ตำรวจบางเสาธง รวบแก๊งลักรถจักรยานยนต์รายใหญ่ยึดของกลางจำนวนมาก ทั้งรถจักรยานยนต์ จำนวน 8 คัน โครงรถอีก 8 คัน นอกจากนั้นยังมีอะไหล่รถ จักรยานยนต์ที่ถูกชำแหล่ะแยกชิ้นจำนวนมาก ๆ แล้วหลายร้อยรายการ ทางผู้กำกับการ สภ.บางเสาธง ระบุว่าหากผู้เสียหายที่รถหายและต้องสงสัยว่าจะเป็นรถของตนเอง ก็สามารถมาติดต่อดูของกลางได้ที่ สภ.บางเสาธง
ภาพวงจรปิด ตัวแรก เป็นภาพเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 01.28 น. มีชายสองรายขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาภายในลานจอดรถ สถานที่เกิดเหตุ หน้าตึก ส.รุ่งเรือง บางปลา 14 ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จากนั้นชายหนึ่งรายสวมหมวกกันน็อคครึ่งใบ ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า สมเสื้อแขนยาวกางเกงขายาว เดินลงมาดูลาดลาว ก่อนปรี่เข้าไปที่ลานจอดรถและก้มดูว่า มีรถจักรยานยนต์คันใดบ้างล็อคอยู่ จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ขึ้นคร่อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 125 สีเทาน้ำเงิน แล้วใช้เท้าถีบไปที่แฮนด์ เพื่อหักคอรถ จากนั้นได้ขี่รถคันดังกล่าวออกไป
ข่าวน่าสนใจ:
- รับสมัครเลือกตั้ง สจ.สระแก้ว วันแรกคึกคัก พรรคประชาชนส่งทีมลงสมัครหลายพื้นที่ ส่วนอดีต สจ.บางคนไม่ลงเพราะต้องลงเลือกตั้งท้องถิ่น
- ขอนแก่น จัดงานสุดยอดมหกรรมเทศกาลอาหาร “ขอนแก่นแซ่บเวอร์ Soft power foodThailand”พบการแสดงศิลปวัฒนธรรมอีสาน และศิลปินชื่อดังระหว่างวันที่ 25-29…
- ตรัง "โลกเปลี่ยน เราไม่เปลี่ยน" บอกรักทะเลด้วยสองมือ ณ หาดฉางหลาง ทะเลตรัง ก้าวขา-พาสองมือเก็บขยะทะเล รังสรรค์งานศิลป์
- เปิดแล้วสุดยอดจุดเคาท์ดาวน์ซับสะเลเตบนขุนเขาแห่งดอกไม้ใหญ่สุดในภาคอีสาน!
กล้องวงจรปิดอีกตัว จับภาพเหตุการณ์ เมื่อ วันที่ 13 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 02.26 น. จะเห็นชายรายหนึ่งสวมเสื้อแขนยาวมีฮู้ดสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ สวมแมสก์สีดำ ย่องเข้ามาภายในบานจอดรถของตึกหน้าบ้านเลขที่ 13/5 หมู่ที่ 10 ซอยบางปลา 14 /ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จากนั้นเลือกก่อเหตุรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 125 สีแดง แล้วก้มไปปลดล็อคคอรถอย่างชำนาญ โดยใช้เวลาเพียงไม่ถึง 3 นาที สาตร์ทรถแล้วค่อยๆขยับออก ขับหลบหนีไปพร้อมขโมยหมวกกันน็อคครึ่งใบของรถที่จอดข้างๆ ไปด้วย
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 14 มิถุนายน 2567 พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก. สภ.บางเสาธง สมุทรปราการ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดฝ่ายสืบสวน สภ.บางเสาธง และ สภ.บางพลี ได้ร่วมขยายผลไปจับกุมและยึดของกลางภายในบ้านพักหลังหนึ่งย่านแพรกษาใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ หลังจากที่รวบตัวสมาชิกในแก๊งลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ก่อนจะขยายตามไปพบของกลางจำนวนมาก และสามารถจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้จำนวน 3 คน 1.นายธนกร ชาญศิริ อายุ 19 ปี / 2.นายไอซ์ พุงพูล อายุ 16 ปี / 3.นายศุภวราห์ แก้วบุญเรือง อายุ 18 ปี โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร” ซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาแก๊งนี้ ตำรวจยึดของกลาง เป็น เป็นจำนวนมาก ทั้งรถจักรยานยนต์ จำนวน 8 คัน โครงรถอีก 8 คัน นอกจากนั้นยังมีอะไหล่รถ จักรยานยนต์ที่ถูกชำแหละแยกชิ้นจำนวนมาก ๆ แล้วหลายร้อยรายการ ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดยอมรับว่าร่วมกันก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์มาจริง
นายกาย และ นายบอส ให้การรับสารภาพว่า ตนเองและพวกร่วมกันตะเวนก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ในหลายพื้นที่ ทั้งบางเสาธง โดยเฉพาะเคหะเมืองใหม่บางพลี ไทยประกัน นอกนั้นยังมีท้องที่ สภ.บางปู ซึ่งทำมาแล้วหลายครั้งจนจำไม่ได้ว่าก่อเหตุมากี่ครั้ง ส่วนรถที่ขโมยได้มา ก็จะนำไปขายยกคัน บ้าง เอาไปแลกยาเสพติดมาเสพบ้าง ส่วนคันไหนที่ขายแบบยกคันไม่ได้ก็จะมาชำแหล่ะแยกชิ้นส่วนขายบ้าง ยำใส่รถทำรถแต่งบ้าง ส่วนเป้าหมายรถจะเลือกรถที่จอดในที่ปลอดคนและรถที่ล็อกเพียงคอรถเท่านั้น เพราะก่อเหตุง่าย ส่วนรถที่ล็อกกุญแจอื่นหรือล็อกโซ่ จะไม่เลือกที่จะก่อเหตุ เพราะยากและใช้เวลานาน
ขณะที่ทางผู้กำกับการ สภ.บางเสาธง ระบุว่าหากผู้เสียหายรายได้ที่รถหายและต้องสงสัยว่าจะเป็นรถของตนเองก็สามารถมาติดต่อดูของกลางได้ที่ สภ.บางเสาธง พร้อมทั้งฝากเตือนทางเจ้าของรถ ซึ่งจากการสอบปากคำผู้ต้องทำให้เห็นว่าหากรถที่มีการล็อกกุญแจพิเศษเพิ่ม เช่นล็อกดิสเบรก ล็อกล่ามโซ่ ผู้ก่อเหตุมักจะไม่เลือกที่จะลงมือ จึงฝากให้ทางผู้ครอบครองรถนำไปพิจารณาปรับใช้เพื่อป้องกันรถหายได้อีกทางหนึ่ง
พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม หลังจากที่ สามารถติดตามจับกุมแก๊งลักรถรายนี้ได้ ซึ่งมีผู้เสียหายหลายราย ถือเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ จากแก๊งลักรถพวกนี้ ส่วนคดีนี้ เป็นการขยายผลจากยาเสพติด ตั้งแต่ผู้เสียรายย่อยจนขยายผลไปพบว่าเกี่ยวข้องกับแก๊งลักรถจนสืบสวนทราบและขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้เกือบยกแก๊ง ซึ่งมีเยาวชนชายหญิงร่วมด้วย ซึ่งหลังจากนี้จะมีการขายผลต่อทั้งคนที่รับซื้อและแก๊งยาเสพติดในพื้นที่ ส่วนปัญหาเยาวชนที่ออกมาก่อเหตุ ขณะนี้มีเป้าหมายบ้างแล้วบางส่วนซึ่งตนเองก็ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้จับตาดูพฤติกรรมเอาไว้แล้ว พร้อมทั้งฝากเตือนผู้ปกครองหากปล่อยปะละเลยให้บุตรหลานออกมากระทำความผิดเอาเข้าข่ายความผิดด้วยเช่นกัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: