เด็กชาย 14 ปี ใช้เบ็ตตกปลาทำเป็นห่วงคล้องจับจระเข้ได้แล้ว จึงให้เพื่อนปั่นจักรยานไปเรียกเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศล สมุทรปราการ หลังตามจับอยู่นานนับอาทิตย์ จากคลองระบายน้ำสาธารณะ ท้ายซอยมูลนิธิร่วมกุศล จระเข้ตัวดังกล่าว ยาวประมาณ 1 เมตร หนักประมาณ 10 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่ทำการส่งมอบตัวน้องให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับไปดูแลต่อเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 5 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศล สมุทรปราการ จับจระเข้ได้จากคลองระบายน้ำสาธารณะ ท้ายซอยมูลนิธิร่วมกุศล ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งคาดว่าเป็นตัวเดียวกัน กับที่เจ้าหน้าที่ และ ชาวบ้าน พบเห็นว่าอยู่ภายในคลองดังกล่าว นานนับเดือนแล้ว แต่ไม่สามารถจับได้
โดย จระเข้ ตัวดังกล่าวนั้น ยาวประมาณ 1 เมตร หนักประมาณ 10 กิโลกรัม โดยทางเจ้าหน้าที่ และ เด็ก ๆ บริเวณนั้น ใช้เบ็ดตกปลา ทำ เป็นห่วงคล้องตัวขณะ จระเข้ ตัวดังกล่าวว่ายน้ำมาบริเวณดังกล่าว หลังพยายามจับมาหลายครั้งแล้ว แต่หาตัวไม่พบ จนเมื่อช่วงสายมีชาวบ้านเห็นตัวจระเข้ตัวดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ และ ชาวบ้าน จึงวางแผนในการจับจระเข้ตัวดังกล่าว จนในช่วงบ่ายก็สามารถจับได้
เด็กชายดม อายุ 14 ปี บอกว่า ขณะที่ตนกำลังจะไปตกปลากับเพื่อน เดินมาก็เห็นจระเข้ว่ายน้ำอยู่ในคลอง จึงให้เพื่อนปั่นจักรยานไปเรียกเจ้าหน้าที่มูลนิธิใกล้ ๆ มา ตนและเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ใช้เบ็ตเอาสายเอ็นทำเป็นห่วง ช่วยกันคล่องจระเข้ จระเข้ตัวนี้ตนเห็นหลายรอบแล้ว หลุดมานานแล้ว
นายสุรพล ยนต์พล เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เล่าว่า เด็กปั่นจักรยานไปตามตน ตนก็เพิ่งกลับมาจากอีกภารกิจหนึ่งพอดี จึงรีบขับมอเตอร์ไซค์ออกมา ที่มาเจอก็เป็นจระเข้ตัวเดียวกันกับที่กำลังหากันอยู่เป็นเดือน เพราะทางเจ้าหน้าที่เองก็มาเฝ้าดูอยู่ตลอด เพราะมีคำสั่งว่าต้องจับจระเข้ตัวนี้ให้ได้
นายสมพร เกื้อสกุล ประมงจังหวัด สป กล่าวว่าจระเข้ตามที่พบจากธรรมชาติ ต้องเอาไปดูแลและเก็บรักษาไว้ก่อน แล้วก็ต้องประกาศหาเจ้าของเพื่อที่จะให้มาแสดงตัว แต่ถ้ายังไม่มีบุคคลใดมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ จระเข้ตัวนี้ก็จะเป็นสัตว์สงวนและสัตว์คุ้มครอง สัตว์ที่ห้ามมีไว้ในการเพาะเลี้ยง นอกจากจะได้รับอนุญาตเท่านั้น จะต้องเอาไปเก็บรักษาไว้ ณ.สถานที่ที่ทางกรมประมงประกาศเก็บจระเข้ตัวนี้ไว้
