สามพ่อลูกหวิดดับ หลังชาร์จโทรศัพท์ไว้ก่อนเกิดไฟลุกไหม้ปลั๊กไฟ ก่อนจะลามไปลุกไหม้ที่นอน แล้วลุกลามไหม้วอดยกชั้น โชคดีทั้งสามคนหนีออกมาทัน เหตุเกิด อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ภายในซอยด่านสำโรง 28 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ภายในซอยด่านสำโรง 28 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลตำบลด่านสำโรง และ เทศบาลใกล้เคียง รวม 5 คัน พร้อม เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ข่าวน่าสนใจ:
- ปล่อยแถวป้องกันปราบปรามอาชญากรรมฯ ช่วงวันคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ 2568
- เด็กไทยเจ๋ง! วิทยาลัยเทคนิคคูเมือง บุรีรัมย์ คว้าแชมป์หุ่นยนต์ยุวชนโลก คว้า 2 ทอง-โล่ชนะเลิศ
- สานฝันวันคริสต์มาสให้เด็กนักเรียนห่างไกลความเจริญ
- ขอนแก่นตรียมพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว “ประดับตกแต่งไฟสวนประตูเมืองขอนแก่น”ต้อนรับปีใหม่ 2568
ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะ อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ปลูกติดกันหลายคูหา โดยเจ้าหน้าที่ พบ เพลิงกำลังลุกไหม้ บริเวณชั้นที่ 2 ของอาคารพาณิชย์ 1305/7 หมู่ที่ 4 ตำบลสำโรงเหนือ อย่างรุนแรงและกำลังลุกลามขึ้นชั้นที่ 3 เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระดมกันฉีดน้ำสกัดเพลิง เพื่อไม่ให้ลุกลามไปคูหาใกล้เคียง โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาควบคุมเพลิงประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเพลิงได้ลุกไหม้ชั้น 2 เสียหายทั้งหมด และ ชั้นที่ 3 เสียหายบ้างส่วน โดยมีผู้สำลักควัน 2 ราย เป็น พ่อลูก ที่พักอาศัยอยู่ในอาคารดังกล่าว
จากการสอบถาม นายหนึ่ง ศรีสวัสดิ์ อายุ 40 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า ตนเองได้ยินเสียงฟู่ที่ปลั๊กไฟโทรศัพท์ ตนก็เลยสะดุ้งตื่น ตนเลยเอาผ้าห่มตีให้ไฟมันดับแล้วตนก็ดึงลูก 2 คน ออกมา แล้วไฟมันก็ลามไปไหม้บนที่นอนที่นอนเป็นยางพารานุ่มๆตอนนั้นตนชาร์จโทรศัพท์อยู่แล้วได้ยินเสียงฟู่ขึ้นมา ชาร์จโทรศัพท์ไว้ 2 เครื่อง ได้ยินเสียงฟู่ตรงปลั๊กไฟตรงโทรศัพท์ตนเอาผ้าห่มไปตีให้มันดับแต่มันไม่ดับไฟมันติดที่ผ้าห่มแล้วผ้าห่มก็อยู่บนที่นอนยางพาราแล้วทีนี้มันก็ลุกไหม้ควันเยอะเลยตนเข้าออก2 รอบ 3 รอบเพื่อเอาลูกและหมาออกมา
ส่วน ป้าแจ๋ม อายุ 68 ปี ทวดของเด็ก เล่าว่า บ้านนี้อยู่กัน 3 คนพ่อลูก ตอนแรกตนไม่ได้รู้ว่าไฟไหม้ ตนสะดุ้งตื่นเพราะลูกสาวไปข้างนอกนึกว่าลูกสาวมาเปิดประตู ตนเห็นคนเยอะแยะก็เลยออกมาดูก็เลยเดินไปถามคนข้างๆบ้านว่าทำไมคนเยอะแยะเขาทำอะไรกัน คนข้างบ้านเลยบอกว่าบ้านที่หลานตนอยู่นั่นแหละ ตนก็เลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่ว่าเด็กออกมาหรือยังเจ้าหน้าที่ตอบว่ามีเด็กหรอเจ้าหน้าที่อีกคนได้บอกว่าเด็กออกมาแล้วตนเลยรีบมาดูหลาน
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ ได้เชิญเจ้าของบ้านดังกล่าวไปให้ปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยจากการสอบถามเจ้าของบ้านเบื้องต้นให้การว่าน่าจะเกิดจากการชาร์จโทรศัพท์ โดยจะประสานทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเหตุที่แท้จริงต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: