เวรกรรมติดจรวด หนุ่มชุมพร ย่องเข้าลักตัดสายไฟในโรงงานถูกไฟดูดดับอยู่ในร่องระบายน้ำภายในโรงงาน สวมหมวกไอ้โมงสีดำปิดบังใบหน้า โดยมีเครื่องมือและอุปกรณ์ตัดสายไฟวางอยู่ข้างๆ คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง ด้านผู้ดูแลเผยโดนบ่อยครั้งแต่ก็ยังจับคนร้ายไม่ได้ จนต้องปิดกิจการชั่วคราว
เมื่อช่วงสาย วันที่ 29 พฤษภาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งจาก รปภ.ของโรงงานแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 6 ตำบลศีรษะจรเข้ใหญ่ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ว่าพบศพคนร้ายที่คาดว่าจะเข้ามาก่อเหตุลักตัดสายไฟภายในโรงงาน พบว่าเสียชีวิตอยู่ในร่องระบายน้ำของโรงงาน จึงประสานพนักงานสอบสวน ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมกับแพทย์เวรนิติเวช โรงพยาบาลรามาจักรกรีนฤบดินทร์ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิต เสียชีวิตในสภาพนั่งคอพับอยู่ในร่องระบายน้ำภายในโรงงาน สวมหมวกไอ้โม่งสีดำปิดบังใบหน้า สวมกางเกงขายาวสีดำ สวมเสื้อกีฬาสีดำแขนยาว โดยมีเครื่องมือและอุปกรณ์ตัดสายไฟวางอยู่ข้างๆ ซึ่งจากการตรวจสอบสภาพศพคาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงทำบันทึกในที่เกิดเหตุและเก็บอุปกรณ์ตัดสายไปตรวจสอบ จากนั้นมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่นิติเวชโรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์สมุทรปราการ ทราบภายหลังว่าผู้เสียชีวิต คือ นาย นิรันดร์ ชูรัตนา อายุ 39 ปี โดยภรรยาระบุว่าสามีออกจากบ้านพักในซอยวัดศรี ซึ่งไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก ซึ่งช่วงที่สามีออกมานั้นตนเองไม่ทราบเพราะนอนหลับตื่นมาก็ไม่เจอสามีแล้ว พบว่าหายออกไปพร้อมกับรถจักรยานยนต์ จนกระทั่งมาทราบข้อมูลจากการลงประกาศตามหาญาติ
ล่าสุด นักข่าวเราได้เดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ได้พูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ รปภ. ชื่อว่า นาย ชัชวาล พาพันธ์ บอกกับทีมข่าวเราว่า ตนเองเข้าเวรและออกตรวจตามปกติ ก่อนออกตรวจช่วงตีห้ากว่าที่ผ่านมา ไปพบว่ามีคนนอนแน่นิ่งในร่องน้ำสวมไอ้โม่ง ด้วยความตกใจจึงรีบปั่นจักรยานออกมาด้านนอกเพื่อโทรบอกผู้จัดการโรงงาน จนกระทั่งผู้จัดการเดินทางมาถึงและแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
ขณะที่ นาย หาญณรงค์ วงษ์เปรม อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่ไปในที่เกิดเหตุ บอกว่า จากการตรวจสอบสภาพศพพบว่าเสียชีวิตในร่องน้ำ ซึ่งจุดดังกล่าวจะพบว่ามีการลักเปิดฝาท่อที่ทางโรงงานใช้ร้อยสายไฟขนาดใหญ่ไว้และยังพบร่องรอยการตัดสายไฟในท่อ ซึ่งมีอุปกรณ์การตัดสายไปอยู่ข้างตัวของผู้ตายอีกด้วย ซึ่งจากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่ามีร่องรอยการปีนเข้ามาจากด้านข้างรั้วของโรงงานซึ่งเป็นป่ารกทึบ ส่วนฝาท่อที่เห็นพบว่าผู้ตายงัดฝาท่อแล้วเอาท่อนไม้พาดคาไว้เพื่อจะก้มตัดสายไฟในท่อส่วนร่องน้ำดังกล่าวอยู่ติดกัน
ด้านผู้จัดการโรงงานดังกล่าวเปิดเผยกับทีมข่าวและพานักข่าวเราไปดูสภาพสายไฟที่ถูกคนร้ายตัดแล้วดึงมากองรวมไฟเพื่อเตรียมนำออกไปขาย โดยผู้จัดการสาวรายนี้เปิด เผยว่า ที่ผ่านมาโรงงานเคยถูกคนร้ายเข้ามาก่อเหตุแล้วถึง 6 ครั้ง ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่ก็ยังจับคนร้ายไม่ได้ ซึ่งสร้างความเสียหายหากรวมค่าติดตั้งใหม่คาดว่าเกือบสิบล้านบาท เพราะเป็นสายไฟเมนหลักของโรงงาน จนปัจจุบันทางโรงงานต้องปิดกิจการชั่วคราวเนื่องจากถูกคนร้ายมาก่อเหตุบ่อยครั้ง
