เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงส่วนภูมิภาค ได้รับแจ้งว่าเกิดไฟฟ้าขัดข้อง จนไฟดับ บริเวณตรงข้ามศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงมาตรวจสอบเพื่อทำการซ่อมแซม พอมาเปิดฝ่าท่อพักสายไฟ ทำการสูบน้ำออกจากท่อ ก็พบโครงกระดูกจมอยู่ก้นบ่อ จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 9 มกราคม 2567 เจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.พระสมุทรเจดีย์ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งพบโครงกระดูกมนุษย์ ภายในท่อพักสายไฟของการไฟฟ้านครหลวง บริเวณตรงข้ามศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเดินทางตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุ ภายในท่อร้อยสายไฟฟ้า ริมถนนพระสมุทรเจดีย์-ป้อมพระจุล ซึ่งลึกลงไปจากปากท่อประมาณ 3 เมตร พบโครงกระดูกมนุษย์ สภาพเน่าเปื่อย จมอยู่ก้นบ่อ ซึ่งมีน้ำขังอยู่ประมาณ 30 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่จึงทำการสูบน้ำออกจากบ่อ และนำท่อมาเติมออกซิเจนลงไปในบ่อ ก่อนที่จะให้เจ้าที่กู้ภัยสวมชุดป้องกันพร้อมถังออกซิเจนไต่ลงไปด้านล่าง ควานหาซากและชิ้นสวนโครงกระดูก ขึ้นมาตรวจสอบ เบื้องต้นพบกางเกงขาก๊วยสีน้ำเงินติดอยู่กับซาก 1 ตัว และบริเวณชิ้นส่วนกระดูกสันหลังมีสายตะกรุด พันอยู่ 1 อัน คาดเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 2 เดือน
จากการสอบถาม นายภานุวัฒน์ เฉลยสัตย์ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงส่วนภูมิภาค กล่าวว่า สำหรับท่อพักสายไฟฟ้าดังกล่าว ไม่มีการเปิดสำรวจมากกว่า 1 ปีแล้ว จนกระทั่งวันนี้ได้รับแจ้งจากศูนย์ว่า จุดดังกล่าวเกิดไฟฟ้าขัดข้อง จนกระแสไฟดับ จากนั้นจึงได้นำกำลังมาตรวจสอบและไล่สำรวจจุดที่ขัดข้องเพื่อทำการซ่อมแซม จนมาถึงบริเวณท่อพักสายไฟฟ้า เจ้าหน้าที่จึงลงมือเปิดฝาท่อเพื่อ สูบน้ำที่ขังอยู่ออก จนน้ำเริ่มลดระดับลง จึงมองเห็นกระโหลศีรษะของมนุษย์ จมอยู่ก้นบ่อ ตนตกใจมาก จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ ส่วนบ่อพักนี้คนทั่วไปไม่สามารถลงไปไม่ได้แน่นอน เนื่องจากฝาท่อมีน้ำหนักเกือบร้อยกิโล ต้องมีอุปกรณ์และท่าทางที่ถูกอบรมมาใช้ในการเปิด ซึ่งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ายังต้องใช้ 2 คน ส่วนที่ตนมาถึงนั้นก็พบว่ามีร่องรอยการถูกเปิด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ยังไม่สามารถระบุได้ว่า โครงกระดูกที่พบเป็นใครและเสียชีวิตด้วยเหตุใดและเป็นเพศใดซึ่งจะส่งไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช เพื่อตรวจสอบว่าเป็นใครและหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
