ชายคนขับสิบล้อคลั่ง ชนดะ ย่าน กทม. เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อม รถจักรยานยนต์ 2 คัน ไล่ติดตามและสกัดกั้นแต่คนขับได้ใช้อาวุธมีดฟัน ทำให้ตำรวจต้องล่าถอย จนมาจอดบนสะพานข้ามคลองบางน้ำจืดและกระโดดหนีลงน้ำ มุดท่อระบายน้ำหนี สุดท้ายไม่รอดถูกจับกุมตัวได้ที่สมุทรปราการ
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 4 กันยายน 2567 พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าเรือ และ พ.ต.ท.ภาวัต รัตนาภรณ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางพลี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บางพลี ร่วมกันจับกุม ตัว นาย วัลลภ ศรีสูงเนิน อายุ 43 ปี ชาว อ.ปางศิราทอง จ.กำแพงเพชร หลังก่อเหตุ ขับรถบรรทุก 10 ล้อ ลักษณะคนขับคล้ายมีอาการคุ้มคลั่งเสียสติ วนรอบ ระหว่างตึกมาลีนนท์ ถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ มุ่งหน้าแยกพระโขนงก่อนที่จะกลับรถขับกลับมาทางตึกมาลีนนท์และมุ่งหน้าขาออก จนเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อม รถจักรยานยนต์ 2 คัน ไล่ติดตาม จนกระทั่งไปติดไฟแดงบริเวณแยกกล้วยน้ำไท และตำรวจพยายามไปสกัดกั้นด้วยการขึ้นไปบนรถบรรทุกคันดังกล่าวและทุบกระจกรถ เพื่อหยุดยั้ง แต่คนขับได้ใช้อาวุธมีดฟัน ทำให้ตำรวจต้องล่าถอย ก่อนที่ตำรวจอีก 3 นาย จะระดมยิงยางรถ เพื่อสกัดกั้นไม่ให้รถเคลื่อนที่ แต่ชายคนขับพยายามขับเบียดขวาและตบออกซ้ายทำให้รถเสียหลักไปเฉี่ยวชนกับรถยนต์ของประชาชนที่จอดติดไฟแดงได้รับความเสียหาย จากนั้นได้ขับเลี้ยวขวามุ่งหน้าท่าเรือ จนไล่ติดตาม มาทันที่บนสะพานข้ามคลองบางน้ำจืด ขามุ่งหน้าเข้าเอื้ออาทร เอเอพี หมู่ 7 ต.บางแลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และคนขับได้ กระโดดหนีลงน้ำหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ไปไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่จับได้
ข่าวน่าสนใจ:
- สอ.สามัญศึกษาเพชรบูรณ์ประชุมใหญ่ โชว์กำไร 52 ล้าน พร้อมเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ
- ผู้กำกับ สภ.บางเสาธง เชิญตัวคู่กรณีทั้งสองฝ่ายพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่รถชนกันแล้วมีอ้างรู้จักตำรวจ
- นักท่องเที่ยวแห่ชมดอกไม้งามดอยตุง ชิมอาหารพื้นถิ่น ถ่ายรูปดอกไม้สวย
- นนทบุรี หนุ่ม 16 ขับเบนช์ เสียหลักเหินขึ้นไปคาอยู่บนรถ 6 ล้อรอดตายปาฏิหาริย์
หลังจากที่ นาย วัลลภ อายุ 43 ปี คนขับรถบรรทุก 10 ล้อ ตัดสินใจจอดรถบรรทุกทิ้งกลางสะพานข้ามคลองบางน้ำจืด ก่อนจะกระโดดหนีลงน้ำภายในคลองบางน้ำจืดเพื่อหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเจ้าตัวใช้การลอยคอล่องตามลำคลองตามกระแสน้ำ แล้วเกาะกล่องโฟมเพื่อพยุงตัวเองให้ลอยคอหนีการจับกุม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งจาก สน.ท่าเรือ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี สนธิกำลังเดินเท้าติดตามทั้งสองฝั่งคลองเพื่อหวังเกลี้ยกล่อมให้ นายวัลลภ ยอมมอบตัวและขึ้นมาจากคลอง แต่ นายวัลลภ ไม่ยอม และยังคงลอยคออยู่กลางคลอง เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าไล่ตามเพื่อไม่ให้คาดสายตา ท่ามกลางอุปสรรคต่างๆ มากมายที่ริมคลอง อีกทั้งเจ้าหน้าที่เองไม่กล้าเข้าประชิดตัว นายวัลลภ หลังจากที่ทราบว่าเจ้าตัวมีมีดทำครัวติดมือมาด้วย เจ้าหน้าที่ติดตามไปจนถึงปากท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ที่หลังโรงงานแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ นายวัลลภ กระโดดลงคลองมาเกือบ 2 กิโลเมตร โดยมีชาวบ้านชี้ยืนยันว่าเห็น นายวัลลภ ครั้งสุดท้ายคือมุดเข้าท่อระบายน้ำหลบหนีไป ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องปิดล้อมพื้นที่และประสานทางโรงงานดังกล่าวเพื่อหาแนวของท่อระบายน้ำดังกล่าวป้องกันการมุดท่อระบายน้ำหลบหนี จนกระทั่งทราบข้อมูลที่แน่ชัดว่าท่อระบายน้ำดังกล่าวเป็นท่อตันไม่สามารถที่จะหลบหนีออกช่องทางอื่นได้นอกจากทางเข้าด้านหน้าคลอง อีกทั้งท่อระบายน้ำดังกล่าวเป็นลักษณะเข้าจากด้านคลองลึกเข้าไปประมาณ 10 เมตร เป็นสามแยกทางตันซ้าย ขวา ซึ่งเป็นมุมอับที่สามารถหลบซ่อนตัวให้พ้นสายตาของเจ้าหน้าที่หากมองเข้าไปด้านในจากข้างนอกจะมองไม่เห็น ทำให้ นายนรินทร์ กาเผือก ผู้ช่วยเจ้าพนักงานของ สน.ท่าเรือ ต้องตัดสินใจมุดท่อเข้าไปสำรวจด้านใน กระทั่งไปเจอตัว นายวัลลภ นั้นมุดน้ำซ่อนตัวอยู่ด้านในจริง แต่เจ้าตัวถือมีดปลายแหลมขู่ใส่เจ้าหน้าที่และไม่ยอมให้เข้าใกล้แต่อย่างใด ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะกดดันและเกลี้ยกล่อมทุกทาง อย่างรัดกุม กระทั่งเวลาผ่านไปราวชั่วโมงเศษ จนเจ้าหน้าที่สามารถติดต่อบุตรสาวของ นายวัลลภ ได้ จึงใช้โทรศัพท์ต่อสายตรงกับทางบุตรสาวให้ช่วยเกลี้ยกล่อมให้ นายวัลลภ นั้นยอมมอบตัว โดยใช้วิธีการให้เจ้าหน้าที่มุดท่อระบายน้ำเข้าไปแล้วเปิดโฟนให้ นายวัลลภ นั้นได้ยิน ซึ่งบุตรสาวได้มีการพูดคุยช่วยเกลี้ยกล่อมให้พ่อยอมมอบตัว แต่ดูเหมือนไม่เป็นผล และมีเสียงฝ่ายของ นายวัลลภ พูดกับลูกสาวว่าตนเองขับรถชนคนตายและไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ซึ่งจังหวะนั้น เจ้าหน้าที่หันไปเห็นว่า นายวัลลภ กำลังใช้เชือกร่มที่ห้อยพระที่คอนั้นพยายามรัดคอตนเองและเริ่มมีอาการแย่ลง จึงตัดสินใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสี่ยงชีวิตมุดท่อระบายน้ำดังกล่าวเพื่อเข้าชาร์จในท่อระบายน้ำได้สำเร็จและรีบพาตัวออกมาด้านนอก ซึ่งพอออกมาจากท่อระบายน้ำพบว่า นายวัลลภ มีอาการหมดแรงหายใจติดขัดจึงรีบนำตัวส่ง โรงพยาบาลบางพลี
จ.ส.ต.ไชยเชษฐ์ พ มพ์เพน ผบหมู่ ป.สน.ท่าเรือ ซึ่งเป็นชุดที่เข้าไปประชิดตัว ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ที่แขน หลังจากที่ถูกปลายมีดเหวี่ยงใส่จนเสื้อสายตรวจขาด เล่าว่า ตนเห็นอยู่แยกกล้วยน้ำไทไล่มาถึงหน้าบิ๊กซีพระราม4 แล้ววนกลับมาหน้าช่อง3 แล้วมาอยู่ที่กล้วยน้ำไท พอรถติดตนจะขึ้นไปเปิดประตูรถ ก็เลยทุบกระจกแล้วเอามือเข้าไปเพื่อไปบิดกุญแจ เขาเอามีดออกมาแล้วทิ่มมาที่แขน ตนก็เลยหลบลงมา ตนตัดสินใจตามมาเพราะปล่อยไว้ไม่ได้เพราะมีคนบาดเจ็บและมีผู้เสียหายเยอะ ตอนนั้นเขาอาการเหมือนคนเมาเหมือนคนคลั่งไม่มีสติ พูดจาไม่รู้เรื่อง ตั้งแต่เขาชนที่กล้วยน้ำไทตนก็ไล่ตามมาตลอดไม่ให้คาดสายตา และได้ขอกำลังสนับสนุน ตนเห็นในมือเขามีมีดและพอเขามาถึงตรงจุดจอดพอลงรถได้เขาก็กระโดดลงน้ำ ตนก็ได้เกลี้ยกล่อมให้เขาขึ้นมา แต่เขาไม่ยอมขึ้น จนเขาเหนื่อยแล้วเขาก็ไปพักอยู่ริมตลิ่งและเข้าไปอยู่ในท่อ และได้พยายามเกลี้ยกล่อม ตนได้รับบาดเจ็บที่แขนตอนที่เขาเอามีดออกมา
พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 เปิดเผยว่า ด้านพล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.บก.น.5 กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลา 13:00 น. เหตุเกิดบริเวณถนนอาจณรงค์ สน.ท่าเรือ ในตอนแรกผู้ก่อเหตุมีการขับรถชนคนเดินข้ามถนนจนได้รับบาดเจ็บ แล้วมีการหลบหนีมามาตามถนนอาจณรงค์ ออกไปแยกกล้วยน้ำไท หลังจากนั้นทางสายตรวจสน.ท่าเรือได้รับแจ้งเหตุจึงมีการแจ้งสกัดจับและได้ติดตามไปจนกระทั่งทราบว่ารถคันดังกล่าวมีการเชี่ยวชนรถคันอื่น ในพื้นที่สน.ทองหล่ออีก 2 รายและผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บ และรถคันดังกล่าวได้ไปยูเทิร์นรถหน้า รพ.กล้วยน้ำไทพื้นที่สน.คลองตันและมีการไปชนรถจักรยานยนต์ มีผู้บาดเจ็บชายหญิง 2 รายได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากนั้นผู้กระทำผิดได้หลบหนี หลังก่อเหตุสายตรวจของสน.ท่าเรือได้มีการติดตาม ซึ่งเหตุในครั้งนี้ได้มีการนำเรียนท่านผู้บัญชาการนครบาลและท่านได้กำชับให้เร่งติดตามผู้ต้องหาและนำมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หลังจากนั้นผู้ขับขี่ได้ขับรถขึ้นทางด่วนมาลงที่บางนาและหลบหนีมาย่านบางพลี ในส่วนของสน.ท่าเรือและสน.บางนาได้ประสานทาง สภ.บางพลีเพื่อเข้าร่วมการติดตามจับกุม หลังจากนั้นผู้ขับขี่ได้จอดรถทิ้งไว้เบนสะพานจากนั้นได้กระโดดลงน้ำและลอยคอไปเรื่อยๆ และไม่นานหลายฝ่ายได้ช่วยกันจึงสามารถจับกุมตัวผู้กระทำผิดได้ในช่วงเวลา 17:00 น. เบื้องต้นในส่วนความผิด หลักๆ มีขับขี่โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส นอกจากนั้นจะต้องตรวจสอบอีกครั้งว่ามีการกระทำผิดในเรื่องอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะตอนนี้กำลังอยู่ในการตรวจค้นรถหลังจากเพิ่งควบคุมตัวผู้ต้องหาเสร็จ ในคลิปจะเห็นได้ว่ามีจุดตรงแยกกล้วยน้ำไทที่เจ้าหน้าที่ได้มีการเข้าสกัดจับให้หยุดขับขี่เพื่อไม่ให้ขับรถออกไป ผู้ขับขี่ก็พยายามต่อสู้โดยใช้เหล็กแหลมพยายามต่อสู้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงต้องถอยออกมาก่อน และมีการ ว.4 ติดตาม เบื้องต้นได้มีการตรวจสอบประวัติการกระทำผิด โดยผู้ต้องหารายนี้เคยถูกจับกุมในความผิดฐานครอบครองยาเสพติด ในปี 2560 ที่จังหวัดภูเก็ต
นายนรินทร์ กาเผือก ผู้ช่วยห้องจู่โจม สน.ท่าเรือ เล่าว่า เขาไม่ให้ใครเข้าใกล้ ที่ตนเห็นเขานั่งอยู่ในท่อระบายน้ำ ถือท่อนเหล็ก 2 อัน จี้คอตัวเอง และตีเพื่อไม่ให้ใครเข้าใกล้ ตอนที่จับเขาได้เพราะเขาไม่มีแรงแล้ว เขาใช้เชือกผูกคอตัวเองแต่ไม่นาน ประมาณ 2 นาที แต่เขาอยู่ในท่อประมาณ 1 ชั่วโมง ตนเฝ้าอยู่ตลอด ตอนอยู่ในท่อเขาก็มีการพูดกับลูกสาวที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อให้คุย ว่า เขาจะไม่อยู่แล้ว เขาชนคนตาย
นางลักษณา มิมะบุตร คนดูแลลานจอดรถที่นายวัลลภ ขับรถอยู่ บอกว่า ลานจอดรถอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุและโดยปกติแล้ว นายวัลลภ เป็นคนขยันทำงาน โยทำงานมาแล้ว 4 เดือน ดื่มเหล้าบ้างในวันหยุด ส่วนที่ทางบริษัทที่นายวัลลภ ขับอยู่มีการสุ่มตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดอยู่เป็นประจำเนื่องจากบริษัทไม่ให้คนขับเสพยาหากตรวจเจอจะให้ออกทันที
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าเรือได้ยกรถของกลางกลับไปที่ สน.ท่าเรือ ส่วนตัว นายวัลลภ คนขับยังรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลบางพลี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ควบตัวอยู่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: