ระทึกกลางชุมชน รถยนต์กระบะที่ติดแครี่บอย บรรทุกถัง 200 ลิตร ภายในมี สารเคมี อลูมิเนียม ฟอสไฟด์ (ใช้สำหรับกำจัดศัตรูพืชทางการเกษตร) มาจากจังหวัดนนทบุรี กำลังจะนำไปกำจัด ที่ ซอยแบริ่ง 66 ขณะขับอยู่บนถนนสุขุมวิท สารเคมีเกิดทำปฏิกิริยากับอากาศทำให้เกิดควันและไฟ จึงพยายามขับไปโล่ง แต่บังเอิญเลี้ยวเข้ามาในชุมชน ทำให้มีควันลอยไปทั่วซอย พอเจ้าหน้าที่ดับเพลิงนำถังออกมาจากรถและลองใช้น้ำก็ไม่สามารถดับไฟได้ พอลองเททรายลงไปก็ยังมีควันออกมาจากถัง เจ้าหน้าที่จึงทำการเทสารเคมีลงพื้นแล้วทำการแผ่ให้กระจายทั่วพื้น รอให้สารเคมีดังกล่าวระเหยไปเองก่อนจะทำการเคลียพื้นถนน ตามคำแนะนะของทางบริษัท แล้วนำสารเคมีที่ระเหยแล้วกับทรายไปกำจัดตามกระบวนการต่อไป
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 4 มกราคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บริเวณท้ายรถยนต์กระบะซึ่งบรรทุกสารเคมี เหตุเกิดบริเวณ ซอยพรสว่าง 7 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลับรับแจ้งจึงประสาน รถดับเพลิงจากเทศบาลสำโรงเหนือ พร้อม เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ข่าวน่าสนใจ:
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในซอยพรสว่าง ซึ่งเป็นซอยเชื่อมระหว่าง ซอยวัดด่านสำโรง และ ซอยแบริ่ง โดยเจ้าหน้าที่พบกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากท้ายรถยนต์กระบะที่ติดแครี่บอย ซึ่งภายในมีถังขนาด 200 ลิตร มีควันพวยพุ่งออกมาจากถัง เจ้าหน้าที่ต้องฉีดน้ำสเปรย์ลดควันบริเวณตัวรถ เจ้าหน้าที่จึงปิดกั้นที่เกิดเหตุไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องผ่าน ก่อนที่จะนำถังลงมาด้านล่าง ซึ่งจากการใช้น้ำนั้น ไม่สามารถทำให้เพลิงที่ลุกไหม้อยู่ในถังสงบได้ แต่ กลับทำให้เพลิงลุกแรงขึ้นจนทำให้เกิดเสียงดังเป็นระยะ เจ้าหน้าที่จึงยุติการใช้น้ำ ก่อนที่จะวางแผนใช้ทรายแห้งมาทำการกลบเพื่อให้เพลิงสงบ เนื่องจากถังดังกล่าวนั้น บรรจุสารเคมี อลูมิเนียม ฟอสไฟด์ ที่ใช้กำจัดศัตรูพืชทางการเกษตร โดยจากการที่เจ้าหน้าที่เปลี่ยนการควบคุมเพลิงเป็นการใช้ทรายนั้น เพียงไม่นานเพลิงที่ลุกไหม้ก็ดับลง แต่ยังมีควันออกมาจากถัง เจ้าหน้าที่จึงทำการเทสารเคมีลงพื้นแล้วทำการแผ่ให้กระจายทั่วพื้น รอให้สารเคมีดังกล่าวระเหยไปเองก่อนจะทำการเคลียร์พื้นถนน ตามคำแนะนำของทางบริษัท แล้วนำสารเคมีที่ระเหยแล้วกับทรายไปกำจัดตามกระบวนการต่อไป
จากการสอบถาม นายทศวิน มีแสง อายุ 37 ปี คนขับรถบรรทุกสารเคมีดังกล่าว บอกว่า มาจากจังหวัดนนทบุรี กำลังที่จะนำสารเคมีไปกำจัดที่ซอยแบริ่ง 66 ตอนขับออกมาไม่ได้มีเหตุการณ์ผิดปกติไม่ได้มีกลุ่มควันแต่เริ่มมาผิดสังเกตตอนถึงย่านสำโรง สารที่อยู่ในรถบรรทุกเป็นสาร อลูมิเนียม ฟอสไฟด์ ใช้กำจัดศัตรูพืชทางการเกษตร ที่ทำปฏิกิริยากับอากาศจึงทำให้เกิดการเผาตัวของมันเอง ย้ำว่าสารเคมีที่อยู่ในรถบรรทุกไม่ได้รั่ว แต่เป็นสารเคมีที่รอการกำจัด สารเคมีที่บรรทุกมามีประมาณ 5 กล่อง สำหรับสารเคมีชนิดนี้ ถ้าหากสูดดมในปริมาณมากจะทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ และ ถ้าหากรุนแรงก็จะมีอาการอาเจียนร่วมด้วย ซึ่งถ้าหากสูดดมสารชนิดนี้นานถึง 15 นาที ก็มีความเสี่ยงอันตรายกับชีวิตได้
ดร.ลือกฤต เพชรบดี นายกเทศมนตรีตำบลสำโรงเหนือ กล่าวว่า สารเคมีอลูมิเนียมฟอสไฟด์ คือคนขับเขาตกใจมันเกิดปะทุมาที่ถนนสุขุมวิทก็พยายามหลบมาที่ว่างเปล่าแต่บังเอิญมาเข้าที่หมู่บ้านพรสว่างเป็นชุมชนหนาแน่นตอนนี้กำลังหาทางนำสารเคมีตัวนี้ไปในที่โล่งเพื่อที่จะให้มันระเหยไปให้หมด สืบเนื่องมาจากคนที่มาช่วยไม่เข้าใจเขาน้ำราดเอาทรายเปียกไปกลบมันก็เลยยิ่งปะทุขึ้นมา ตอนนี้มีทางเดียวทางเจ้าของสารเคมีเขาบอกว่ามันต้องปล่อยให้ระเหยไปให้หมด ไอ้ตัวนี้มันจะไม่ไหม้ แล้วมันจะไม่ร้อน เราก็จะหาอุปกรณ์มาเพื่อขนย้ายไปในที่โล่งแล้วทำการเกลี่ยเป็นระยะเวลาสั้นๆ มันก็จะระเหยไปหมดเหมือนสารเคมีต่างๆ ที่เราไปใช้ในการกำจัดวัชพืช หรือว่าไปทำเกี่ยวกับเรื่องพืชผักการเกษตร คือไอ้ตัวนี้มันต้องใช้เวลาหน่อยสารเคมีตัวนี้มันก็จะเหยไป ตัวนี้เป็นตัวที่กำจัดแมลงที่เขาป้องกันไม่ให้แมลงมากินพวกผลไม้ ต่างๆ ที่ชาวสวนชาวไร่เก็บผลไม้มา ที่ขนมาประมาณ 200 ลิตร จากการสอบถามผู้แล้วว่าสารตัวนี้ไม่ระเบิดแต่ว่ามันจะมีเคมีออกมาเรื่อยๆ ก็ต้องปล่อย เพราะเนื่องจากการระงับเบื้องต้นผิดพลาดไป ใช้น้ำไม่ได้ ใช้ทรายเปียกไม่ได้ เพราะการที่เราไปดำเนินการแบบนั้นแล้วมันก็เป็นปัญหา จริงๆแล้วเรามีโรงงานในระยะใกล้แต่เข้าตัวเมืองมันมีที่สามารถกำจัดได้ แต่เมื่อมันเกิดปะทุแบบนี้เขาก็เอาไปกำจัดไม่ได้ก็เลยต้องหาที่โล่งปล่อยให้ระเหยไปให้หมด แผนต่อไปคือตอนนี้กำลังนำรถเครนยกตัวนี้ขึ้นท้ายปิ๊กอัพ เดี๋ยวเราจะมีรถนำไปและรถตามไปเพื่อความปลอดภัย แล้วเอาตัวนี้ไปอยู่ในที่โล่งเนื้อที่ประมาณสัก 9 ไร่ เพื่อไปแผ่กระจายเกลี่ยๆ เห็นเขาว่าประมาณสัก 2 ชั่วโมงไม่เกินนี้ก็จะระเหยไปหมด รอรถมาก็จะเริ่มดำเนินการอาจจะติดขัดเรื่องจราจร เนื่องจากปิดกั้นทางเข้ามาทางด้านนี้รถอาจจะเข้ามายากหน่อย ชาวบ้านก็ตกใจพอสมควรแต่เราได้ประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะต้องขอบคุณสื่อที่ได้ผ่านโซเชียลต่างๆ บอกให้ประชาชนได้รับรู้ก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะแปบเดียวเองที่ประชาชนได้รับรู้รับฟังสื่อต่างๆ ที่ไปลงในเพจต่างๆ ก็รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นแต่ว่าไม่รู้เป็นสารเคมีตัวไหนเท่านั้นเอง ตอนนี้เรากำลังเกลี่ยทรายที่มันชื้นออกมาเพื่อให้การระเหยลดน้อยลงพอเสร็จแล้วเราจะยกไปกำจัดในที่ว่างเปล่า ยืนยันว่ายังไม่อันตรายเพราะเจ้าของเขามาเอง
พ.ต.ต.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.สำโรงเหนือ เผยว่า จริงๆ แล้วต้องมีใบอนุญาตในการขนย้าย จากการตรวจสอบใบอนุญาตเบื้องต้นที่เขาส่งให้ดูเป็นใบอนุญาตที่มีไว้ครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายซึ่งก็รวมถึงสารตัวนี้ด้วย โดยการขนวัตถุนี้รถก็ต้องเป็นไปตามแบบที่ทางกระทรวงสาธารณะสุขกำหนดว่าต้องเขียนว่าวัตถุอันตราย แต่ว่ารถเบื้องต้นที่ตรวจสอบไม่มี ทางเราได้ถามเขาแล้วว่ารถที่ใช้ขนปกติเสียเขาเลยเอารถกระบะคันนี้มาขน ก็เดี๋ยวจะตรวจสอบรายละเอียดต่อไป แต่ว่าตอนนี้ได้ปิดกั้นการจราจรโดยรอบ รอการเคลื่อนย้ายสารตัวนี้ที่เกลี่ยแล้วทางสาธารณะสุขบอกว่ากลุ่มควันไม่มีแล้วก็ถือว่าปลอดภัยในระดับนึง ส่วนเรื่องการดำเนินคดีสำหรับการขนย้ายอยู่ระหว่างร้อยเวรรวบรวมหลักฐาน เราทราบตัวคนขับ ทราบตัวเจ้าของผู้ประกอบการเขามาหมดแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ได้รับความเสียหาย ก็ถือว่าเป็นการละเมิดก็ไปแจ้งความที่โรงพักได้
นายธนัญธร สุดแก้ว รองสาธารณสุขอำเภอเมืองสมุทรปราการ กล่าวว่า เคมีตัวนี้เป็นสารเคมีที่ เมื่อระเหยแล้ว เป็นกลุ่มควันอย่างที่ท่านได้เห็น ท่านใดที่ได้ทำการสูดดมหรือสัมผัส เกี่ยวกับเรื่องของกลุ่มควันโดยตรง ต้องบอกว่า มันมีผลทำให้ระคายเคือง ในระยะที่เล็กน้อย ถ้าคนใดที่ได้รับในเข้าไปปริมาณมาก สูดดมเต็มปอด ก็จะมีผลระคายเคืองเรื่องของระบบทางเดินหายใจได้ แต่เบื้องต้นด้วยการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ได้ดำเนินเรื่องของการจัดการพื้นที่เรื่องของการเคลียร์ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงออก ก็ทำให้ลดภาวะความเสี่ยงลงได้ และควบคุมสถานการณ์ได้เร็ว ในส่วนของสาธารณะสุขเอง ต้องขอแจ้งอย่างนี้ว่า ท่านใดที่ได้สัมผัสไม่ว่าจะเป็นทางผิวหนังหรือการสูดดม ในระยะแรกนี้ อาจจะทำให้ระคายเคือง ขอให้ท่านอยู่ในที่โล่ง อยู่ในสถานที่เหนือลม และท่านใดที่รับการสัมผัส ขอให้ล้างด้วยน้ำสะอาดเป็นเวลานานประมาณ 15 นาทีขึ้นไป หลังจากนี้ท่านใดอาจจะเบื้องต้นไม่มีอาการแสดง แล้วมีอาการแสดงพรุ่งนี้เช้าหรือหลังจากนี้ ท่านสามารถไปรับบริการตรวจสุขภาพที่หน่วยบริการสาธารณะสุขใกล้เคียงได้เลย อย่างยังก็ขอให้ท่านดูแลเรื่องของระบบทางเดินหายใจของท่าน ท่านได้รับสูดกลิ่นเป็นอย่างไร ช่วงนี้พื้นที่ใกล้เคียงของพื้นที่ได้รับผลกระทบนี้ ขอให้ท่านได้ใส่หน้ากากอนามัยแมสประมาณ 2-3 ชั้น แต่ตอนนี้ต้องบอกว่าสถานการณ์ตอนนี้ได้สงบลงแล้ว เนื่องด้วยกลุ่มควันทั้งสินนั้นไม่มีออกจากตรงจุดนี้แล้ว ขอให้ท่านไว้วางใจในกระบวนการดูแลเรื่องของสารเคมีตรงนี้ได้ แต่ก่อนหน้านี้ช่วงที่มีการฟุ้งกระจายของสารเคมีหรือกลุ่มควันที่ออกไป ท่านใดที่ได้สูดดม ได้สัมผัส ขอให้ท่านได้เฝ้าสังเกตอาการตัวเอง อาจจะทำให้ท่านระคายเคืองได้ สารเคมีตัวนี้ไม่ได้รายแรงหรือรุนแรงอะไรต่อสุขภาพของท่านมาก แต่ท่านใดที่อาจจะมีอาการระคายเคืองอย่างแรงขอให้ท่านเข้าสู่กระบวนการรักษาและติดตามเฝ้าสังเกตอาการตัวเองได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: