ตำรวจท่องเที่ยวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บุกจับคาห้องพักย่านบางบอน สาวสองแสบมอมยา ลักทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน ตรวจค้นห้องพบยาเสพติด และยาเสียสาว เพียบ โดยไปเจอกับผู้เสียหายริมถนนใกล้สถานบันเทิงในย่านสุขุมวิทพูดคุยตีสนิทจนผู้เสียหายหลงกลและตามไปที่ห้องพัก และใช้ยา Alprazolam ผสมกับเครื่องดื่มให้ผู้เสียหายดื่มจนสลบไปและร่วมกับเพื่อชิงทรัพย์
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของตำรวจท่องเที่ยวท่อง กองกำกับการ 3 ตำรวจท่องเที่ยว 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นำหมายจับจาก ศาลอาญา รัชดา บุกไปจับกุม นาย กฤษณะ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี สาวประเภทสอง และ นางสาวสุธาสินี (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ได้คาห้องพักย่านบางบอน กทม โดยจับกุมตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อหา “ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อพาทรัพย์สินนั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามหมายจับและเคยก่อเหตุจริง ตำรวจจึงตรวจค้นขยายผลในห้องพัก ยังไปพบ ยาเสพติด เป็น ยาบ้า จำนวน 132 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 3.74 กรัม และ วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 Alprazolam (ชนิดเดียวกับที่ใช้มอมยาผู้เสียหาย) อีกจำนวน 14 เม็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมตัว นายกฤษณะฯ ส่งพนักงานสอบสวน สน หัวหมาก เพื่อดำเนินคดีในความผิดฐาน
ข่าวน่าสนใจ:
- เปิดฉาก! สีฐานเฟสติวัล 2024 ลอยกระทงปีนี้ที่ มข.แบบ “วิถีแห่งอีสาน สีฐานมูเตลู”
- ผู้ว่าตรังสั่งซ่อมด่วนหลังคาท่าเรือปากเมง หวั่นอันตรายนทท. กระทบภาพลักษณ์จว. ลั่นพร้อมออกเงินส่วนตัว 2.3 หมื่นค่าวัสดุ…
- นราธิวาส-กรรมกำลังทำงาน - ปมสังหาร "นายกอาร์ม"
- วัสดุทำกระทงตรังราคาพุ่ง ดาวเรืองขึ้นราคาเท่าตัว ผู้ค้าตลาดเทศบาลนครตรังเงียบเหงา กัดฟันขายราคาเดิมหวั่นกระทบลูกค้า
พ.ต.อ.พงษ์พิเชษฐ์ นิลจันทร์ ผกก.3 บก.ทท.1 เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้ สืบเนื่องจาก มีนักท่องเที่ยวชาวเยอรมนี คนหนึ่ง มาร้องทุกข์กับทางตำรวจท่องเที่ยวประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก่อนจะเดินทางกลับประเทศว่า ตนเองตกเป็นผู้เสียหายถูกคนร้ายซึ่งเป็นสาวประเภทสองและเพื่อนสาวอีกราย ก่อเหตุมอมยาจนสลบและขโมยทรัพย์สินไปหลายรายการ ทั้งเงินสด บัตรเคดิต และกล้องถ่ายรูป ซึ่งเหตุเกิดแถวสถานบันเทิงย่านสุขุมวิท และผู้เสียหายแจ้งความไว้ที่สนหัวหมากแต่คดีไม่คืบหน้า ตนเองเห็นว่าเรื่องนี้ถือว่าเป็นภัยต่อสังคมและทำลายการท่องเที่ยว จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนของตำรวจท่องเที่ยวประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ลงพื้นที่หาข่าวและเบาะแสของคนร้าย กระทั่งไปพบเบาะแสสำคัญตามที่ผู้เสียหายชี้ยืนยัน คือภาพวงจรปิดภายในคอนโดที่พักของผู้เสียหาย ขณะที่สองผู้ต้องหาตามประกบผู้เสียหายเข้าไปในห้องพัก ฝ่ายสืบจึงไล่เรียงกล้องวงจรปิดจนทราบแหล่งกลบดานของสองผู้ต้องหารายนี้ จนมีการประสานส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจหาตัวยาที่ถูกมอมยาซึ่งผลจากการตรวจร่างกายของผู้เสียหาย ได้รับการยืนยันว่าพบตัวยา Alprazolam ในเลือดซึ่งเกิดจากการมอมยา ฝ่ายสืบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานและเสนอพนักงานสอบสวนสนหัวหมากเจ้าของคดี ไปขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา รัชดา กระทั่งศาลได้อนุมัติหมายจับสองผู้ต้องหา ฝ่ายสืบสวนซึ่งเฝ้าสังเกตการณ์และซุ่มโป่งรอหมายจับออก และทันทีที่หมายจับออก จึงนำกำลังบุกเข้าห้องพักจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองเอาไว้ได้ ซึ่งยอมรับว่าก่อเหตุจริงตามภาพและหลักฐาน โดยเฉพาะตัวยา Alprazolam ที่พบในห้อง ซึ่งเป็นตัวยาชนิดเดียวกันที่ใช้ก่อเหตุมอมยาผู้เสียหาย โดยผู้ต้องหายอมรับว่า วันเกิดเหตุไปเจอกับผู้เสียหายริมถนนในขณะเดินอยู่ใกลสถานบันเทิงในย่านสุขุมวิทจึงเข้าพูดคุยตีสนิทจนผู้เสียหายหลงกลและตามไปที่ห้องพัก จากนั้น ใช้ยาชนิดดังกล่าว แอบผสมกับเครื่องดื่มให้ผู้เสียหายดื่มจนสลบไปและร่วมกับเพื่อชิงทรัพย์ของผู้เสียหายก่อนจะหลบหนีไปกบดานที่ห้องพักย่านบางบอน ซึ่งทรัพย์สินที่ได้ไปเงินสดก็เอาไปใช้เที่ยวเตร่และซื้อยาเสพติด บางส่วนเอาไปขาย บางส่วนเอาไปโยนทิ้ง ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติ โดยเฉพาะผู้ต้องหาที่เป็นสาวประเภทสองพบว่าเคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดมาแล้ว ทั้งนี้มีการประสานและพูดคุยกับทางผู้เสียหายแล้วจนเป็นที่หน้าพอใจ และผู้เสียหายขอบคุณทางตำรวจท่องเที่ยวที่ติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ในที่สุด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: