คืบหน้ากรณี ถังบรรจุก๊าซรถแท็กซี่ระเบิด ภายในปั้มก๊าส ริมถนนวัดศรีวารีน้อย ผบช.ภ.1 สั่งหยุดกิจการล้อมรั้วรอผลการตรวจสอบ
เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ที่ 15 มกราคม 2561 ความคืบหน้าเหตุถังก๊าซ NGV ในรถแท็กซี่ระเบิดคาปั้มขณะกำลังเติมก๊าซอยู่ภายในปั้มก๊าซ NGV ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยวัดศรีวารีน้อย ต.บางโฉลง อ.บางพลี สมุทรปราการ ล่าสุดทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้สั่งปิดปั้มก๊าซชั่วคราว เพื่อ รอการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากที่เมื่อวานหลังเกิดเหตุได้มีวิศวกรของ ปตท. และผู้ชำนาญการของกรมธุรกิจพลังงาน ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณตู้จ่ายก๊าซ และถังบรรจุก๊าซ NGV ที่เกิดระเบิดแล้วยังไม่พบสิ่งผิดปกติ และได้มีการเก็บชิ้นส่วนของถุงบรรจุก๊าซที่เกิดระเบิดไปทำการตรวจสอบเนื้อเหล็กของถังบรรจุก๊าซ ที่ระเบิด แต่ที่ตรวจสอบเบื้องตัวพบว่าถังบรรจุก๊าซใบดังกล่าวยังไม่หมดอายุการใช้งาน และมี มอก. รับลองมาตรฐานถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ทราบว่าปลอดภัยแล้วและแพทย์ได้อนุญาตให้ 2 พนักงานปั้มก๊าซกลับไปพักฟื้นที่บ้าน ส่วนชายผู้ขับขี่ที่บาดเจ็บขณะนี้ได้ย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลจังหวัดสมุทรปราการ และเจ้าที่ตำรวจเตรียมเรียกตัวผู้บาดเจ็บทั้งหมดมาสอบปากคำ ส่วนด้านพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนได้เชิญตัวมาสอบปากคำตั่งแต่เมื่อคืนแล้วหลังเกิดเหตุ และจากการตรวจสอบเอกสารการตรวจระบบความปลอดภัยของสถนนี้จำหน่ายก๊าซดังกล่าวพบว่ามีการตรวจสอบระบบความปลอดภัยทุก ๆ 6 เดือน ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งขณะนี้คงต้องรอผลการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาเสียก่อน ถึงจะสามารถสรุปได้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ซึ่งขณะนี้ที่ปั้มก๊าซดังกล่าวได้มีการล้อมรั้วสังกะสีปิดด้านหน้าทางเข้าออกปั้มหมดแล้ว
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และเจ้าหน้าที่จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้เข้าตรวจสอบภายในปั้มก๊าซ NGV ที่เกิดระเบิด โดย ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้ารวมตรวจสอบหรือบันทึกภาพทำข่าวแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.ท.ประมวล ทองภู รองผู้กำกับสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุเมื่อวานนี้ เราได้รวบรวมพยานหลักฐานโดยร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ตรวจสถานที่เกิดเหตุ และมีการสอบสวนพยานไว้หลายปากแล้วรวมทั้งสอบสวนผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับถังบรรจุก๊าซตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน และขณะนี้ได้มีการนำเลขทะเบียนคันที่เกิดเหตุไปตรวจสอบที่กรมการขนส่งแล้ว ซึ่งผลการตรวจสอบป้ายทะเบียนของแท็กซี่คันดังกล่าวพบว่าหมดอายุการใช้งานลงแล้ว แต่ยังมีการนำมาวิ่งใช้งานอีก และขณะเกิดเหตุอยู่ระหว่างการเติมก๊าซ ซึ่งพนักงานคนดังกล่าวก็ได้รับบาดเจ็บด้วย ซึ่งขณะนี้มีการเรียกพยานที่อยู่ใกล้เหตุการณ์มาสอบปากคำแล้วจำนวน 5 ปาก ซึ่งทุกคนให้การสอดคล้องกันทั้งหมด ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดระเบิดขึ้นคงต้องรอตรวจพิสูจน์จากผู้ชำนาญการ ส่วนระยะเลาในการตรวจสอบนั้นจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่เราส่งไปตรวจพิสูจน์ ซึ่งขณะนี้มีการนำชิ้นส่วนของถังบรรจุก๊าซไปตรวจคุณภาพของถังบรรจุก๊าซใบดังกล่าวว่าเกิดจากอะไร
