พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เป็นประธาน เปิดปฏิบัติการ “ปูพรมเมืองปราการ ปราบปรามแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย” โดยระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วน ประกอบด้วย ฝ่ายปกครอง / กอ.รมน. / ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) / ตำรวจสันติบาล / แรงงานจังหวัด / และอาสาสมัครต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 500 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นที่พักอาศัย หอพัก สถานที่สาธารณะ และ จุดรวมตัวของแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย โดยเน้นแรงงานต่างด้าวที่มีพฤติการณ์จับกลุ่มรวมตัวเป็นกลุ่มแก๊ง
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 6 ธันวาคม 2567 ที่ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้เดินทางมาเป็นประธาน ปล่อยแถว เปิดปฏิบัติการ “ปูพรมเมืองปราการ ปราบปรามแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย” โดยระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วน ประกอบด้วย ฝ่ายปกครอง / กอ.รมน. / ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) / ตำรวจสันติบาล / แรงงานจังหวัด / และอาสาสมัครต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 500 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นที่พักอาศัย หอพัก สถานที่สาธารณะ และ จุดรวมตัวของแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย โดยเน้นแรงงานต่างด้าวที่มีพฤติการณ์จับกลุ่มรวมตัวเป็นกลุ่มแก๊ง หากพบกระทำความผิด หรือ ตระเตรียมที่จะกระทำความผิด จะทำการจับกุมดำเนินคดีในทุกข้อกล่าวหาอย่างเคร่งครัด แล้วขยายผลตรวจสอบบุคคลในกลุ่มแก๊งทุกคน โดยปฏิบัติการครั้งนี้ ยึดหลัก “ปฏิบัติอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม คำนึงถึงสิทธิเสรีภาพตามกฎหมาย และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ” และจะไม่กระทบต่อแรงงานต่างด้าวที่เข้าเมืองและประกอบอาชีพอย่างถูกกฎหมายแต่อย่างใด
สืบเนื่องมาจาก ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์ว่า มีบุคคลต่างด้าวมีพฤติการณ์รวมตัวกันเป็นกลุ่มแก๊งอันธพาล ไม่เคารพกฎหมาย ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการนั้น ขอเรียนว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการกวดขัน ตรวจสอบ อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด มีผลการปฏิบัติวันที่ 1-5 ธันวาคม 2567 จับกุมและทำประวัติบุคคลต่างด้าวทั้งสิ้น จำนวน 1,163 ราย
โดยมีผลการปฏิบัติสำคัญคือ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 20.00 น. จากการดำเนินการของ สภ.สำโรงเหนือ ได้ตรวจสอบพบกลุ่มบุคคลต่างด้าว จำนวน 4 ราย ที่บริเวณซอยสองพี่น้อง หน้าหอพักอยู่สบายแมนชัน ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ตรวจสอบไม่มีเอกสารประจำตัวจึงได้ทำการจับกุมตัวข้อหาทั้ง 4 คน ข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” และจากการสืบสวนขยายผลพบว่าผู้ต้องหาดังกล่าวจำนวน 2 คนเป็นสมาชิกของกลุ่มแก๊ง 301 คือ นาย เมือง ออ อายุ 20 ปี และ นายไอ ลู อายุ 38 ปี สัญชาติเมียนมา โดยในโทรศัพท์มือถือของ นาย เมือง ออ มีภาพของตนเองในคลิป ติ๊กต็อก ขณะถ่ายภาพร่วมกับสมาชิกในแก๊ง 301 สอบถามรวมกลุ่มเนื่องจากมีการทะเลาะวิวาทกันเองระหว่างคนสัญชาติพม่า ไม่มีเจตนาก่อเหตุร้าย ขณะนี้ออกจากกลุ่มแล้ว และต้องการกลับประเทศตนเอง
นอกจากนี้ ได้เชิญบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรโดยถูกกฎหมาย จำนวน 200 คน มาทำประวัติและถ่ายภาพ เพื่อจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวและลดความเสี่ยงต่อการก่อเหตุร้ายหรือสร้างความไม่มั่นใจต่อความปลอดภัยของประชาชน
ตำรวจภูธรภาค 1 ขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่าน หากพบเบาะแสอาชญากรรม โปรดแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางโทรศัพท์หมายเลข 191 หรือสายด่วน 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล่าวว่า เรื่องพวกนี้มีเหตุมาก่อน อย่างที่เห็นตามข่าวในพื้นที่หลายจังหวัด มีการรวมตัวเป็นกลุ่มแก๊งแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 1 ในจังหวัดที่มีชุมชนหนาแน่นเยอะๆ มีแรงงานต่างด้าวเยอะๆ เช่น ในจังหวัดสมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยาเป็นต้น ตรงนี้เป็นนโยบายของรัฐบาลที่สั่งการต่อเนื่อง มาถึงท่าน ผบตร. และท่านได้พูดสั่งการชัดเจนในวันที่มอบนโยบาย ให้ตำรวจทุกพื้นที่ไปเอกซเรย์พื้นที่ของตัวเอง ว่ามีแรงงานต่างด้าวที่ทำผิดกฎหมายอยู่มากน้อยแค่ไหน แต่เท่าที่เห็นตามสื่อที่ออกไป จะมีแรงงานต่างด้าวชุมนุมรวมตัวตามห้างสรรพสินค้า เดินกร่างในพื้นที่ ถือมีดถืออาวุธ วิ่งไล่ตีกัน เป็นสิ่งที่ให้เกิดในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค1 ไม่ได้ ตนเห็นว่าทาง ผู้บังคับการ จังหวัดสมุทรปราการ มีความเข้มแข็งในเรื่องนี้ เลยถือเปิดปฏิบัติการ ที่จังหวัดนี้เป็นจังหวัดแรกก่อน ผลการปฏิบัติงาน แต่ละพื้นที่ของ สภ. ในจังหวัดสมุทรปราการ ได้ไปสำรวจเอ็กซเรย์ ทางแรงงานต่างด้าวๆ ตนถือโอกาสประชาสัมพันธ์ไปด้วย เพราะคิดว่าเรื่องนี้สามารถพูดคุยกันได้ก่อนในเบื้องต้น ว่าเจ้าหน้าที่ต้องการอะไร สิ่งไหนทำได้ สิ่งไหนทำไม่ได้ เมื่อได้มีการพูดคุยกันแล้ว แต่ยังปฏิบัติอยู่ก็จะใช้มาตรการเด็ดขาด แต่บางส่วนที่ ทำผิดกฎหมายชัดเจนได้มีการจับกุมดำเนินคดีเรียบร้อยแล้วหลายราย เท่าที่ทราบได้มีการจับกุม คนในแก๊ง 301 มาแล้วสองราย และได้ดำเนินคดีส่งฟ้องศาลเรียบร้อยแล้ว และพยายามขยายผลไปหาคนอื่นๆด้วย ตนคิดว่าสิ่งที่จะปรากฏในภาพข่าววันนี้ สื่อสะท้อนไปยังแรงงานต่างด้าว ทั้งในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ และรวมไปถึงจังหวัดอื่นๆ ว่าสามารถจัดการเรื่องนี้ให้สำเร็จตาม นโยบายของรัฐบาล ได้มีการวางแผน แต่อยากจะนำเสนอให้เห็น ว่าเอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ แถวตลาดไทก็มีปัญหาเรื่องนี้เยอะ อยากฝากไปถึงพี่น้องคนไทย ที่ใช้แรงงานต่างด้าว มาช่วยทำงาน อยากให้สำรวจว่าแรงงานต่างด้าวเข้ามาอย่างถูกกฎหมายหรือไม่ ถ้าเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย ให้ดูว่าการขออนุญาตให้อยู่ในกรอบของวันและเวลา ตามที่กฎหมายกำหนด ถ้าไม่อยู่ให้ไปขยายเวลา ให้ถูกต้องตามกฎหมาย หรือบางคนอาจจะมาผิดกฏหมาย เช่น นายจ้างที่ไม่ตรงกับการขออนุญาต สามารถไปแก้ไขทางเอกสาร หรือไปลงทะเบียนใหม่ได้ แต่สิ่งที่นอกเหนือจากนั้น ลูกน้องแรงงานในปกครอง ที่มีพฤติกรรมล่อแหลม มีแนวโน้มที่จะก่อเหตุรุนแรงขึ้นได้ง่าย สามารถมาแจ้งได้ที่สถานีตำรวจ หรือตำรวจสายตรวจที่ผ่านไปผ่านมา ให้ช่วยไปตรวจสอบเพิ่มเติม จะได้ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องบานปลายในอนาคต
