เกิดเหตุระทึกกลางดึก เพลิงปริศนาไหม้ห้องพัก สองแม่ลูกวอดทั้งห้อง คาดเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เหตุเกิดห้องพักแห่งหนึ่ง ท้ายซอยเทวา 4 ถนนเทพารักษ์ ตำบลบางเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 29 ธันวาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ห้องพักแห่งหนึ่ง ท้ายซอยเทวา 4 ถนนเทพารักษ์ ตำบลบางเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสาน รถดับเพลิงเทศบาลบางเมือง จำนวน 2 คัน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุมีลักษณะเป็นหอพัก สูง 3 ชั้น พบ แสงเพลิงและกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากห้องพัก ห้องที่ 2 ชั้นที่ 1 ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ภายในหอพักดังกล่าว และ ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงวิ่งมาช่วยกันสาดน้ำดับเพลิง ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย และ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงที่ลุกไหม้อยู่ภายให้ห้องพักดังกล่าวใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงจึงสงบ จากการตรวจสอบเบื้องต้นเพลิงได้ลุกไหม้เสียหายห้องเดียว ไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด
จากการสอบถาม นายสาคร บุญวงค์ อายุ 43 ปี เล่าว่า ตอนเกิดเหตุนั้นเจ้าของห้องไม่อยู่ออกไปข้างนอกกับลูก ตนเองนั่งอยู่ข้างนอกห่างไปประมาณ 100 เมตร ตนเองได้ยินเสียง ป๊อก ๆๆ เหมือนเคาะรถ จึงวิ่งมาดูก็พบว่ามีไฟไหม้แล้ว โดยห้องดังกล่าวพักอยู่ 2 คน แม่ลูก
ส่วน นายสุวรรณ อุ่นทรวง อายุ 53 ปี แฟนของเจ้าของห้องดังกล่าว เล่าว่า ตอนเกิดเหตุตนเองพักอยู่ในห้องข้าง ๆ ซึ่งเป็นห้องของตน ตอนนั้นตนเองหลับแล้ว อยู่ ๆ ไฟหน้าห้องก็ดับ ตนเองนึกว่ามีคนมาขโมยเสื้อที่อยู่หน้าห้องที่ตากอยู่ จึงเปิดประตูออกมาดูแล้วเดินมาที่ห้องดังกล่าว ตนเองรู้สึกว่าร้อน ตนเองจึงได้เรียกลูกคิดว่าลูกอยู่ในห้อง แต่ไม่มีเสียงตอบกลับจึงเปิดประตูดู ก็พบว่าไฟไหม้อยู่ในห้องแล้ว
ส่วนชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง บอกว่า ตนเองอยู่ห่างจากหอพักดังกล่าวประมาณ 100 เมตร ได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงไฟฟ้าลัดวงจร ก่อนที่จะมีชาวบ้านเรียกกันไปช่วยดับไฟที่ไหม้ห้องดังกล่าว แต่เอาไม่อยู่เพราะไฟแรงมาก จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ สันนิฐานว่า เหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้คาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตามจะเรียกผู้เกี่ยวข้องรวมทั้งเจ้าของห้องไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป
