ที่ถูกประทุษร้าย) / 2.รถจักยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า คลิ๊ก สีดำ ทะเบียน จขข 427 สุพรรณบุรี (รถจักรยานยนต์คันที่ใช้ในการก่อเหตุฯ) / 3.หมวกกันน็อค ครึ่งใบ ยี่ห้อ SPACECROWN สีดำ จำนวน 1 ใบ / 4.เสื้อยืดแขนสั้น สีแดง สกรีนอักษร ON AIR จำนวน 1 ตัว / 5.กางเกงขาสั้น สีส้ม แถบสีขาวข้างขวา ยี่ห้อ JJ CLUB SPORT WEAR จำนวน 1 ตัว / 6.หมวกแก๊ป สีน้ำเงิน , ขาว , แดง ปักอักษร FRANCE จำนวน 1 ใบ / 7.เสื้อแขนยาวมีฮู้ด สกรีนอักษร Meiry จำนวน 1 ตัว / 8.แท่งเหล็กไขควง จำนวย 1 อัน (ใช้ในการก่อเหตุฯ) โดยสามารถจับกุมได้ ภายในชุมชนมหาดไทย 4 ซอยหมู่บ้านสวนหลวงวิลล์ 2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2566
คดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ “แก๊งนายอั้ม” เหตุเกิดที่หอพักแห่งหนึ่ง ภายในซอยมัณฑนา หมู่ 7 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 โดยเจ้าหนาที่ตำรวจ สามารถจับกุมผู้ต้องหา 1.นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี / 2.นายบี (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือรับของโจร พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีแดง-ดำ ล้อซี่ลวดสีเขียว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน (รถจักรยานยนต์คันที่ถูกประทุษร้าย) โดยสามารถจับกุมได้ ภายในซอยบางปูนคร 10 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2566
พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้กล่าวว่า คดีลักรถนี้ถือว่าค่อนข้างยาก เนื่องจากต้องหาจุดเริ่มต้นให้ได้ว่า หายจากไหนและหายตอนกี่โมง เราถึงจะไล่ได้ อย่างเช่นบางคนที่มาจอดตอนหกโมงเย็น ตื่นมาอีกทีตอนเช้ารถหาย แล้วรถหายไปตอนไหน บางหอพักมีกล้องบางหอพักไม่มีกล้อง เราก็หาเวลาที่รถหายไปไม่ได้ ทีนี้ไอ้กลุ่มแก๊งต่าง ๆ มันมีเยอะมาก เราไม่รู้ว่าขโมยมาจากไหน หากมีกล้องช่วยได้เยอะ อันดับแรกต้องหาจุดเกิดเหตุก่อน อย่างเคสสุดท้ายของพระประแดง ไล่ไปถึงลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี ลองคิดดูจากพระประแดงไปลาดหลุมแก้วใช้เวลาเท่าไร แล้วเวลาไล่กล้องมันไม่ใช่เหมือนเสาไฟฟ้าที่ตั้งเรียงกัน อันนี้คือความลำบาก แล้วเวลาไล่กล้องกลางคืนเขาใช้ความมานะความพยายามอย่างสูง ไม่ใช่ว่าเกิดเหตุปุบเดี๋ยวตำรวจก็จับได้ ไม่ใช่ เราใช้กำลังพล และอะไรต่อมิอะไรเยอะมาก เพื่อความรวดเร็ว แต่ถ้าเราไม่จับมันก็ไปก่อเหตุอีก ผู้เสียหายต้องใช้รถทำงาน ส่งลูกไปเรียน พอรถหายไปแล้วต้องผ่อนงวนรถแต่ไม่มีรถใช้ แล้วท่านผู้บังคับบัญชาท่านไม่ได้สนใจแต่เรื่องใหญ่ ๆ เรื่องเล็กท่านก็ต้องมาดูเอง แล้วท่านก็สั่งการมาเอง เราก็ต้องมาทำให้ด้วยความเข้าเชื่อมั่นศรัทธา กลุ่มผู้ก่อเหตุมีทุกวัย แม้กระทั่งเด็กและเยาวชน ซึ่งเกิดจากอยู่ในวัยคึกคะนอง การอยากได้ พวกนี้ไม่ใช่แก๊ง พวกแก๊งจริง ๆ มันมาทีซ้อน 3 มา เอาทีนึงขับไป 3 คันเลย มีความชำนาญในเรื่องการต่อสายใช้เข็มกลัดเดินสายไฟให้เกิดกระแสตรง หรือความชำนาญในการหักคอรถ พอไปถึงปุ๊บไม่มาแกะอะไหล่ขาย ยกขึ้นรถส่งไปขายต่างประเทศทั้งคันเลย โดยจะใส่รถกระบะตู้ทึบ โดยรถ 1 คัน ใส่รถมอไซค์ได้ประมาณ 13 คัน มีทั้งรถมอไซค์ที่ลักมาและมอไซค์ที่หนีไฟแนนซ์ ก็เป็นเรื่องเดือดร้อนของชาวบ้าน หลังจากมีการระดมกวาดล้างไปแล้วนั้น ตอนถือว่ามีการก่อเหตุน้อยลง ตนจับไปประมาณเกิน 20 แก๊งแล้ว เงียบไปพักนึงก็โผล่มา ตนจะให้เช็คทุกสัปดาห์ว่ามีรถหายกี่คัน โดยเฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะตนดูเรื่องของระยะเวลาของกล้องวงจรปิดว่ามันจะไปต่อได้ไหม แล้วน้อง ๆ ทุกคน และสืบทุกคน เข้าใจหมด เข้าใจว่าทำไมต้องทำ ทำไมต้องรีบทำ ทำไมต้องรายงานรองเก่ง ทำไม เพราะว่าเดี๋ยวมันไปก่อเหตุอีก แล้วแต่ละเคส อย่างมอไซค์คันนึงซื้อมา 2 หมื่นกว่าบาท ในการติดตามคดีนี้มีค่าใช้จ่ายต่าง อยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นกว่าบาท แต่อันนี้เป็นเงินที่ทางรัฐบาลให้มาแล้ว เป็นเงินอุดหนุนงานสืบสวน ซึ่งแต่ละโรงพักมีอยู่แล้ว เราก็ใช้เงินส่วนนี้ในการทำงาน บางทีท่านผู้บังคับบัญชาระดับสูงก็สนับสนุนเงินส่วนตัวมาช่วยอีกต่างหากในการช่วยเหลืองาน แต่มันเป็นงบที่ไม่มีใบเสร็จ แต่ผู้บังคับบัญชาให้มาเดือนละแสน ตรงนี้เราก็เอามาเพื่อจะใช้ในการลงพื้นที่สืบสวนคดี ไม่ต้องไปตามลักรถ แค่ขนรถมาเนี่ย ทุกอย่างมันเป็นเรื่องของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ลูกน้องตนออกไปทำงาน ก็ต้องมีน้ำมัน กินข้าว และไม่ใช่ว่าใช้เวลาในการดำเนินการแค่ไปเช้าเย็นกลับ ไม่ใช่ ตนก็อยากจะฝากเลย เรื่องแรก เวลาตำรวจไปขอดูกล้องวงจรปิด ตำรวจทำงานเพื่อประชาชน ให้ความร่วมมือกับเขา สองเรื่องทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น รถจักรยานยนต์ ทรัพย์ในหอพัก ในห้องพัก หรือทรัพย์ในบ้าน ก็ขอให้ใช้ความระมัดระวังให้มาก จะใช้ความระมัดระวังยังไง มีกุญแจห้อง มีการล็อก มีการเซฟทรัพย์หรือเอาเก็บธนาคารไว้ ของเราไม่ได้มีแก๊งแค่นี้ เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วเราก็จับแก๊งแขกขาว ยังมีภัยจากคนต่างชาติเข้ามาอีก โจรมันเยอะ และอยากได้จะฝากถึงคนที่คิดจะมาก่อเหตุในสมุทรปราการ ว่าคุณเข้ามาก่อเหตุในเขตสมุทรปราการเมื่อไร ผมอาจจะจับคุณไม่ได้ทันที แต่คุณไม่รอดแน่นอน ตนจับได้ทุกเคส คนที่รับรถไปขายระวังตัวให้ดี ตนจะยึดทรัพย์ในข้อหาฟอกเงิน ตอนนี้ตนรู้ตัวหมดแล้วอยู่ระหว่างดำเนินการอยู่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: