สมุทรปราการ – ฝนตกหนักหลายชั่วโมงทำให้น้ำท่วมขังบนผิวถนนหลายเส้นทางในพื้นที่ของจังหวัด
เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 10 มกราคม 2561 ได้มีฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ติดต่อกันนานหลายชั่วโมงทำให้ปริมาณน้ำฝนที่กระหน่ำลงมาทำไห้มีปริมาณน้ำท่วมขังบนผิวการจราจรบนถนนหลายสายในจังหวัดสมุทรปราการ โดยเฉพาะถนนสุขุมวิท ตั้งแต่สามแยกหอนาฬิกา ไปถึงหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ถนนสุขุมวิทขาออกก่อนทางขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษกมุ่งหน้าบางนา ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงเกือบ 50 เซนติเมตร เป็นระยะทางยาวประมาณ 200 เมตร ใช้งานได้เพียงเลนขาวเลนเดียวทำให้การจราจรเป็นไปอย่างล่าช้า
นอกจากนี้บริเวณสามแยกปู่เจ้าสมิงพรายไปจนถึงสามแยกเทพารักษ์ ทั้งขาเข้าและขาออกมาปริมาณน้ำท่วมขังบนผิวการจราจรสูงถึง 40 เซนติเมตร เป็นระยะทางยาวกว่าครึ่งกิโลเมตร และอีกจุดหนึ่งบริเวณสถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง ไปถึงสามแยกซอยลาซาน มีปริมาณน้ำท่วมขังสูงกว่า 40 เซนติเมตร ทำให้การจราจรเป็นไปอย่างล่าช้าเนื่องจากรถเล็กวิ่งผ่านลำบาก มีรถจอดเครื่องยนต์ดับหลายคัน แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพยายามลุยน้ำเข้าอำนวยการจราจรก็ตาม
ข่าวน่าสนใจ:
- ลำปางระทึกไฟไหม้ รถบรรทุก 6 ล้อขนส่งพัสดุวอด คนขับหนีตายออกจากรถได้ทัน
- สาวพลัดตกชั้น 3 อาคารพาณิชย์กลางพัทยา คาดเสพยาจนหลอน เจ็บหนัก
- พาณิชย์ จ.สมุทรปราการ จัดงาน 'ปากน้ำโกอินเตอร์'ให้ชาว จ.ระยอง ชิมช้อปอย่างจุใจ
- พ่อค้ายาเกมส์ ซุกยาบ้าในกล่องนมมิดชิด รอส่งพ่อค้ารายย่อย ไม่รู้ตร.ซุ่มกวาดล้าง ถูกรวบพร้อมของกลาง 70 เม็ด
ขณะเดียวกันทางด้านถนนศรีนครินทร์ มีปริมาณน้ำท่วมขังหลายจุดบนถนนสายดังกล่าว โดยเฉพาะช่วงทางโค้งโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ ซึ่งพื้นที่ตำมีปริมาณน้ำท่วมเกือบตลอดเส้นทาง ร่วมไปถึงบริเวณสี่แยกศรีเทพา มุ่งหน้าบางนา และเส้นทางเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเทพารักษ์ มุ่งหน้าสำโรงเหนือ มีปริมาณน้ำท่วมขังสูงกว่า 40 เซนติเมตร ทำให้การจราจรเป็นไปอย่างล่าช้า บางครั้งเคลื่อนตัวไม่ได้นานกว่า 1 ชั่วโมง
นอกจากนี้ยังเกี่ยวโยงกับพื้นที่กรุงเทพมหานครซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกันการจราจรไม่สามารถเคลื่อนตัวไปได้จึงทำให้ท้ายแถวในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ไม่สามารถเคลื่อนตัวได้เช่นกัน ทั้งบนทางด่วนกาญจนาจากพระราม 2 มุ่งหน้าบางแก้วรถไม่สามารถเคลื่อนตัวได้ ส่งผลกระทบทำให้จราจรติดขัดสะสมเป็นอย่างมาก โดยที่ทางตำรวจจราจรกว่า 20 นายออกมาโปกรถและช่วยประชาชนที่รถเสียระหว่างทาง เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนและระบายรถที่ติดสะสมในพื้นที่ ที่ติดสะสมยาวหลายกิโลเมตร พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ทางสื่อต่างๆ เพื่อให้ประชาชนหลีกเลียงเส้นทางทั้ง 3 เส้นทาง ขณะที่เทศบาลตำบลด่านสำโรง และ เทศบาลสำโรงเหนือ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ได้เร่งใช้เคลื่อนสูบระบายน้ำดังกล่าวลงสู่เจ้าพระยา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: