ผกก.สภ.บางแก้ว นำทีมบุกจับแก๊งลักรถมอไซค์ ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่ บริเวณเพิงพักไม่มีเลขที่ ท้ายซอยศรีสัมพันธ์ และเตรียมขยายผลผู้ร่วมขบวนการซึ่งเชื่อว่ายังมีอีกหลายคน รวมถึงเส้นทางการเงินนายทุนที่รับซื้ออีกด้วย
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 5 สิงหาคม 2567 พ.ต.อ.อดิเรก ทองแกมแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว พร้อมด้วย พ.ต.ท.วสันต์ วงศ์เรือง สว.สส.สภ.บางแก้ว พ.ต.ต.ดนัย แก้วน่าน สว.สส.สภ.บางแก้ว ร.ต.อ.ธวัฒชัย เทพหนู รอง สว.สส.สภ.บางแก้ว ร.ต.อ.อภิวัฒน์ ไหมดี รอง สว.สส.สภ.บางแก้ว พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สภ.บางแก้ว ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ในพื้นที่ มี นายสมพร หรือหมู เกตุสรุด อายุ 46 ชาว อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ผู้ต้องหาที่ 1 / น.ส.ศศิรัศมิ์ หรือตาล พรกล่อมจันทร์ อายุ 38 ปี ชาว อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ผู้ต้องหาที่ 2 / นายวิวัฒน์ หรือต้น จันทดี อายุ 31 ปี ชาว อ.โคดโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาที่ 3 / นายพิชิต หรือมัด ทองน้อย อายุ 28 ปี ชาว อ.โคดโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาที่ 4 พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้อ อีซูซุ ดีแม็ก สีขาว ทะเบียน 3 ฒง 4427 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน (ใช้ในการก่อเหตุ) /โทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง แผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ ทะเบียน 1 กฑ 7538 ศรีสะเกษ ของ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 110ไอ สีดำ-น้ำเงิน จำนวน 1 แผ่น / แผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานต์ ทะเบียน 1 กถ 9876 ศรีสะเกษ ของรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 110ไอ สีดำ-แดง จำนวน 1 แผ่น / แผ่นป้ายทะเบียนรถจักยานยนต์ ทะเบียน 3 กภ 2558 ชลบุรี ของรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 110ไอ สีน้ำเงิน-เทา จำนวน 1 แผ่น / แผ่นป้ายทะเบียนรถจักยานยนต์ ทะเบียน 2 กภ 9718 ระยอง ของรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 125ไอ สีแดง จำนวน 1 แผ่น โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่ิอให้พ้นการจับกุม หรือ รับของโจร” โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่ บริเวณเพิงพักไม่มีเลขที่ ท้ายซอยศรีสัมพันธ์ ม.15 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 08.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุสื่อสารประจำ สภ.บางแก้ว ใจความว่า เกิดเหตุรถจักรยานยนต์ของประชาชนซึ่งจอดไว้ บริเวณหน้าหอพักพนักงาน บริษัท สยามอินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ท้ายซอยกิ่งแก้ว 64/4 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หายไป จำนวนทั้งสิ้น 4 คัน
พ.ต.อ.อดิเรก ทองแกมแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว เปิดเผยว่า สำหรับพฤติกรรมของแก๊งลักรถรายใหญ่ครั้งนี้ พฤติการณ์ในการณ์จับกุม เนื่องจากมีผู้เสียหายหลายราย มาแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกคนร้ายก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ไป ในจุดเดียวถึง 4 คัน ตนเองจึงร่วมกับฝ่ายสืบสวนวางแผนล่าตัวแก๊งลักรถรายนี้ ด้วยการส่งสายสืบเฝ้าสังเกตการณ์ และใช้เทคนิคของทางตำรวจ กระทั่งพบว่า แก๊งลักรถรายนี้มีการแบ่งหน้าที่กันลงมือ ส่วนหนึ่งจะลงมือก่อเหตุลักรถ พอได้รถมาจะนำไปจอดไว้ในที่ลับตาคน จากนั้นจะนัดหมายให้รถกระบะตู้ทึบมายกขึ้นรถไปยังจุดนัดหมายเพื่อเตรียมส่งออกไปยังจังหวัดมุกดาหาร โดยมีนายทุนรอรับช่วงต่อเพื่อส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน พอได้เบาะแสเช่นนี้ จึงวางแผนซุ่มจับตัว กระทั่งสามารถตามไปจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาได้ในขณะที่เตรียมส่งขาย ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุตามที่มีผู้เสียหายแจ้งความไว้ จริง รับสารภาพว่าทำมาแล้วจำนวนมาก โดยจะส่งขายให้นายทุนในราคาคันละ 5,000-10,000 หมื่น
เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางดังกล่าวไว้ เพื่อประกอบคดีและได้ทำการจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมแจ้งสิทธิ์ให้ ผู้ถูกจับทราบและเข้าใจดีแล้วซึ่งในการจับกุมตัวผู้ถูกจับมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่อาจขอให้ศาลออกหมายจับผู้ถูกจับได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ม.66 (2) ประกอบ มาตรา 78(3) คือ มีหลักฐานตามสมควร ว่าผู้ต้องหานี้ได้กระทำผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือถ้าบุคคลนั้นไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หรือไม่มาตามหมายเรียกหรือตามนัดโดยไม่มีข้อแก้ตัวอันควร ให้สันนิษฐานว่าบุคคลนั้นจะหลบหนีหรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สถานที่ที่จับกุม บริเวณเพิงพักไม่มีเลขที่ ท้ายซอยศรีสัมพันธ์ ม.15 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
โดยตำรวจเตรียมขยายผลผู้ร่วมขบวนการซึ่งเชื่อว่ายังมีอีกหลายคน รวมถึงเส้นทางการเงินนายทุนที่รับซื้ออีกด้วย
