หนุ่มแค้นแทนพ่อ คว้ากรรไกรแทงคู่กรณีของพ่อเจ็บสาหัส บริเวณลานจอดรถบรรทุกแห่งหนึ่ง ภายในซอยวัดศรีวารีน้อย เจ้าหน้าที่มูลนิธิให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง หลังก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุได้นั่งซดเบียร์ย้อมใจก่อนถูกรวบ คาดว่ามีปัญหากันมาก่อนหน้านี้
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 4 กรกฎาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ได้ รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกันด้วยกรรไกร มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณลานจอดรถบรรทุกแห่งหนึ่ง ภายในซอยวัดศรีวารีน้อย ตำบลศีรษะจรเข้ใหญ่ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสาน ชุดสืบสวน พร้อม เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เกิดเหตุ บริเวณบนท้ายรถกระบะ หน้าลานจอดรถดังกล่าว เจ้าหน้าที่ พบ นายบุรินทร์ เผือกพันธุ์ อายุ 24 ปี มีบาดแผลฉกรรจ์ ที่บริเวณลำคอ หน้าอกขวา และ แก้มข้างซ้าย เลือดไหลท่วมเต็มร่าง เจ้าหน้าที่มูลนิธิให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ส่วน ผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อ นายทศพล บุญชื่น อายุ 33 ปี หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวได้ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบสวนต่อที่ สภ.บางเสาธง
จากการสอบถาม พนักงานผู้หญิง เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นเวลาประมาณ 5 โมงเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่พนักงานเลิกงานกัน จริงๆ เขามีเรื่องกัน เราก็เรียกทั้งสองฝั่งคือ นายบุรินทร์ และ พนักงานขับรถ มาคุยกับเจ๊ในห้อง พอคุยเสร็จเขาก็ออกมานอกห้อง ซึ่งคนที่แทงน้องคือ นายทศพล เป็นบุคคลภายนอก แต่เป็นลูกชายของพนักงานขับรถ ซึ่งก่อนหน้านี้พ่อของ นายทศพล ก็ไม่พอใจกันกับ นายบุรินทร์ ฝ่ายนายบุรินทร์ก็ขอโทษและตกลงกันแล้ว จังหวะที่ นายทศพล มานั่งรอพ่อเลิกงาน อยู่ภายในลาน นายบุรินทร์ ก็กำลังเดินออกมาเพื่อจะเตรียมตัวกลับบ้าน นายทศพล ก็เกิดอารมณ์โมโห ซึ่งตอนนั้นเห็นเอาอาวุธมาด้วยเป็นมีดกับกรรไกร ก็มีการด่าทอว่าทำไมมาร้ายพ่อ จากนั้นก็เกิดเหตุทะเลาะและใช้อาวุธทำร้ายกัน เบื้องต้นก็คาดว่ามีปัญหากันมาก่อนหน้านี้ อาจจะคนไม่ถูกกันแล้วมาเจอกันก็เลยมีเรื่อง และ ทางฝ่ายพ่อก็อาจจะโทรไปบอกลูกว่ามีเรื่อง เลยมานั่งรอที่นี่ ก็เลยเกิดเหตุดังกล่าว จากนั้นพวกตนกับพนักงานก็ช่วยกันเข้ามาห้าม ซึ่งคิดว่าจริงๆ ก็ไม่น่าจะมีเรื่องกันแล้วเพราะมีการคุยกันแล้ว เรื่องที่ทะเลาะกันก็มีการเซ็นเอกสารพักงาน 8 วัน ทั้งสองฝ่าย ก็คิดว่าจบไปแล้ว และฝ่ายน้องที่โดนแทงเองก็ขอโทษไปแล้ว
พนักงานผู้ชาย เล่าว่า ผมเห็น นายทศพล เดินมา ผมถามเขาเขาก็ไม่พูดอะไร เขาก็เดินโฉบอ้อมไปนั่งรอพ่อ และ ก็ไม่ได้คุยอะไรกัน จึงไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร คงต้องถามจากหลายๆคน ก่อนหน้านี้ทั้งสองฝั่งเขาก็ต่างคนต่างวิ่งงาน ไม่ยุ่งกัน ส่วนสาเหตุที่ขัดแย้งก็ไม่แน่ใจ เพราะเราต่างคนก็ต่างทำงาน ไม่ได้ยุ่งเรื่องของกันมากมาย ซึ่งพอมาตอนเกิดเหตุ ตอนนั้นผมยืนอยู่ไกล ไม่ได้เข้าไปห้าม แต่พนักงานคนอื่นเขาเข้ามาห้ามแล้ว
ด้าน นายทศพล บุญชื่น อายุ 33 ปี ผู้ก่อเหตุ ให้การว่า ส่วนตัวตนไม่ได้รู้จักกับผู้บาดเจ็บมาก่อน สาเหตุรู้ว่าพ่อของตนถูกทำร้าย แต่ตนไม่รู้ว่าใครทำ รู้เพียงว่า นายบุรินทร์ เป็นต้นเรื่องต้นเหตุ และ รู้จากพ่อและเพื่อนพ่อว่า นายบุรินทร์ เป็นคนทำร้ายพ่อ ซึ่งเมื่อเจอ นายบุรินทร์ ตนก็ด่าไปว่า มึงเป็นเด็ก มึงมาทำอะไรพ่อกู คนละรุ่น มีอะไรมากับกูดีกว่า ซึ่งตนก็ยอมรับสารภาพว่าตนเตรียมอาวุธ คือ กรรไกรและมีดมาด้วย และ ก็โยนมีดไปให้ นายบุรินทร์ เพื่อสู้กันแบบลูกผู้ชาย แล้วก็ท้ามันแทงแต่มันไม่เอา แต่พอตนเห็นหน้าแล้วรู้สึกแค้น จึงปรี่เข้าไปทำร้าย และ ผลสุดท้ายพวก นายบุรินทร์ ก็รุมกันมั่วสั่ว ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แต่ตนมาคนเดียว และ ยังได้รับบาดเจ็บที่ขา 1 แผล ตอนจะมากินเบียร์มาก่อนกระป๋องหนึ่ง และมากินอีกกระป๋องหลังก่อเหตุ
สาเหตุที่ผมไปทำเขาเพราะโกรธแค้นที่เขามาทำพ่อผมเป็นเวลานาน ซึ่งเขาเคยมีเรื่องกันมาก่อน แล้วพอวันนี้มันก็เกิดอารมณ์ปะทุ ก็เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ก่อนเกิดเหตุผมก็นั่งรอพ่อตรงใกล้ ๆ ลานจอด รอจนกว่าพ่อจะมา ผมกะจะมาคุ้มกันพ่อ ทางนู้นเขามาก่อน ผมไม่รู้ว่าเขาเตรียมการมายังไง ผมไม่รู้พ่อมายังไง พอพ่อผมออกมา ผมก็ขับมอไซค์ประกบพ่อออกมา คือ ผมเห็นหน้ามันไม่สลดมันเยาะเย้ย ผมก็โยนมีดให้มันมาสู้กันตัวต่อตัว ผมหมั่นไส้มันฝังใจผม พ่อกลับบ้านมาก็มาระบายให้ผมฟังทุกวัน ผมอยากจบก็เลยมากับสิงที่เกิดขึ้นผมยอมรับว่ามันเกินกว่าเหตุไป ผมก็รู้สึกละอายใจ
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ แจ้งข้อกล่าวหา นายทศพล ผู้ก่อเหตุ ในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และพกพาอาวุธมีด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
