หนุ่มใหญ่ อายุ 62 ปี ไม่พอใจวงสุราส่งเสียงดังหน้าห้องพัก คว้าปืนยิงใส่กลางวงสุรา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส 1 ราย หลังจากเกิดเหตุ ผู้ได้รับบาดเจ็บถูกพลเมืองดีพาซ้อนรถจักรยานยนต์ไปส่งที่โรงพยาบาลใกล้เคียง ส่วนผู้ก่อเหตุได้เก็บของและขับรถเก๋งหลบหนีไป เหตุเกิดบริเวณหน้าห้องเช่าแห่งหนึ่ง ภายในซอยศรีสัมพันธ์ ตำบลแพรกษา อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 24 ตุลาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู ได้รับแจ้งมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ บริเวณหน้าห้องเช่าแห่งหนึ่ง ภายในซอยศรีสัมพันธ์ ตำบลแพรกษา อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่สายตรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ข่าวน่าสนใจ:
ในที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าห้องเช่าดังกล่าว พบกองเลือดบนโต๊ะหินอ่อน และหยดเลือดบนพื้นถนนจำนวนมากเป็นทางยาวไปจนถึงปากซอยศรีสัมพันธ์ 1 ซึ่งมีบ้านของชาวบ้านอยู่ ใกล้กันพบเลือดจำนวนมากที่ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์ สีแดง ทะเบียน 1 กญ 3541 สมุทรปราการ ซึ่งเป็นรถคันที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งเป็นชาย อายุประมาณ 30 ปี ถูกยิงเข้าที่ท้องและแขน ส่งโรงพยาบาล ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบปลอกกระสุนจำนวนหนึ่ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุ เป็นชาย อายุ 62 ปี หลังจากก่อเหตุได้ขับรถเก๋งหลบหนีไป
ภาพจากกล้องวงจรปิดของชาวบ้านที่อยู่ซอยศรีสัมพันธ์ 1 จะได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน ก่อนจะได้ยินเสียงผู้ก่อเหตุไล่กลุ่มคนที่หน้าตึก และมีเสียงปืนขึ้นมา 3 นัด แล้วกลุ่มคนที่โดนไล่จะรีบวิ่งมาที่ซอยศรีสัมพันธ์ 1 ก่อนที่จะมีคนพาคนเจ็บขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปโรงพยาบาล
จากการสอบถาม นาย เอ (นามสมมุติ) ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุฝั่งของผู้บาดเจ็บ พร้อมเพื่อนรวม 4 คน พากันมานั่งดื่มกินเสียงดังที่โต๊ะหินอ่อนหน้าห้องเช่า ก่อนจะมีปากเสียงกับชายสูงอายุที่เช่าห้องอยู่ตรงที่เกิดเหตุ กระทั่งชายสูงอายุเข้าไปเอาปืนออกมายิงใส่จำนวน 3 นัดทำให้คนเจ็บต้องวิ่งหนีตายไปขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดี
ด้าน นาย ธนดล ภูมิเมือง (เสื้อเหลือง) ซึ่งพักอาศัยไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ บอกว่า พอตนได้ยินเสียงปืนก็ออกมาดู พบว่าคนเจ็บวิ่งไปหาคนให้ช่วยแล้ว ส่วนกลุ่มผู้บาดเจ็บนั้นปกติแล้วจะพากันนั่งดื่มกินสุรากันเป็นประจำ อยู่แล้ว คาดว่าจะมีปากเสียงกันเรื่องวงสุราเสียงดัง หลังก่อเหตุชายสูงอายุผู้ก่อเหตุได้เก็บข้าวเก็บของในห้องพักก่อนจะขับรถเก๋งส่วนตัวหลบหนีไปอย่างใจเย็น
ขณะที่ นายวิชัย ศรีวิชา พลเมืองดีที่ช่วยพาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล บอกว่า พอได้ยินเสียงปืนไม่นานก็พบว่าผู้บาดเจ็บวิ่งไปหาตนเองบอกให้ช่วยพาไปส่งโรงพยาบาล ตอนนั้นคือตกใจจึงตัดสินใจพาซ้อนท้ายไปส่งโรงพยาบาล ไปโรงพยาบาลแรกที่เป็นเอกชนไม่รับแจ้งว่าต้องมีเงินสำรองเกือบแสน จนต้องพาซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปส่งโรงพยาบาล ส่วนบาดแผลที่เห็นนั้น พบว่าถูกยิงที่ท้องและแขน จนเสียเลือดมาก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนและฝ่ายสืบสวนจะเร่งสอบปากคำพยานหลักฐานและเร่งไล่ล่าตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: