หนุ่มสกลนคร ถูกเพื่อนร่วมงานชาวเมียนมา เมา พูดไม่เข้าหู กลางวงเหล้า คว้ามีดมาปาดคอเพื่อนร่วมงานจนได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เหตุเกิดภายในบ้านหลังหนึ่ง ซอยเพชรหึงษ์ 14 ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 15 สิงหาคม 2567 พ.ต.ท.สายัณต์ ภูพรรณา สารวัตรสอบสวน สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกายใช้อาวุธมีดปาดคอได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 39/8 หมู่ 3 ซอยเพชรหึงษ์ 14 ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ข่าวน่าสนใจ:
- สานฝันวันคริสต์มาสให้เด็กนักเรียนห่างไกลความเจริญ
- เด็กไทยเจ๋ง! วิทยาลัยเทคนิคคูเมือง บุรีรัมย์ คว้าแชมป์หุ่นยนต์ยุวชนโลก คว้า 2 ทอง-โล่ชนะเลิศ
- จัดยิ่งใหญ่ "กีฬาบ้านแก้งสัมพันธ์" สร้างสุขภาพ-สร้างความสามัคคี คนร่วมงานกว่าพันคน
- ตรัง ร้านอาหารผวา!! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ป่วน อ้างสั่งอาหารหรู "พระกระโดดกำแพง" หลอกร้านดังเกือบเสียเงินแสน
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในซอยเพชรหึงษ์ 14 เข้าซอยประมาณ 200 เมตร ที่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าวพบชาวบ้านยืนให้ความช่วยเหลือ นาย จอ อายุ 34 ปี ชาวเมียนมา อาชีพคนงานก่อสร้าง ที่นั่งอยู่กับพื้น มีบาดแผลถูกของมีคมเข้าที่ลำคอขนาดใหญ่จนถึงหลอดลม เจ้าหน้าที่กู้ชีพเร่งให้การช่วยเหลือเบื้องต้นเพื่อทำการห้ามเลือด ก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาลบางจากเป็นการด่วน
ขณะเดียวกันทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามเบื้องต้นทราบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บถูกเพื่อนร่วมงานที่นั่งกินเหล้าด้วยกันภายในบ้านเลขที่ 9/14 หมู่ 3 ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ บ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านเช่าชั้นเดียว และผู้ก่อเหตุ อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องเข้าค้นบ้าน พบนาย พูนทรัพย์(หรือพูน) นนสะเกษ อายุ 33 ปี ชาวสกลนคร อยู่ภายในบ้านพัก และยังมีอาการเมาสุรา เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองจึงได้เข้าควบคุมตัว และค้นหาอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ พบเป็นมีดทำครัวปลายแหลมด้ามสีดำ ยาวประมาณ 10 นิ้ว อยู่บริเวณบันไดทางเดินเข้าห้องบริเวณหน้าบ้าน ภายในบ้านยังพบเลือดจำนวนมากเต็มพื้นห้องตั้งแต่กลางบ้านจนถึงหน้าบ้าน และพบแก้วกับขวดสุรา ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัว นายพูนทรัพย์ พร้อมของกลาง อาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ มาสอบปากคำที่ สภ.พระประแดง
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันและทำงานด้วยกัน วันนี้ทั้งคู่ได้มานั่งดื่มสุรากันที่เกิดเหตุซึ่งเป็นห้องพักของผู้ก่อเหตุ ตั้งแต่ 09.00 น. ดื่มจนทั้งคู่มีอาการมึนเมา จากนั้นผู้ก่อเหตุได้อ้างว่า ตนถูกผู้ได้รับบาดเจ็บ ดูถูกและเหยียดหยามจนผู้ก่อเหตุทนไม่ไหว จึงได้ลุกขึ้นไปหยิบมีดมาปาดคอผู้ได้รับบาดเจ็บ
นายพูนทรัพย์ นนสะเกษ อายุ 33 ปี ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า มันกวนผมเวลาที่ผมนอน จึงบอกไปว่า เวลาที่เราออกไปชีวิตนายจะรอดยากเด้อ ดื่มด้วยกันผมชอบอยู่คนเดียวพูดไม่รู้เรื่องถือมีดไปปาดคอเอาโลดไม่สนใจกับใครเด้อ ตนเองเป็นผู้ก่อเหตุแต่ผู้บาดเจ็บมาแสดงก้ามดากใส่ผม ยอมให้จับและปาดคอเขาจริง โมโหที่เขามาแสดงก้ามดากหรือดูถูกผม โดยนั่งกินเหล้ากันกับผู้ได้รับบาดเจ็บ และตนเองเพียงสองคนนั่งกินกันภายในบ้าน โดยก่อนเกิดเหตุได้พูดจาท้าทาย ไม่เข้าหูกัน
นางราตรี ไวประเสริฐ อายุ 56 ปี หัวหน้าคนงานก่อสร้าง เล่าว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นชาวพม่าซึ่งมาจากจังหวัดชลบุรี มาขอทำงานก่อสร้างกับตนเองได้ประมาณ 3-4 เดือน ซึ่งเขานั่งกินเหล้ากับเพื่อนร่วมงานเพียง 2 คน ส่วนสาเหตุที่ทะเลาะกันตนเองไม่รู้ เขากินเหล้ากันแค่สองคนตั้งแต่ช่วงเช้า จนถึงช่วงเวลาเกิดเหตุ ซึ่งเขาไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน กินกันตามปกติ ตนเองมาทราบเรื่องเนื่องจาก ผู้ได้รับบาดเจ็บวิ่งมาหา และขอความช่วยเหลือ โดยมีเลือดเต็มตัวบอกว่าถูกมีดปาดที่คอ
นายธีรภัทร พิศราจันทร์ อายุ 30 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ก่อเหตุและผู้ได้รับบาดเจ็บนั่งคุยกันตามปกติ โดยกินเหล้ากัน 2 คน ตั้งแต่เช้า จนมาถึงช่วงเกิดเหตุ เวลาประมาณ 15.00 น. จากนั้นจึงทะเลาะกันภายในบ้าน ซึ่งตอนแรกตนเองคิดว่าแค่ล้อกันเล่นมีเสียงดัง คู่กรณีและผู้ได้รับบาดเจ็บได้ตีกันบริเวณด้านนอกและเข้าไปตีกันข้างในต่อ จากนั้นผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้เดินออกมา โดยมีบาดแผลที่ลำคอขนาดใหญ่ มีเลือดไหลเต็ม จึงไปแจ้งญาติ ตนเองตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ด้าน นายพูนทรัพย์ ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพ ว่าได้ลงมือก่อเหตุจริง จากนั้นทางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว คุมขังไว้ก่อน เนื่องจากผู้ก่อเหตุยังมีอาการมึนเมาสุรา ไม่สามารถสอบสวนหรือสอบปากคำได้ ในเบื้องต้นน่าจะแจ้งข้อกล่าวหา พยายามฆ่าผู้อื่น แต่ต้องรอผลการรักษาของผู้ได้รับบาดเจ็บเสียก่อน แต่ถ้าหากผู้ได้รับบาดเจ็บถึงกับเสียชีวิต ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: