ล่าตัวนายจ้างโหด!! ใช้ปืนยิงลูกน้องเข้ากลางอกดับอยู่ตรงประตูหน้าห้องพักแห่งหนึ่ง ภายในซอยศรีด่าน 5 หลังก่อเหตุ นายจ้างได้ขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า รีโว่ สีดำ ทะเบียน 2 ฒร 2028 กรุงเทพมหานคร หลบหนีออกไปออกจากซอยไปทางถนนศรีนครรินมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพ
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 8 กันยายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกัน มีผู้เสียชีวิต ภายในหอพักแห่งหนึ่ง ซอยศรีด่าน 5 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ข่าวน่าสนใจ:
- ทหารพราน 48 ลุย! จัดระบบทางน้ำไหล - รับมืออุทกภัย !!!!
- ตำรวจสมุทรปราการ ขานรับนโยบาย ผบ.ตร.บูรณาการกำลังทุกภาคส่วน กวดขันจับกุมแก๊งวัยรุ่นต่างด้าว
- ผอ.ชลประทานที่ 17 นำ 'พ่อเมืองนราฯ' ตรวจความพร้อมรับมืออุทกภัย
- ตรัง เกษตรกรเลี้ยง 3 สัตว์เศรษฐกิจ ปูดำ-ปูหน้าขาว-กุ้งกุลา รายได้ดีมีตลาดรองรับ ปลดหนี้ 6 ล้านได้ในเวลาปีกว่า
ที่เกิดเหตุเป็นหอพัก สูง 7 ชั้น ที่ชั้น 1 ภายในห้องเลขที่ 10 พบร่าง นายปิยะณัฐ(หรือรอน) จิตผ่อง อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด นอนหงายเสียชีวิตอยู่ตรงประตูหน้าห้อง มีแผลถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่กลางหน้าอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปิดกั้นบริเวณที่เกิดเหตุไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไป เพื่อให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวช เข้าทำการตรวจสอบและเก็บพยานหลักฐานต่าง ๆ ในที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบที่ห้องของผู้ตายซึ่งอยู่ชั้น 2 เลขที่ 201 พบว่ามีบางเกรดหน้าห้องแตก 1 บาน ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อ นายบุญฤทธิ์(หรือสิง) เอี่ยวด่วน อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดระนอง หลังก่อเหตุ ได้ขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า รีโว่ สีดำ ทะเบียน 2 ฒร 2028 กรุงเทพมหานคร หลบหนีออกไปออกจากซอยไปทางถนนศรีนครรินมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพ
จากการสอบถาม นางสาวนิภาวรรณ์ วิสัชนาม อายุ 40 ปี ( แม่บ้าน ) บอกว่า เห็นเขาทะเลาะกันในห้องคนตาย ซึ่งอยู่ชั้น 2 แล้วคนก่อเหตุเขาก็ลงมาห้องเขาที่อยู่ข้างล่าง คนตายก็เดินตามลงมา ตนก็ไม่รู้เขาทะเลาะอะไรกัน อยู่ ๆ คนก่อเหตุเขาก็ยิงคนตาย เขาอาจจะมาคุยมาเคลียร์กัน เขาเป็นเพื่อนกัน คนที่ก่อเหตุเขาอยู่นี้นานแล้วประมาณปีนึง ส่วนคนตายเขาพึ่งย้ายมาอยู่นี้ได้ไม่ถึงเดือน ทั้งสองคนทำงานเป็นช่างรับติดตั้งฟิล์ม ปมเหตุตนเองไม่ทราบ แต่ทั้ง 2 คน มีการทะเลาะกัน มีการทุบกระจกจนแตกเสียงดังจากห้องชั้นบน ( ชั้น 2) แล้ว
ขณะที่แฟนสาวของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายบุญฤทธิ์ เอี่ยวค่วน อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดระนอง หลังก่อเหตุ ได้ขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ สีดำ ทะเบียน 2 ฒร 2028 กรุงเทพมหานคร หลบหนีออกไป ทั้งนี้ตนเองก็ไม่ทราบว่ามาจากเรื่องอะไรกัน และ ตนเองเพิ่งมาคบหากับผู้ก่อเหตุได้ไม่นาน แต่ทั้งสองนั้นรู้จักและทำงานร่วมกันมาก่อน ผู้ก่อเหตุปกติเป็นคนอารมณ์ร้อน ไม่เมาก็อารมณ์ร้อนแต่ถ้ายิ่งดื่มสุรายิ่งอารมณ์ร้อน เขาทำงานติดฟิล์มมา 10 กว่าปี มั้ง เพราะตนพึ่งมาอยู่กับเขา เขาอยู่สมุทรปราการมานานแล้วเขาเป็นคนใต้
ส่วน คนข้างห้องคนตาย เล่าว่า ตอนเกิดเหตุตนนอนอยู่ในห้องแล้วได้ยินเสียงก๊อกแก๊กอะไรไม่รู้ ดังไม่นานแป๊บเดียวแล้วก็เงียบ คนตายเพิ่งย้ายมาอยู่ได้ไม่กี่วัน ตนเลยไม่รู้ว่าเขามีนิสัยแบบไหน
ด้าน ผู้พักในตึกดังกล่าว เผยว่า คนตายเขาดูอาการออกตั้งแต่ยังไม่มีเรื่องกัน บางทีก็หลุด บางทีก็ไม่หลุด สาเหตุน่าจะมาจากยาเสพติด ปกติถ้าเขา 2 คนไม่หนักยาเสพติดเขาจะคุยกันดี แต่ถ้าเสพยาเสพติดหนักต่างคนจะต่างอารมณ์ร้อน ตอนที่ด่ากันตนไม่รู้ว่าเขาด่ากันเรื่องอะไร น่าจะพาดพิงกันไปมา วันนี้เขามาเคลียร์กันแต่ตนไม่รู้ว่าเรื่องอะไร เขาคุยกันตั้งแต่ชั้น 2 แต่ตอนคุยกันชั้น 2 คนตายน่าจะอยู่ในห้องไม่ได้ออกมา คนก่อเหตุน่าจะอยู่นอกห้อง ถ้าไม่งั้นก็น่าจะต่อยกันแล้ว สาเหตุน่าจะมาจากยาเสพติด
พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.สำโรงเหนือ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายโดยอาวุธปืน จึงเดินทางมาตรวจสอบ ก็พบว่าเป็นเหตุที่นายจ้างกับลูกจ้างที่ทำงานรับเหมาติดฟิล์มรถยนต์โดยที่คนตายเป็นลูกมือของผู้ก่อเหตุ โดยที่ทั้งคู่นั้นทะเลาะกันตั้งแต่ช่วงบ่ายจากการสอบถามพยานที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ โดยที่ทั้งคู่ทะเลาะกันตั้งแต่ห้องของผู้ตายซึ่งอยู่ที่ชั้น 2 ก่อนที่นายจ้างจะเดินลงมาที่ห้องตนเองซึ่งอยู่ที่ชั้นที่ 1 ผู้ตายก็เดินลงตามมาอีก ช่วงนั้นเป็นเวลา 16.30 น ทั้งคู่อยู่ในห้องประมาณ 1 ชั่วโมง ในเวลา 17.30 น ผู้ก่อเหตุหรือนายจ้างก็เดินออกมาจากห้อง และ แจ้งให้แม่บ้านให้โทรแจ้งมูลนิธิให้หน่อยให้มาเก็บศพ โดยที่ผู้ตายถูกกระสุนปืนไม่ทราบชนิดยิงเข้าบริเวณหน้าอกฝังใน 1 นัด ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะขับรถยนต์กระบะของผู้ก่อเหตุหลบหนีไป ส่วนอาวุธนั้นน่าจะเป็นปืนไทยประดิษฐ์
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุเก็บภาพกล้อวงจรปิด และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุ และให้ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: