จากกรณีที่มีวัยรุ่นรุมทำร้ายพนักงานหน้าโรงกลึง เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 19 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ล่าสุดห้าโจ๋พากันเข้ามอบตัวแล้ว ที่ สภ.บางพลี โดยคดีนี้ จะแยกออกเป็น 2 คดีหลัก ๆ ซึ่งผู้ก่อเหตุยังเป็นเยาวชน พนักงานสอบสวน จึงต้องเชิญผู้ปกครองมาร่วมสอบปากคำอย่าง ละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากกรณีที่มีวัยรุ่นขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มากันสองคันรวม 5 คัน ไปก่อเหตุใช้ท่อนเหล็กรุมทำร้ายร่างกายหนุ่มวัย 18 ปี ที่หน้าโรงกลึงแห่งหนึ่งในตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 19 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา
ข่าวน่าสนใจ:
- อำเภอตะกั่วทุ่งเลือกตำบลท่าอยู่ เดินหน้าขับเคลื่อนสู่ "ตำบลเข้มแข็ง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง"
- โรงเรียนอนุบาลบุรีรัมย์ จัดการแข่งขันกีฬาสีภายใน “ดอกบัวเกมส์” เชื่อมความสัมพันธ์และสร้างความสามัคคี
- "ตรังโมเดล" โกโก้สร้างรายได้ให้เกษตรกร กิโลกรัมละ 8 บาท ภาคเกษตร-เอกชนร่วมมือเปิดจุดรับซื้อ 11 แห่ง
- ชัยภูมิเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดใหญ่งานวันการศึกษาเอกชนภาคอีสาน!
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 20 ธันวาคม 2566 ที่ สภ.บางพลี สมุทรปราการ กลุ่มเยาวชนผู้ก่อเหตุทั้ง 5 คน ได้เดินทางมาพร้อมกับผู้ปกครองเพื่อขอมอบตัวและให้ปากคำเบื้องต้นกับ พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี และ พ.ต.ต.สันติราษฎร์ เงินมั่น สารวัตรสืบสวน สภ.บางพลี จากการตรวจสอบพบว่า ทั้งหมดยังเป็นเยาวชนอายุ 17 ปีทั้งสิ้น โดยจำนวน 5 คน เป็นผู้ก่อเหตุและอีก 1 คนเป็นคู่กรณีมีปัญหากับนายธัญพจน์มาก่อนหน้านี้ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้เข้าไปร่วมรับฟังการสอบปากคำเช่นเดียวกัน
นายกั๊ก อายุ 17 ปี เยาวชนคู่กรณี ให้การว่า ตนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับโรงกลึงที่นายธัญพจน์ ผู้บาดเจ็บทำงานอยู่ โดยก่อนหน้านั้นไม่เคยรู้จักหรือมีปัญหากระทบกระทั่งกับนายธัญพจน์มาก่อน แต่เหตุการณ์เมื่อวานนี้ ความจริงแล้ว ตนคือผู้ถูกกระทำก่อน ช่วงเที่ยงตนขี่รถจักรยานยนต์ไปซื้อก๋วยเตี๋ยวที่หน้าหมู่บ้าน ตั้งใจจะเอาไปนั่งกินกันที่บ้านเพื่อน ขณะกำลังซื้ออยู่นั้นได้พบกับนายธัญพจน์ ที่ขี่รถจักรยานยนต์มาเบิ้ลเครื่องเสียงดังใส่ ตนจึงบอกว่าให้ขี่รถดี ๆ และเมื่อซื้อเสร็จตนก็ขี่รถออกไปพร้อมกับเพื่อนที่ขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยอีก 2 คัน จากนั้นนายธัญพจน์ก็ขี่รถตามมาประกบเพื่อนของตน พร้อมกับถามว่า มึงด่ากูเหรอ พร้อมกับชักมีดยาวจะแทง เพื่อนของตนเห็นดังนั้นจึงบิดรถจักรยานยนต์หนี แล้วนายธัญพจน์ก็ขี่ตามมาประกบตนแทน โดยได้ถีบรถของตนจนเสียหลักล้มลง เมื่อตนได้สติก็รีบวิ่งหนีเข้าบ้านของพลเมืองดี นายธัญพจน์พยายามจะเอามีดเข้ามาไล่แทงตนต่อถึงในบ้าน แต่พลเมืองดีได้เข้ามาช่วยห้ามปรามเอาไว้ นายธัญพจน์จึงยอมถอยล่นออกไป เหตุการณ์ที่รถล้มทำให้ตนได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณเท้าขวา ต้องทำการรักษาเย็บกว่า 20 เข็ม หลังเหตุการณ์ในวันเดียวกันนั้น เพื่อนของตนได้นัดแนะกับเพื่อนในกลุ่มรวมกัน ประมาณ 5 คน เป็นเยาวชนอายุ 17 ปีทั้งสิ้น บุกไปถึงโรงกลึงที่นายธัญพจน์ทำงานอยู่ เพื่อชำระแค้นแทนตนตามข่าว แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ตนอยากจะบอกว่าตนก็เป็นผู้เสียหายเช่นกัน อยากจะขอความเป็นธรรมกับตำรวจด้วย ซึ่งสิ่งที่ตนเป็นกังวลที่สุดหลังจากนี้คือกลัวว่านายธัญพจน์จะตามมาเอาคืน เนื่องจากตนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว ทำให้ต้องใช้เส้นทางเข้าออกผ่านหน้าโรงกลึงอยู่เป็นประจำ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็จะเห็นว่า นายธัญพจน์มักเข้ามาพร้อมกับกลุ่มเพื่อนที่มีลักษณะคล้ายกับเด็กช่าง 2-5 คน โดยประมาณ ซึ่งไม่แน่ใจว่าพกพาอาวุธมาด้วยหรือไม่
พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี เปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจกดดันให้ผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุพามามอบตัวที่ สภ.บางพลี ซึ่งชุดสืบ สืบทราบมาว่า ผู้ก่อเหตุทั้งห้าคนเป็นเยาวชนอายุ 17 ปีทั้งสิ้นและเรียนอยู่สถาบันพานิชย์แห่งหนึ่งด้วยกัน โดยคดีนี้ จะแยกออกเป็น 2 คดีหลัก ๆ คดีแรก เป็นคดีที่นายธัญพจน์ ผู้บาดเจ็บ พยายามใช้อาวุธมีดทำร้ายกลุ่มของนายกั๊ก ซึ่งต้องรอให้นายธัญพจน์ ฟื้นจากอาการบาดเจ็บก่อนจึงจะเริ่มสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนคดีที่ 2 เป็นคดีที่กลุ่มเพื่อนของนายกั๊ก บุกไปทำร้ายนายธัญพจน์ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยอาวุธที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นไม้เบสบอลและท่อนเหล็ก เข้าข่ายความผิดข้อหา “ทำร้ายร่างกายให้บาดเจ็บสาหัส” ซึ่งคดีที่สอง ผู้ก่อเหตุยังเป็นเยาวชน พนักงานสอบสวน จึงต้องเชิญผู้ปกครองมาร่วมสอบปากคำอย่าง ละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: