ชายเมียนมา ไปนั่งข้างรถบรรทุกพ่วง ที่จอดรอเข้าลานตู้คอนเทนเนอร์ ขณะที่คนขับรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวคุยกับชายดังกล่าว ภรรยาของคนขับได้เปิดม่านมาดู ชายดังกล่าวพูดชมภรรยาของคนขับว่าสวย คนขับได้ไล่ให้ชายดังกล่าวไปห่าง ๆ เนื่องจากกลัวอันตราย แต่ชายดังกล่าวได้เดินไปอีกฝั่งของรถ คนขับก็ไปไล่อีกแต่ชายดังกล่าวได้ต่อยและกัดแขนคนขับ คนขับจึงให้ไปตามน้องอีกคันมา ก่อนจะรุมต่อยชายดังกล่าว จนวิ่งหนีข้ามถนนไปกระโดน้ำใต้สะพานยกระดับ ว่ายข้ามไปอีกฝั่ง แต่ไม่ยอมลุกปีนขึ้นฝั่ง ตนจึงไปจับตัวมานอนบนฝั่งชายดังกล่าวยังหายใจรวยริน จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเอาตัวไป แต่สักพัก ชายดังกล่าวได้แน่นิ่งไป พอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงก็ไม่มีลมหายใจแล้ว
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 8 เมษายน 2567 ร.ต.ท.ชณัฏฐ์ เทพละออ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว ได้รับแจ้งเหตุ ทำร้ายร่างกายกันมีผู้เสียชีวิต ใต้ทางยกระดับทางเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ หมู่ที่ 4 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงพร้อมด้วนเจ้าหน้าที่ สายตรวจ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บางแก้ว แพทย์เวร รพ.รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ มูลนิธิร่วมกตัญญู รุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ ริมร่องน้ำใต้ทางยกระดับเข้าสนามบินเข้าจากถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) ประมาณ 1 กิโลเมตร พบ นายซอ ทอง ไหล อายุ 28 ปี ชาวเมียนมา นอนหงายเสียชีวิต สภาพเนื้อตัวเปียกน้ำและดินโคลน เนื่องจากจมน้ำ ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลที่ศีรษะ 1 แผล เลือดไหลอาบนองพื้น ตัวมีบาดแผลถลอก 3 แห่ง เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง ใกล้กันพบ นาย ประเสริฐ สมิงวรรณ อายุ 47 ปี ชาว อ.โพธาราม จ.ราชบุรี และ นาย อเนก แจ่มใส อายุ 35 ปี ชาว อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา คนขับรถบรรทุกพ่วง ที่มาจอดนอนรอขึ้นตู้คอนเทนเนอร์ ข้างถนน ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายผู้ตาย ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการสอบถาม นาย ประเสริฐ คนขับรถบรรทุกพ่วง เล่าว่า ตนมาจอดนอนที่หน้าลาน ตู้คอนเทนเนอร์ ตั้งแต่หัวค่ำ พร้อมด้วย ภรรยา และลูก หลังจากที่ตนเองกินข้าวเรียบร้อย เวลาประมาณ 23.00น. ตนได้ลงจากรถรถมาด้านล่างเพื่อสูบบุหรี่ จึงพบกับผู้ตาย มานั่งอยู่ข้างรถด้านซ้าย ตนจึงถามว่า มานั่งทำอะไร เป็นพนักงานในลานหรือ เปล่า ผู้ตายส่ายหน้า จังหวะนั้น ภรรยาของตนที่อยู่บนรถ เปิดม่านออกมามองตนและผู้ตาย ว่าทำอะไรกัน พอผู้ตายเห็นจึงพูดออกมาว่าผู้หญิงสวย และทำท่าที่จะเข้าไปหา ตนจึงบอกอย่ามายุ่งให้ไปซะห่าง ๆ แต่ผู้ตายกลับเดินย้อยไปด้านหลังรถพ่วงและเดินออกถนนมาทางด้านรถบรรทุกอีก เพื่อจะมาหาภรรยาของตน ตนจึงเดินไปไล่ให้ไปพ้น ๆ อย่ามายุ่ง และตนกลัวเกิดอันตรายกับครอบครัวตนที่มาจอดรถนอนอยู่ แต่ผู้ตายกลับไม่ยอมไปและลงมือต่อยตนที่หน้าหลายครั้ง และยังกัดตนที่แขน จึงเกิดการชกต่อยกัน แต่ตนสู่ไม่ไหว จึงตะโกนบอกภรรยาให้ไปตามน้องคนขับที่จอดนอนอยู่คันหลังให้มาช่วยตน และช่วยกันชกต่อยผู้ตายไปหลายครั้ง จนผู้ตายสู่ไม่ได้วิ่งหนีข้ามถนนไป โดดหนีลงน้ำใต้สะพานยกระดับ และข้ามไปนอนฟุบหน้าจมน้ำอยู่ฝั่งตรงข้าม สักพักใหญ่พวกตนเห็นไม่ลุกขึ้นจึงตามไปจับตัวมานอนบนฝั่งแต่ยังหายใจรวยริน ตนจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาเอาตัวไป สักพัก ผู้ตานก็แน่นิ่งไป พอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงผู้ตายไม่มีลมหายใจแล้ว
ด้าน นาย อเนก คนขับรถพ่วงอีกคันที่มาช่วย นาย ประเสริฐ หลังถูกผู้ตายทำร้าย เล่าว่า ภรรยาของนาย ประเสริฐ ไปเรียกตนที่หน้ารถว่ามาช่วยสามีหน่อยว่าถูกทำร้ายสู้ไม่ไหว ตนจึงลงมาและช่วยกันรุมชกต้อย จนผู้ตายวิ่งหนีออกข้ามถนนออกไปกระโดดน้ำหนีที่ใต้สะพานยกระดับและไปนอนคว่าหน้าจมน้ำอยู่สักพัก พวกตนจึงไปเอาตัวมาและโทรแจ้งเจ้าหน้าตำรวจแต่สักพักผู้ตายได้ขาดใจตายไปเสียก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ สันนิฐานว่า ผู้ตายอาจถูกทำร้ายและวิ่งหนีไปล้มจมน้ำ สำลักน้ำ จนเสียชีวิต อย่างไรก็ตามจะได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คนไปสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
