จากกรณีร้านคาราโอเกะค้ากาม ล่าสุดผู้การสั่งเด้ง 5 เสือโรงพักบางเสาธงเข้ากรุ อย่างน้อย 30 วัน โดยขาดจากตำแหน่งเดิม เพื่อให้การปฏิบัติราชการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยพร้อมตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงฐานปล่อยปละละเลย และผู้ว่าปากน้ำสั่งปิดร้านเป็นเวลา 5 ปี
ความคืบหน้ากรณีเมื่อกลางดึกคืนวานนี้เจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการพิเศษกรมการปกครองบุกจับแหล่งค้ามนุษย์ในร้านคาราโอเกะเจ้ริน ตั้งอยู่หลังตลาดสดหมู่บ้านการเคหะเมืองใหม่บางพลี ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ และสามารถช่วยเหยื่อค้ามนุษย์ได้ทั้งหมด 3 ราย ซึ่งมีเยาวชนอายุต่ำสุดแค่ 16 ปี และยังช่วยเหลือพนักงานหญิงที่มีอายุเกิน 18 ปี ได้อีก 6 รายรวมทั้งหมด 9 ราย พร้อมจับกุมสองผัวเมียเจ้าของร้านคาราโอเกะดังกล่าวดำเนินคดี
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ที่ 28 ธันวาคม 2561 เวลา 16.30 น.พล.ต.ต. ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ว่าในเรื่องดังกล่าวขณะได้ออกคำสั่งเด้ง 5 เสือ โรงพัก สภ.บางเสาธง ประกอบด้วย พ.ต.อ. สุเนตร หอกลาง ผกก.สภ.บางเสาธง พ.ต.ท. ภาสกร มังกรแก้ว รองผู้กำกับป้องกันและปราบปราม พ.ต.ท. พงษ์ธรรศ เจริญปรีชญาพงษ์ รองผู้กำกับสื่อสวน พ.ต.ท. ศุภฤกษ์ จงรักษ์ สารวัตรสืบสวน และ พ.ต.ต. วีระชนษ์ วงษ์นคร สวป. ให้มาช่วยราชการที่ศูนย์อำนวยการส่วนหน้าตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อย่างน้อย 30 วัน โดยขาดจากตำแหน่งเดิม เพื่อให้การปฏิบัติราชการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยพร้อมตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงฐานปล่อยปละละเลย
พล.ต.ต. ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรสมุทรปราการ กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่กรมการปกครองเข้ามาจับกุมขบวนการค้ามนุษย์ในพื้นที่ สภ.บางเสาธง ภาพหลังจากเข้าจับกุมพบว่ามีการกล่าวหาเรื่องการจ่ายส่วยใต้ดินให้กับบุคคลคนหนึ่งที่อ้างว่าเก็บให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ อีกทั้งจากการตรวจสอบเบื้องต้นทางด้านเหยื่อยอมรับว่าทำงานที่ร้านนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 เดือน จึงต้องมีคำสั่งดังกล่าวออกมาเพื่อตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่าผลการสอบสวนออกมาพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปมีส่วนได้เสียตามที่มีการกล่าวอ้างจริงตนเองยืนยันจะเอาผิดทั้งวินัยและอาญา โดยไม่มีข้อยกเว้น
ขณะเดียวกัน นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้ออกหนังสือคำสั่งปิดร้านคาราโอเกะดังกล่าวเป็นเวลา 5 ปี ตามคำสั่ง คสช. พร้อมแจ้ง 11 ข้อหา ต่อ นางสาว จรินยา ภู่เสือ อายุ 42 ปี และนาย มงคลชัย ธรรัตนกุล อายุ 45 ปี สองผัวเมียเจ้าของร้าน ประกอบไปด้วย 1. ร่วมกันแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็กๆ(บุคคลที่อายุเกิน15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี โดยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี การแสวงหาประโยชน์ทางเพศรูปแบบอื่น การบังคับใช้แรงงานหรือบริการอันเป็นการขูดรีตบุคคล ไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ด้วยวิธีฉ้อฉล หลอกลวง หรือใช้อำนาทโดยมิชอบซึ่งเป็นการกระทำความผิดค้ามนุษย์ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 ถึง 15 ปี ปรับตั้งแต่ 6 แสนถึง 1.5 ล้านบาท 2. ร่วมกันเป็นธุระจัดหาหรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี ถึงแม้ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม มีโทษจำคุก 1ถึง10 ปี และปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาทถึง 2 แสนบาท 3. ร่วมกันเป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี มีโทษจำคุก 5 ถึง 15 ปี ปรับ 1 แสน ถึง 3 แสนบาท 4. ร่วมกันเป็นผู้ดูแลหรือจัดการ การค้าประเวณีหรือสถานการค้าประเวณี หรือเป็นผู้ควบคุมผู้กระทำการค้าประเวณีในสถานการค้าประเวณี อันเป็นสถานการค้าประเวณีที่มีบุคคล มีโทษจำคุก 3ถึง15 ปี ปรับตั้งแต่ 6 หมื่นถึง 3 แสนบาท และข้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้องรวมทั้งหมด 11 ข้อหา โดยคำสั่งดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2561 เป็นต้นไป ส่วนทางด้านเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ทั้งหมดขณะนี้อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ พม.และทีมสหวิชาชีพเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจและเตรียมเข้าร่วมสอบปากคำ
