หนุ่มใหญ่ขี่รถมอไซค์ตีคู่มากับอีกคัน ก่อนเสียหลักแหกโค้งชนฟุตบาทไถลไปชนรถขยะดับคาที่ เหตุเกิดภายในซอยขจรวิทย์ ช่วงทางโค้งก่อนถึงบ้านเอื้ออาทร ด้านภรรยาเผย สามีเคยพูดเป็นลางกับลูกว่า “ถ้าพ่อไม่อยู่ให้ดูแลแม่ด้วย เพราะพ่อเหนื่อยแล้ว”
หนุ่ม วัย 47 ปี ขี่รถจักรยานยนต์คู่มากับรถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่ง ก่อนเสียหลักแหกโค้งชนฟุตบาทไถลไปชนรถขยะดับคาที่ หลังเกิดเหตุไม่ได้ครอบครัวของผู้ตายได้เดินทางมาที่เกิดเห็นร่างถึงกับร้องไห้เข้ากอดกันด้วยความเสียใจ ด้านภรรยาของผู้ตาย เผย สามีเคยพูดเป็นลางเมื่ออาทิตย์ก่อน กับลูกว่าถ้าพ่อไม่อยู่ให้ดูแลแม่ด้วย เพราะพ่อเหนื่อยแล้ว
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 7 ธันวาคม 2567 พ.ต.ต.รัฏฐพงศ์ ศรีนอก สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนรถขยะ มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดภายในซอยขจรวิทย์ ช่วงทางโค้งก่อนถึงบ้านเอื้ออาทร ตำบลแพรกษา อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุ บริเวณดังกล่าวเป็นช่วงทางโค้งยาว และเป็นถนนเลนสวนกันฝั่งละ 1 ช่องทาง ที่ฝั่งขามุ่งหน้าถนนเทพารักษ์ พบรถขยะของเทศบางแห่งหนึ่ง ยี่ห้อ โฟตอน สีขาว ทะเบียน 69-0778 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่สภาพด้านหน้าที่ป้ายทะเบียนรถบุบ ไฟตัดหมอกและกันชนหน้าฝั่งซ้ายแตก ที่ด้านหน้ารถขยะ พบ ร่าง นายชัยวิชิต จันทร์เนียม อายุ 47 ปี นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่บนถนน มีบาดแผลฉกรรจ์ที่บริเวณศีรษะ และใบหน้า ข้างกันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีแดง ทะเบียน 7 ขข 2924 กรุงเทพมหานคร ล้มอยู่ สภาพมีรอยถลอกรอบคัน เบาะนั่งขาด แฮนด์รถงอเข้าหาเบาทั้งสองข้าง ห่างออกไปไม่ไกล พบที่ขอบฟุตบาทมีรอยครูดเป็นทางยาว ส่วนโชเฟอร์รถขยะยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ
หลังเกิดเหตุได้ไม่นานญาติของผู้เสียชีวิตได้โทรเข้ามาที่โทรศัพท์ของผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่มูลนิธิจึงทำการรับสายและแจ้งเหตุการณ์ที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นไม่นานครอบครัวของผู้เสียชีวิตก็เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ทางครอบครัวได้เห็นร่างของผู้เสียชีวิตถึงกับร้องไห้หันเข้ากอดกันด้วยความเสียใจ ภรรยาได้นั่งแล้วเอามือลูบไปที่ร่างของผู้เสียชีวิต ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิกำลังทำการเก็บร่างผู้เสียชีวิต ลูกชายก้มลงไปจับมือของผู้เสียชีวิตและร้องไห้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิจะนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นรถนำส่งชันสูตร
จากการสอบถาม นายปภัทธ์ธนคุณ คุ้มโนนจาน อายุ 61 ปี โชเฟอร์รถขยะ เล่าว่า เหมือนรถของผู้ตายแข่งกันมาพอหลุดโค้งก็มาชนกับฟุตบาทแล้วรถก็กระเด็นมาชนรถของตน พวกตนกำลังจะไปเก็บขยะ เพิ่งออกจากแท่นชาร์จกำลังจะไปบางแก้ว พวกตนแจ้งผู้จัดการแล้วว่าเกิดอุบัติเหตุ
ส่วน คุณฝน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนขี่รถมอไซค์นำมาก่อนจะได้ยินเสียง พอได้ยินเสียงตนก็เลยวกรถกลับมา พอเห็นมีคนได้รับบาดเจ็บตนจึงรีบโทรแจ้ง 1669 ตอนนั้นตนเห็นเขาตัวกระตุกนิดนึงแล้วเขาก็นิ่งไป เขาไม่ได้มีสติแล้วเขาแค่ตัวกระตุก ผู้เสียชีวิตขับรถมอเตอร์ไซค์ PCX สีแดง ส่วนรถที่ชนไม่ได้ขับตามเขามา รถของผู้ตายเหมือนหลุดโค้งไปหารถขยะเอง
นายมนตรี ชูเชิด ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า รถของผู้ตายขับแข่งกันมา 2 คันพอรถของผู้ตายหลุดโค้ง อีกคันก็ขับไปเลย ตรงนี้เป็นทางโค้งโค้งตรงนี้อุบัติเหตุเกิดบ่อย พวกเขาเหมือนแข่งกันมาตั้งแต่ปากซอยพอเกิดอุบัติเหตุรถอีกคันหนึ่งก็ขับไปเลยไม่ย้อนกลับมา
ด้าน คุณยุ้ย อายุ 45 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต กล่าวทั้งน้ำตาว่า สามีกับตนทำงานอยู่ที่เดียวกัน ส่วนวันนี้สามีตนออกมาทำโอ เขาเลิกโอประมาณ 20.30 น ตนติดต่อกับสามีครั้งสุดท้ายประมาณช่วง 2 ทุ่มครึ่งเขาก็ไม่ตอบตนแล้ว ปกติตนกลัวว่าเขาจะขับรถเร็วเพราะว่าเวลาไปกับตนเขาไม่เคยขับรถเร็ว เพราะตนเป็นคนกลัวรถมาก ปกติสามีของตนไม่ใช่คนขับรถเร็ว เรื่องรถเขาจะระวังมาก เขาไม่เคยขับรถแล้วมีอุบัติเหตุเลย / แต่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วสามีของตนได้คุยกับลูกว่าถ้าพ่อไม่อยู่ให้ดูแลแม่ด้วย / เพราะพ่อเหนื่อยแล้ว อยู่ๆ เขาก็พูดขึ้นมาเอง เขาไม่เคยพูดแบบนี้มาก่อน
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะเชิญตัวโชเฟอร์รถขยะไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก พร้อมจะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ และ บริเวณใกล้เคียง เพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ ส่วนร่างผู้เสียชีวิตมอบให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ สมุทรปราการ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
