X

หญิงวัย 50 ที่เป็นขับเก๋งไม่หลบรถกู้ชีพ เดินทางรับทราบข้อกล่าวหา ยอมรับผิด พร้อมขอโทษสังคม

หญิง วัย 50 ปี ที่เป็นคนขับรถยนต์เก๋ง ไม่หลบทางให้รถกู้ชีพ ขณะกำลังไปช่วยเหลือผู้ป่วย ได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ รับทราบข้อกล่าวหา พร้อมยอมรับผิด และขอโทษสังคมกับทีมกู้ชีพ

อ่านข่าว เจออีกแล้ว รถเก๋งขับไม่ยอมหลบรถกู้ชีพ แถมเบรกใส่

จากกรณี รถเก๋งขับไม่ยอมหลบรถกู้ชีพเทศบาลนครสมุทรปราการ แถมเบรกใส่ ในขณะที่รถกู้ชีพต้องรีบไปรับผู้ป่วยหมดสติ เจ้าหน้าที่ใช้ทั้งเสียง ทั้งไฟ แถมประกาศออกไมค์ และยังบีบแตร ก็ยังไม่หลบขับแบบสบายใจ จนรถกู้ชีพต้องเบี่ยงซ้ายหลบไปเอง บริเวณปากซอยพุฒสี (ปากซอย 7 แพรกษา) จนนำมาซึ่งความสูญเสีย เมื่อช่วงหัวค่ำ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2567

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่าย วันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้ทราบตัวผู้ครอบครองรถคันดังกล่าวแล้ว โดยเจ้าของรถเก๋งได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้วเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่าน หลังจากสอบปากคำเสร็จเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ได้นำตัวหญิงคนดังกล่าวไปเอารถที่ขับขี่เมื่อคืนที่บ้านพักในย่านคลองขุด พร้อมกล่าวขอโทษกับทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลนครสมุทรปราการ

โดยนางเอ (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี ผู้ขับขี่เก๋งคันดังกล่าวได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนขับรถกลับจากงานศพและกำลังจะขับกลับบ้าน พอถึงบริเวณดังกล่าวตนได้ยินเสียงสัญญาณของรถพยาบาลแต่คิดว่าเป็นเสียงที่อยู่อีกฝั่ง และพอทราบว่ารถฉุกเฉินอยู่ด้านหลัง ก็คิดว่าทำไมถึงไม่เบี่ยงซ้ายไป ตนจึงไม่ได้หลบ ตนอาจจะคิดน้อยไปหน่อย ตนไม่ได้มีเจตนาที่จะขับขวางเลย ตนก็อยากขอโทษกับสังคม ที่เราอาจจะทำให้ไปขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ ทำให้การล่าช้า จริง ๆ แล้วก็อาจจะช่วยชีวิตผู้ป่วยได้แม้เวลานิดเดียวที่ติดรถอยู่ ตนก็ต้องขอโทษสังคมด้วยจริงๆเป็นกฎจราจรปกติอยู่แล้ว อยากให้ทุกคนเคร่งครัด ถ้าได้ยินเสียงรถฉุกเฉินอยากให้มองซ้ายมองขวา ว่ามันใช่รถของตัวเองไหมที่เขาส่งสัญญาณแจ้งมา ก็อย่าคิดน้อยเหมือนตน ถ้าเจอแล้วเลนซ้ายหลบได้ก็หลบ เพื่อที่จะรถกู้ชีพจะได้วิ่งเลนขวา

ด้านนายนครินทร์  รัตนประภาสชลา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพของเทศบาลนครสมุทรปราการได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่าได้รับแจ้งจากศูนย์สั่งการ ว่ามีผู้ป่วยท้องเสีย ตนได้โทรหาคนไข้ญาติคนไข้ แจ้งว่าคนไข้หมดสติตนจึงรีบเดินทางไป พอถึงช่วงโค้งลงแก้วปราการ ได้มีรถเก๋งขวางอยู่ทางด้านขวา ทางด้านซ้ายตนไม่สามารถไปได้เพราะติดมอเตอร์ไซค์ ตนได้ทำการบีบแตรไล่ ตั้งแต่โค้งลงแก้วจนถึงปากซอยพุดสี แต่รถคันดังกล่าวไม่มีทีท่าว่าจะหลบ และมีการเหยียบเบรก รถ เก๋งขับแช่อยู่ประมาณ 1 นาที พอถึงปากซอย 7 ตนเห็นว่ามีทางที่จะหลบออกไปได้ จึงได้ขับออกไป ทางด้านซ้ายมันว่างแค่ช่วงระยะหนึ่ง ถ้าอย่างน้อยเขาเบี่ยงออกซ้ายไปเขายังชะลอตัวได้ ถ้าตนเบี่ยงซ้ายออกไปแล้วชะลอตัวรถหลังก็จะชน จากที่ตนมองเมื่อวานมันมืด ตนอาจจะมองไม่ชัดเจน ทางฝ่ายรถเก๋งไม่มีการลดกระจกลงมามีแต่ตนที่รถกระจกทั้งสองข้างเพื่อจะโบกขอทางตลอด ตนยังไม่แน่ใจว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเป็นคนขับกันแน่ วันนี้ที่เจอกันเขายังไม่ได้พูดคุยอะไรกับตน มีแต่ญาติมาบอกว่าเขายังขับรถไม่ค่อยแข็ง พอไปถึงบ้านคนไข้ก็ไม่หายใจแล้ว โดยปกติแล้วคนไข้ที่หมดสติหยุดหายใจต้องไม่เกิน 5 นาที แต่ครั้งนี้ไปถึงล่าช้า

ส่วนด้านข้อกฎหมายของกรณีการขับรถกีดขวางเส้นทางรถพยาบาลนั้นเข้าข่ายผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกมาตรา 76 ที่ระบุไว้ว่า “เมื่อเห็นรถฉุกเฉินในขณะปฏิบัติหน้าที่ ใช้ไฟสัญญาณแสงวับวาบหรือได้ยินเสียงสัญญาณไซเรน จะต้องให้รถฉุกเฉินผ่านไปก่อน หากฝ่าฝืนมีโทษเปรียบเทียบปรับไม่เกิน 500 บาท”

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน