X

ล่าระทึก คนขับรถบรรทุกเมายาบ้าซิ่งหนีตำรวจ ชนดะ กว่า 20 คัน ตำรวจเจ็บ 4 นาย แจ้ง 5 ข้อหาหนัก

ล่าระทึก คนขับรถบรรทุกเมายาบ้าซิ่งหนีการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชนดะ กว่า 20 คัน สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้รถปาดน้ำขวางทางและยิงยางรถ จนไปไหนไม่รอด ในเหตุการณ์นี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 นาย เจ้าตัวอ้างตกใจที่ตำรวจเรียกตรวจ จากการตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 3 เม็ด และจากการตรวจสารเสพติด ผลออกมาเป็นบวกมีสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้ง 5 ข้อหาหนัก

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 4 ธันวาคม 2566 ศูนย์วิทยุปราการ ได้รับแจ้งมีรถบรรทุก 4 ล้อเล็ก ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน ผจ 4922 นครปฐม ต้องสงสัยได้ขับหลบหนีการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขับหลบหนีลงจากทางด่วนกาญจนาเข้าถนนปู่เจ้าสมิงพรายผ่านหน้า สภ.สำโรงใต้ แล้วเลี้ยวขวาเข้าชุมชนสวนส้มออกถนนรถรางออกถนนสุขุมวิทสายเก่าออกแยกเทพารักษ์ใช้ถนนเทพารักษ์ขาออกจนถูกสกัดจับกุมได้ในที่สุด ซึ่งหลบหนีกว่ายี่สิบกิโลเมตร โดยระหว่างทางได้ขับรถชน รถตำรวจ รถกู้ชีพ และรถชาวบ้าน เสียหายกว่า 20 คัน แต่รถคันดังกล่าวก็ยังพยายามฝ่าเส้นทางรถติดบนถนนเทพารักษ์ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจตัดสินใจยิงยางของรถคันดังกล่าวเพื่อหวังหยุดรถไม่ให้เกิดอันตรายกับผู้อื่น จนกระทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตัดสินใจขับรถไปแซงขึ้นไปได้ก่อนจะเข้าขวางข้างหน้าและพยายามเบรกหยุดรถ เพื่อให้รถคันดังกล่าวหยุดนิ่ง แต่รถคันดังกล่าวได้พุ่งชนท้ายรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนพยายามเลี้ยวออก แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขับเบียดจนชนกับขอบสะพานข้ามคลอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการทุบกระจกรถฝั่งคันขับ และนำตัวคนขับลงมาจากรถทำการจับกุม

จากการตรวจสอบทราบว่าคนขับ ชื่อ นาย ชัยณรงค์ สีระ อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเจ้าตัวอยู่ในอาการคล้ายคนเมาสารเสพติด ให้การวกไปวนมา เบื้องต้นอ้างว่าที่ต้องหนีตายขนาดนี้ เพราะเจอตำรวจเรียกตรวจแล้วตกใจจึงขับหลบหนี ตนไม่ได้เมายา ขณะที่จากการตรวจสอบภายในรถคัน เจ้าหน้าที่ตำรวจพบซองสีขาวภายในมียาบ้าจำนวน 3 เม็ด ซุกซ่อนหลังเบาะคนขับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมตัวไปสอบปากคำต่อที่โรงพัก ในที่เกิดเหตุยังพบเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 นาย

ด้านชาวบ้านพากันวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยเฉพาะวิถีกระสุนที่ตำรวจตัดสินใจยิงเข้าหน้ารถของผู้ต้องหาหวังสยบความคลั่ง ถือว่าตำรวจนายนี้ใช้ยุทธวิธีที่ดีเยี่ยมและวิถีกระสุนไม่ถูกตัวคนขับรถแต่อย่างใด

ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.สำโรงใต้ พบผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าของรถกู้ชีพของเทศบาลตำบลบางเมือง จำนวน 1 คัน และรถชาวบ้านจำนวน 1 คัน ที่ถูกรถบรรทุกชนจนรถดับความเสียหายเดินทางมาแจ้งความที่โรงพัก ขณะที่จากการตรวจหาสารเสพติดด้วยเครื่องตรวจปัสสาวะ พบว่าผลออกมาเป็นบวก มีสารเสพติดในร่างกาย

ต่อมาเมื่อเวลา 18.00 น. พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ได้เดินทางมาที่ สภ.สำโรงใต้ เพื่อตรวจสอบสวนหาสาเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้  พร้อมทั้งสั่งการให้ รองผู้บังคับการที่เกี่ยวข้องลงมาดูคดีในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะถือว่าเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจและมีผู้เสียหายจำนวนมาก

นาย อนุวัฒน์ ซ้อนภู่ หนึ่งในชาวบ้านที่ถูกผู้ต้องหารายนี้ขับรถชน เล่านาทีเกิดเหตุให้ฟังว่า ขณะนั้นตนเองจอดรถติดอยู่ที่แยกปู่เจ้า ระหว่างนั้นสังเกตเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมายืนโบกคล้ายกับจะบล็อกรถอะไรบางอย่าง ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ไม่กี่นาทีต่อมาหันไปเห็นว่ามีรถบรรทุกคันหนึ่งพุ่งมาชนด้านข้างอย่างเร็วและขับหลบหนีไปโดยมีรถตำรวจไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด พอเห็นว่ามีรถตำรวจไล่ติดตามไปตนเองจึงหาที่จอดข้างทางในที่ปลอดภัยเพื่อแจ้งประกันและตำรวจภายหลังจนมาทราบว่าคนขับรถที่พุ่งชนขับรถหลบหนีตำรวจมา

ส.ต.ต.พีรพัฒน์  อ่องผู้ดี ผบ.หมู่จราจรปฏิบัติหน้าที่บนทางด่วนกาญจนา เล่าว่า ตนเองและเจ้าหน้าที่ตำรวจนายอื่นกำลังปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกงานจราจรบนทางด่วนกาญจนาพิเศษ ระหว่างนั้น สังเกตเห็นรถบรรทุกคันนี้ต้องสงสัย จากการติดธงชาติของประเทศเพื่อนบ้านอีกทั้งคนขับมีสีผมสีทองคล้ายกับเป็นบุคคลต่างด้าว จึงเรียกรถให้ชิดขอบทางด้านซ้ายเพื่อให้หยุดรถ เพื่อคนขับจอดรถชิดขอบทางด้านซ้ายจึงเชิญตัวลงมาจากรถเพื่อตรวจสอบบัตรประชาชนและใบอนุญาตขับขี่ แต่คนขับรายนี้อ้างว่าไม่มีและไปหยิบที่รถ ซึ่งในขณะนั้นตนเองเริ่มได้กลิ่นแปลกๆ คล้ายกับกลิ่นของยาบ้าโชยมาจากตัวคนขับแล้ว แต่พอคนขับเดินกลับไปที่รถก็ขับรถเร่งเครื่องหลบหนีทันทีจึงไล่ติดตามและวิทยุสกัดจับ ดังกล่าว

พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ  บอกว่า สำหรับคดีนี้ ก่อนอื่นต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฎิบัติทุกนายรวมถึงสื่อมวลชนที่ช่วยกันเก้าสกัดจับและชุดจับกุมดังกล่าว ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรวดเร็ว ถึงแม้ว่าการเก้าสกัดจับกุมครั้งนี้ จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 3 นาย แต่ก็ยังโชคดีที่บาดเจ็บเล็กน้อย รวมถึงไม่มีประชาชนได้รับอันตรายถึงขั้นบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนตัวผู้ต้องหารายนี้ นั้น จากการตรวจสอบนอกจากยาบ้าที่พบสามเม็ดแล้วยังพบสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งจากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ามีการเสพยาบ้ามาก่อนที่จะขึ้นมาขับรถ ซึ่งหลังจากนี้ตนเองได้กำชับพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกตัวผู้ประกอบการเจ้าของรถมาสอบสวนเพิ่มเติมและตรวจสอบสินค้าภายในรถด้วยว่าถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น คงเป็นความรับผิดโดยตรงกับทางตัวผู้ต้องหาและบริษัทรถขนส่ง ส่วนข้อหาที่จะดำเนินการกับทางผู้ต้องหารายนี้ นั้น ในเบื้องต้นคือ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ / มีสารเสพติดในร่างกายขณะขับขี่ยานพาหนะ / มียาเสพติดประเภท 1 ยาบ้าไว้ในความครอบครองเพื่อเสพ / ขับรถโดยประมาทไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น / ขับรถประมาทเป็นเหตุทำให้ทรัพย์สินของทางราชการและผู้อื่นได้รับความเสียหาย  ส่วนจะเข้าข่ายพยายามฆ่าเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ด้วยหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างสอบสวนหากพบว่าเป็นการเข้าข่ายก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มทันที

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน