พ่อค้าขายทุเรียน ถึงงง หลังถูกสองหนุ่มสาวที่ยืนทะเลาะกันอยู่ฝั่งตรงข้าม ตรงปรี่เข้ามาหาว่ามองหน้า และชักปืนออกมาขู่ จึงเดินทางเข้าแจ้งความ หลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถตามจับตัวเอาไว้ได้พร้อมของกลางปืนบีบีกันจำนวน 1 กระบอก
จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ท่านหนึ่ง ได้โพสต์คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดของร้านไปรษณีย์ บริเวณท้ายหมู่บ้านเฟื่องฟ้าท 15 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งมีความยาว 49 วินาที ที่สามารถจับภาพ สองชายหญิง ยืนโวยวาย อยู่บริเวณระหว่างหน้าร้านของเจ้าของโพสต์ซึ่งเป็นร้านขายทุเรียน และไปรษณีย์ ฝ่ายชายได้เดินถือปืนตรงเข้าไปที่ร้านทุเรียน ได้มีชายเสื้อเขียว ซึ่งเป็นคนของร้านไปรษณีย์ เข้าไปให้และให้ชายดังกล่าวเก็บปืน ชายดังกล่าวได้เก็บปืนเข้าที่เอว แล้วก็ยืนโวยวาย แล้วเดินขึ้นรถจักรยานยนต์ก่อนจะพากันขี่รถจักรยานยนต์ออกไป พร้อมระบุข้อความว่า เตือนภัยใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้แจ้งความ ได้ที่ สภ.ปากน้ำ นะคะ เหตุเกิดเมื่อคืน 2 สามีภรรยาทะเลาะกันเองแล้วพาลมาหาเรื่องหาว่าเรามองหน้า ชักปืนข่มขู่ ภัยสังคมมากแบบนี้ ความปลอดภัยอยู่ไหน #แจ้งความแล้วค่ะ โดยทางผู้เสียหายได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมนำคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดมอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ เผยว่า เหตุเกิด เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 19.10 น. ขณะผู้เสียหายอยู่ร้านขายผลไม้ของตนเอง ได้มีชายถืออาวุธปืนมาข่มขู่ผู้เสียหาย แล้วถามว่า มองหน้าทำไม อยากมีเรื่องเหรอ รู้ไหมกูเป็นใคร ผู้เสียหายเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย จึงเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ หลังจากที่ผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์แล้ว ทางพนักงานสอบสวนได้ประสานชุดสืบสวน ทำการสืบสวนจนทราบว่าชายดังกล่าว ชื่อ นายเต๋า อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านพัก พบ นายเต๋า พร้อมของกลาง อาวุธปืนอัดลม ( บีบีกัน ) จำนวน 1 กระบอก จึงทำการจับกุมตัว พร้อม แจ้งข้อกล่าวหา ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ ก่อนจะส่งตัวให้พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการต่อไป
ล่าสุดเมื่อช่วงสายวันนี้ วันที่ 10 พฤษภาคม 2567 ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ ไปยังร้านขายทุเรียนของเจ้าของโพสต์คลิปดังกล่าว ซึ่งอยู่ที่ท้ายหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ( เฟื่องฟ้า 15 ) ภายในซอยมักกร-ขันดี ตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ไปพบกับ นายอนุวัตน์ ชาลัตน์ อายุ 37 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นน้องเขยเจ้าของร้านขายทุเรียนดังกล่าว พร้อมเล่าเหตุการณ์วันที่เกิดเหตุให้ทีมข่าวฟัง หลังจากนั้นทางทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของผู้ก่อเหตุ ไปพบกับพี่ชายและแม่ของผู้ก่อเหตุ
จาการสอบถาม นายอนุวัตน์ เล่าว่า ตอนนั้นตนนั่งกินส้มตำอยู่ภายในร้าน ก็ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันที่ฝั่งตรงข้ามแถวร้านสะดวกซื้อ ตนก็หันไปมอบแค่แวบเดียว เขาก็ปรี่ข้ามมาหาเรื่องตนเลย บอกว่าแฟนตนมองหน้าอย่างนั้นอย่างนี้ แฟนตนก็บอกว่าไม่ได้มอง ก็มองธรรมดาว่าใครผ่านไปผ่านมาบ้าง ใครทำเสียงดังอะไรอย่างนี้ แล้วก็หาเรื่อง ผู้ชายเขาก็ปรี่เข้ามาชักปืนออกมาสไลด์ปืนขู่ เขาก็ถามว่ามองหน้าเขาทำไมมีอะไรหรือเปล่าประมาณนี้ พี่ไปรษณีย์เขาก็ออกมาห้าม ในร้านก็มีเด็กอยู่ด้วย มันก็อันตราย ตนก็ไม่เคยมีเรื่องกันและก็ไม่เคยรู้จักกันด้วย พอมีคนมาห้ามเขาก็ชวนเมียเขากลับ เท่าที่ตนมองชายหญิงทั้งสองคนเหมือนคนเมา ก็มันเสียงดังตนก็หันไปมองแค่แวบเดียวเหมือนคนทั่วไป อย่างรถชนคนแถวนั้นก็ต้องหันไปดูหันไปมอง
ด้าน พี่ชายของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า วันที่เกิดเหตุน้องสะใภ้วิ่งมาขอความช่วยเหลือ บอกว่า มีคนต่อยหลังน้องชายของเขาทีเผลอ ตัวน้องชายของตนขับรถออกไปได้ไม่นานนัก ก็มีเรื่อง ส่วนเรื่องปืนตนไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร น้องชายอาจจะพกติดตัวไปด้วย ตัวน้องชายของตนนั้นเหมือนจะไม่ถูกกับคนที่มีเรื่องกันอยู่แล้ว ตนก็ไม่ได้ไปยุ่งอะไร ถ้าน้องผิดจริง แต่อย่ามาทำตัวเป็นศาลเตี้ย มาต่อยคนทีเผลอแบบนี้ ทำเลยออกไปดู แล้วไปถามอีกฝ่ายว่าต่อยน้องชายตนทำไม ทำไมไม่แจ้งตำรวจ แจ้งตำรวจไปเลย ถ้าน้องของตนมาก่อความวุ่นวายจริง ๆ อีกฝ่ายบอกว่าน้องชายของตนเอาปืนมาขู่ แต่ถ้าเอาปืนมาขู่แล้วจะมาไล่ต่อยน้องชายของตนทำไม และถ้าน้องชายตนมีปืนจริงแล้วทำไมมันไม่ยิง ตนเลยขอดูหลักฐาน ฝ่ายนั้นก็บอกว่าไม่มี พอบอกมาแบบนั้นตนเลยพูดไปว่าอย่ามาทำตัวเป็นศาลเตี้ยมันไม่ถูก ถ้าน้องของตนทำผิดจริงก็ให้ไปแจ้งความได้เลย ตนเองก็ไม่ค่อยได้ยุ่งเกี่ยวกับน้องชายสักเท่าไหร่ เพราะน้องเป็นคนเกเร และก็รู้จักกับร้านกัญชาอยู่แล้ว คือร้านที่น้องชายไปมีปัญหากันนั่นแหละ และเคยมีเรื่องกันมารอบหนึ่งแล้ว ตนเลยถามอีกฝ่ายว่าทำไมไม่แจ้งความเลย แต่น้องชายก็บอกว่าไปเคลียร์กันมาแล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาไปมีเรื่องกันอีก ส่วนปืนที่น้องพกติดตัวไป น้องยืนยันและถ่ายรูปเอาไว้ด้วยว่าเป็นปืนปลอมก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาตรวจสอบอีกที ตนพึ่งมาเห็นในคลิปว่าน้องไปมีเรื่องกับร้านทุเรียนมาก่อนที่จะวิ่งมาเรียกตน ซึ่งตอนแรกตนไม่ทราบเลยรู้แค่น้องสะใภ้วิ่งมาตามว่าน้องถูกต่อยแค่นั้น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: