นักข่าวและกู้ภัย ได้ไปพบเหตุกลุ่มเยาวชนถูกอริไล่ฟันและยิงกลางถนน จึงเข้าไปช่วยเหลือโดยขับการขับรถไปขวางทางกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ จนขี่รถย้อนศรหลบหนีไป ก่อนจะหันกลับมาช่วยเหลือปฐมพยาบาลกลุ่มวัยรุ่นที่ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากรถล้ม
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ขณะที่ ทีมข่าวเรา และ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จุด สภ.บางบ่อ กำลังขับรถตระเวนพื้นที่ พอมาถึงบริเวณสะพานข้ามคลองสำโรง ซึ่งห่างจากโรงพยาบาลบางบ่อเพียงไม่กี่ร้อยเมตร ตำบลบางบ่อ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ พบเห็น กลุ่มวัยรุ่นเยาวชนชายอายุระหว่าง 15-16 ปี ประมาณ 7 คน ถูกกลุ่มวัยรุ่นคู่อริขี่รถจักรยานยนต์ตามไล่ฟันและพยายามยิงใส่ จึงเข้าไปให้การช่วยเหลือ โดยทีมข่าวเราได้นำรถเข้าไปขวางทางกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ จนพากันขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรกลับไป ก่อนจะเขาช่วยเหลือเยาวชน 2 คน ที่ถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุใช้ปืนจ่อจะยิง แล้วรถล้มได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะพากันทิ้งรถกระโดดหนีเอาชีวิตรอด ก่อนที่เพื่อนของคนเจ็บจะขี่รถจักรยานยนต์วนกลับมา พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมที่เกิดเหตุ
จากการสอบถาม นายก๊วก (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี หนึ่งในกลุ่มเยาวชนที่ถูกไล่ทำร้าย บอกว่า ตนขี่รถจักรยานยนต์มากับเพื่อน รวม 5 คน รถจักรยานยนต์ 2 คัน โดยรถของตนซ้อน 3 กันมา อีกคันซ้อน 2 เขาขี่รถจักรยานยนต์ไล่พวกตนมา 4 คน รถจักรยานยนต์ 2 คัน ตั้งแต่สนามวโรชา เขาจะยิงใส่พวกตนตั้งแต่ ตรงร้านสะดวกซื้อซอยวโรชา พวกตนขี่รถจักรยานยนต์ ด้วยความว่ารถมันเตี้ย ตนก็เบรกเพราะถ้าเลี้ยวแรงก็จะล้ม แล้วรถเพื่อนของตนเกิดล้ม ทีนี้เขาก็ขี่ตามมาแล้วควักปืนออกมาแล้วบอกให้ตนลงจากรถ ตนไม่เคยมีเรื่องอะไรกับเขา แต่พวกเขาไม่ชอบพวกตน ตนว่าตอนที่ตนหนีเขาน่าจะยิงแต่เหมือนยิงไม่ออก ตนแขวนตะกุดที่พ่อให้มา ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ ตนเคยมีเรื่องกับเขาอยู่ แต่ตนก็ไม่ได้ยุ่งอะไรกับเขาแล้ว แต่ก็ยังเขม่นกันอยู่ ตนพอรู้จักกลุ่มคนก่อเหตุอยู่
นาย สมชาย สีเหรัญ ผู้ช่วยผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งร่วมกับอาสาสมัครของมูลนิธิร่วมกตัญญู บอกว่า ก่อนมาเจอเหตุการณ์ดังกล่าว ตนเองและอาสาสมัครกำลังตระเวนข่าวในพื้นที่ โดยใช้เส้นทางสายบายพาสบางบ่อและกำลังเลี้ยวซ้ายออกถนนเทพารักษ์ จังหวะพอเลี้ยวซ้ายไปพบว่ามีกลุ่มวัยุร่นสองกลุ่มกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ใช้อาวุธมีดและมีอาวุธคล้ายปืนขับขี่ไล่กันผ่านหน้าไป จึงตัดสินใจขับรถตามประกบเพื่อหยุดพฤติกรรมการก่อเหตุของกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว โดยมีน้องๆอาสาสมัครร่วมมกตัญูญูที่ขับตามหลังมาใช้รถกู้ภัยเข้าช่วยขวางทางและห้ามปรามอีกฝ่ายจนหนีกระเจิงออกไป ขณะเกิดเหตุไม่ทันได้คว้ากล้องมาบันทึกภาพแต่อย่างใด เนื่องจากเห็นว่าฝ่ายของคนเจ็บกำลังจะถูกรุมทำร้ายจึงตัดสินใจเข้าช่วยก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สายตรวจ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและหาเบาะแสของกลุ่มผู้ก่อเหตุ พร้อมแนะนำให้กลุ่มเยาวชนกลุ่มนี้เข้าแจ้งความและประสานฝ่ายสืบสวนไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
