พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ แถลงข่าว ผลการจับกุม หนุ่มไรเดอร์ ผู้ต้องหาที่ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ตามรถที่จอดข้างทางแล้วไม่ล็อกประตูรถ จากการตรวจสอบประวัติพบก่อเหตุหลายครั้ง ในพื้นที่กรุงเทพและสมุทรปราการ เจ้าตัวยอมรับว่านำเงินที่ได้นำไปเล่นการพนันออนไลน์ และใช้จ่าย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 มกราคม 2567 ที่ สภ.สำโรงเหนือ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ / พ.ต.อ. ชูตระกูล ยศมาดี รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ / พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.สำโรงเหนือ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.สำโรงเหนือ ร่วมกันแถลงข่าว จับกุมตัว นายสนธิรัตน์ ชื่นใจดี อายุ 33 ปี ตามหมายจับจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 15/2567 ลงวันที่ 9 มกราคม 2567 และ ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 16/2567 ลงวันที่ 9 มกราคม 2567 ในความผิดฐาน “ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป และเพื่อให้พ้นการจับกุม ของกลาง 1.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า แอร็อกซ์ สีน้ำเงิน ทะเบียน 9 กฌ 5132 กรุงเทพมหานคร / 2.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สกูปปี้ สีส้ม ทะเบียน 3 กญ 5432 กรุงเทพมหานคร / 3.หมวกนิรภัย แบบเต็มใบ สีดำ จำนวน 1 ใบ / 4.เสื้อกีฬา กางเกงยีนส์ กางเกงขาสั้น ชุดที่คนร้ายสวมใส่ขณะก่อเหตุ โดยจับกุมตัวขณะหนีไปบวชได้ที่สำนักสงฆ์ธรรมสถิต หมู่ 1 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองจ.สมุทรปราการ
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง ทดลองล้อมคอกหญ้าทะเล เร่งหาทางออกฟื้นฟูหญ้าทะเล ภาระกิจด่วนทำแข่งกับเวลาที่เหลืออยู่กับความอยู่รอดของพะยูน
- บพท.ร่วม มรภ.ชัยภูมิ ส่งเสริมงานวิจัยต่อยอดบันทึกประวัติศาสตร์เมืองชัยภูมิรอบ 198 ปี!
- นราธิวาส-สุดทน! พ่อค้าแม่ค้าร้อง ส.ส.นำเรื่องเข้าสภาฯ หลัง "บอสตลาดเก็นติ้ง" จัดหนัก! ปรับราคาเช่า-ต่อสัญญาสูงลิ่ว
- เพลิงไหม้โกดังกระดาษทิชชู่หวิดวอด โชคดีควบคุมเพลิงไว้ได้ทันก่อนลุกลามทั้งโกดัง
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2566 เวลา 09.36 น. ได้รับแจ้งจาก นายอภิชิต พวงทอง ผู้เสียหาย ได้จอดรถยนต์กระบะไว้ที่บริเวณหน้าบริษัทซีเกท ถนนเทพารักษ์ ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ แล้วลงไปหาลูกค้า โดยวางกระเป๋าสะพายสีน้ำเงิน ไว้บริเวณเบาะรถฝั่งผู้ขับขี่ แต่ไม่ได้ล็อคประตูรถ ผู้เสียหายกลับจากหาลูกค้าปรากฏว่ากระเป๋าสะพายที่วางไว้หายไป จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าโดยคนร้ายขับขี่ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น แอร็อกซ์ สีน้ำเงิน-เทา ทะเบียน 9 กฌ 5132 กรุงเทพฯ ด้านหลังรถมีกระเป๋าใส่อาหารไลน์แมน คนร้ายแต่งกายสวมใส่ชุดพนักงานส่งอาหาร ไลน์แมน สวมใส่หมวกนิรภัยแบบเต็มใบ ต่อมาหลังจากตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ พบว่าเจ้าของคือ นายสนธิรัตน์ ชื่นใจดี และยังพบผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ใช้ชื่อเดียวกัน โพสต์ภาพ สวมแจ็กเก็ตไรเดอร์ถ่ายรูปคู่กับรถจักรยานยนต์ที่นำไปใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามพฤติกรรมของนายสนธิรัตน์มาโดยตลอด กระทั่งทราบว่า วันที่ 7 มกราคม นายสนธิรัตน์ โพสต์ภาพ ขณะเข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดแห่งหนึ่ง ย่าน อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ แต่เมื่อไปถึงกลับพบว่า นายสนิธิรัตน์ หนีไปจำวัดอยู่ที่ สำนักสงฆ์ธรรมสถิต ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปจับกุมตัวเอาไว้ได้คาผ้าเหลือง
จากการสอบสวน นายสนธิรัตน์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เคยก่อเหตุในลักษณะ ดังกล่าวมา 8 ครั้ง ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ และ กรุงเทพมหานคร ได้เงินสดและของมีค่ากว่า 3 แสนบาท พฤติกรรม นายสนธิรัตน์ จะอาศัยช่วงไปส่งอาหารให้กับลูกค้า หลังจากส่งเสร็จ ก็จะอาศัยที่ตนเองสวมชุดไรเดอร์เพื่อตบตา ออกตระเวนหาเหยื่อ โดยจะเลือกรถของพ่อค้าแม่ค้าที่จอดขายของอยู่ริมถนน และรถที่ไม่ล็อคประตู เพื่อสะดวกในการก่อเหตุ เมื่อสบโอกาสช่วงที่ผู้เสียหายเผลอ ก็จะเดินไปหยิบเอากระเป๋าเงินและทรัพย์สินมีค่า ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี สวนเงินที่ได้ก็จะนำไปเล่นการพนันออนไลน์ และใช้จ่าย อย่างไรก็ตามสำหรับผู้เสียหายที่เคยตกเป็นเหยื่อสามารถมาแจ้งความเพิ่มเติมได้ เพื่อแยกข้อหาดำเนินคดีเพิ่มมากขึ้น
พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล กล่าวอีกว่า ฝากประชาสัมพันธ์ และอุทาหรณ์กับพี่น้องประชาชน ที่จอดรถไว้ริมถนนเพื่อไปทำธุระแต่ไม่ได้ล็อครถ อย่างคิดว่าลงไปแป๊ปเดียวจะไม่มีใครเข้ามาขโมยของในรถของท่าน เช่นคดีนี้จะเห็นได้ว่า ผู้ต้องหาใช้เวลาก่อเหตุไม่ถึงนาที เพราะฉะนั้นการป้องกันที่ดีที่สุดคือ การไม่ประมาท และล็อครถทุกครั้งที่ไม่อยู่ในรถ ทั้งนี้ต้องขอชื่นชมฝ่ายสืบสวน ที่ทำงานอย่างรวดเร็ว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้
นางสาวธฤษวรรณ สายเหล็ก อายุ 40 ปี แม่ค้าขายผลไม้กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ขณะที่ตนเองขายจอดรถขายผลไม้ ของอยู่บริเวณถนนเทพารักษ์ หน้าตลาดหนามแดง อ.เมืองสมุทรปราการ หลังจอได้ไม่นาน ตนจึงเดินไปเข้าห้องน้ำ และสลับให้แฟนมานั่งขายบริเวณท้ายรถแทน ระหว่างนี้ตนเองนำกระเป๋าถือ ภายในมีเงินกว่า 6 หมื่นบาท สร้อยทอง 1 สลึง ของมีค่า อยู่ภายในกระเป๋า ไปเก็บไว้ที่เบาะหน้าข้างคนขับ แต่ไม่ล็อคประตู กระทั่งเดินกลับมาเพื่อจะหยิบเอากระเป๋าแต่พบว่าประตูรถแง้ม จึงอยู่รีบเปิดสำรวจดูจนพบว่ากระเป๋าหายไปแล้ว แต่เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดจึงพบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุนั้น สวมชุดไรเดอร์ ก่อนก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้ารถของตน และอาศัยช่วงที่แฟนของตนกำลังขายของให้ลูกค้าอยู่ เดินมาเปิดประตูฝั่งซ้ายเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าก่อนกลับไปขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: