โจรหัวโล้น อาละวาด เข้าไปขโมยของภายในอู่เคาะพ่นสีหลายรายการ

โจรหัวโล้น อาละวาด เข้าไปขโมยของภายในอู่เคาะพ่นสีหลายรายการ สร้างความเสียหายกว่าหมื่นบาท เจ้าของอู่วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งติดตามจับกุม ก่อนไปสร้างความเสียหายซ้ำอีก

ภาพจากกล้องวงจรปิด ชายหัวโล้นอายุประมาณ 30-45 ปี เดินเข้ามาในบ้าน แล้วจับกล้องวงจรปิดบิดหันหนี ก่อนกลับไปเอารถเข็นเข้ามาขนเครื่องมือช่างของอู่เคาะพ่นสีที่อยู่ข้างเคียงไปเกลี้ยง สร้างความเสียหายกว่าหมื่นบาท เจ้าของอู่วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งติดตามจับกุม ก่อนไปสร้างความเสียหายซ้ำอีก

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังอู่เคาะพ่นสีไม่มีชื่อ เลขที่ 127 / 2 หมู่ 10 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พบกับ นายสนอง จันทรชิต อายุ 62 ปี เจ้าของอู่ฯ พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดเกิดเหตุที่ถูกชายหัวโล้นเข้ามาแอบงัดหน้าต่างด้านข้าง ปีนเข้าไปในห้องเก็บอุปกรณ์ ขนเครื่องมือช่างไปทั้งหมด 8 รายการ ประกอบด้วย 1.บล็อกเครื่องมือ / 2.หัวตัดแก๊ส 2 หัว / 3.สว่าน 2 ตัว / 4.หินเจียร์ / 5.เครื่องขัดสีโป๊ / 6.เครื่องขัดสีขนแกะ / 7.สายเชื่อมไฟฟ้า / 8.กระทะล้อ 2 วง / และ 9.เงินเหรียญอีก 400 บาท รวมมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นประมาณ 1.5 หมื่นบาท

นายสนอง จันทรชิต อายุ 62 ปี เจ้าของอู่ฯ ผู้เสียหาย กล่าวว่า เช้าวันที่ 9 ก.ค.2567 ตน เข้ามาทำงานที่อู่ตามปกติ เมื่อเปิดประตูเข้าไปหากระทะล้อรถไม่เจอ ตนจึงโทรถามลูกน้อง ทราบว่าไม่มีใครเอาไป จากนั้น เห็นหน้าต่างเปิดอยู่และเครื่องมือช่างที่เก็บไว้ตามขั้นวางอุปกรณ์ก็หายไปทั้งหมด จึงไปขอดูกล้องวงจรปิดกับเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างอู่ เห็นภาพชายหัวโล้น อายุประมาณ 30 – 45 ปี เข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ในอู่ของตน ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น.ถึง 23.30 น.วันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา สร้างความเดือดร้อนเสียหายให้กับตนเป็นอย่างมาก ตอนนี้ไม่สามารถรับงานกับลูกค้าได้เลยเพราะเครื่องมือช่างหายไปทั้งหมด ตนอยู่ที่นี่มากว่า 30 ปี ไม่เคยโดนโจรเข้ามาก่อเหตุ จึงไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด แต่หลังจากนี้ คงต้องซื้อกล้องวงจรปิดมาติดตั้งเอาไว้ พร้อมฝากเตือนภัยถึงผู้ประกอบอาชีพเดียวกันอย่าประมาท ควรติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ จะได้ไม่โดนเหมือนกับตน และฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี ช่วยเร่งรัดติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

ส่วน นางรชา พุ่มมาลา หรือ พี่เล็ก อายุ 59 ปี เพื่อนบ้านเจ้าของกล้องวงจรปิด พาผู้สื่อข่าวไปชี้ดูจุดที่คนร้ายเดินเข้ามาในบ้านแล้วบิดกล้องวงจรปิดหันไปทางอื่น กล่าวว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามาในบ้าน มาเข้าห้องน้ำ จากนั้นออกมาจับกล้องวงจรปิดหันไปทางอื่น ทำให้เห็นว่ามีเจตนาไม่ดี ต้องการมาก่อเหตุลักทรัพย์ในบ้าน แต่ที่บ้านตนไม่มีทรัพย์สินมีค่าอะไรและโจรไม่สามารถงัดเข้าไปในบ้านได้ จึงไม่เกิดความเสียหายใด ๆ แต่เมื่อก่อเหตุกับบ้านตนไม่ได้ จึงเดินไปก่อเหตุลักทรัพย์กับอู่รถที่อยู่ถัดไปและสร้างความเสียหายดังกล่าว ห้องน้ำบ้านตน อยู่แยกส่วนออกจากตัวบ้าน หากใครปวดท้องมีความจำเป็นต้องใช้ ตนก็ไม่ได้หวง แต่หลังใช้ห้องน้ำเสร็จแล้ว ออกมาจับบิดกล้องวงจรปิดแบบนี้ ส่อเจตนาว่าตั้งใจมาก่อเหตุแน่นอน ในส่วนคนร้ายนั้น ตนคุ้นหน้า เหมือนเคยเห็นว่าเป็นคนอยู่ในหมู่บ้านละแวกใกล้เคียง แต่ยังนึกไม่ออก และฝากเตือนภัยกับผู้มีบ้านพักแบบไม่มีรั้วกั้นอยู่ติดริมถนน ควรเก็บทรัพย์สินมีค่าไว้ในบ้านปิดล็อคให้ดี พร้อมฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี ช่วยเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว มิฉะนั้น เขาอาจไม่กลัวและไปก่อเหตุซ้ำสร้างความเดือดร้อนเสียหายกับคนอื่นอีก