X

บิ๊กโจ๊ก แถลงผลการบุกทลายแก๊งโรแมนซ์สแกม ชาวไนจีเรีย หลังหนีไปตั้งฐานในกรุงกัวลาลัมเปอร์

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. แถลงผลการบุกทลายแก๊งโรแมนซ์สแกม ชาวไนจีเรีย หลังหนีไปตั้งฐานในกรุงกัวลาลัมเปอร์ พร้อมทั้งแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาชาวอินเดียใช้หนังสือเดินทางปลอมหนีคดีเข้ามากบกานในประเทศไทย

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 24 มกราคม 2562 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ  พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม.รองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ศปอส.ตร.) นายกิตติพงศ์  กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผบช.ทท. พร้อมเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมหลอกลวงคนไทยผ่านสื่อออนไลน์ แก๊งโรแมนซ์สแกม ชาวไนจีเรีย และชาวไทย ที่ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบต่าง ๆ ได้ผู้ต้องหาเป็นชาวไทย 4 คน ชาวไนจีเรีย 10 คน  โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ในสำนักงานแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่กลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

โดยพฤติกรรมของผู้ต้องหาแก๊งนี้ จะใช้วิธีการสร้างตัวตนปลอมขึ้นมาในเฟสบุ๊ค และหลอกเหยื่อซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไทย ให้หลงรักและโอนเงินให้ หรือมาการสุ่มโทรเข้ามาหาเหยื่อที่หามาตามเฟส โดยหลอกว่าจะมีเงินสดหรือทรัพย์สินของมีค่าถูกส่งเข้ามาในประเทศไทย แต่ติดตรงที่ว่าตนเองไม่สามารถไปรับสินค่าหรือรับโอนทรัพย์สินเหล่านั้นได้เพราะต้องใช้เงินไทยไปจ่ายค่าภาษีนำเข้าเป็นหลักหมื่นหรือหลักแสน หลังเหยื่อหลงเชื่อก็จะให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ต้องหาชาวไทย และนัดหมายเจอกันเพื่อรับสินค้าที่สนามบินต่าง ๆ โดยเฉพาะที่สนามบินสุวรรณภูมิ  แต่เมื่อเหยื่อมาถึงกลับไม่พบคนที่นัดหมายไว้และติดต่อกลับก็ไม่ได้ โดยเหยื่อรายล่าสุดถูกหลอกให้โอนเงินไปให้แก๊งคนร้ายเหล่านี้กว่า 29 ล้านบาท

ส่วนอีกคดีหนึ่งเป็นการแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาชาวอินเดียใช้หนังสือเดินทางปลอมหนีคดีเข้ามากบกานในประเทศไทย ชื่อนายสุขชียน ซิงห์  อายุ 29 ปี  สัญชาติอินเดีย ผู้ต้องหาที่หลบหนีการประกันตัวในคดีฆาตกรรม ในประเทศอินเดีย และใช้หนังสือเดินทางปลอมที่ระบุชื่อเป็นนายเลิฟ   มันนี่ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย เดินทางมาจากกรุงเดลี ประเทศอินเดีย เข้ามาในประเทศไทย  แต่ทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของสนามบินสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ พบความผิดปกติของหนังสือเดินทางเล่มดังกล่าว จึงได้ทำการตรวจสอบโดยละเอียดและพบว่าเป็นหนังสือเดินทางปลอม จึงได้ควบคุมตัวนายสุขเชียน ซิงห์ มาทำการสอบสวน โดยให้การรับสารภาพว่า ได้ว่าจ้างให้เพื่อนที่ชื่อ จาทินดาร์ ซิงห์ เป็นผู้จัดหาหนังสือเดินทางเล่มดังกล่าวให้ เสียค่าใช้จ่ายไปประมาณ 800,000 รูปี หรือประมาณ 4 แสนบาทไทย และจากการตรวจสอบประวัติของนายสุขเชียน ซิงห์ พบว่าเป็นผู้ต้องหาหลบหนีประกันในคดีฆาตกรรม ในประเทศอินเดีย เพื่อเข้ามากบดานในประเทศไทย

เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายสุขเชียน ซิงห์ ว่าปลอมและใช้หรือมีไว้ใช้หนังสือเดินทางปลอม ในการเดินทางระหว่างประเทศ ก่อนควบคุมตังส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมประสานสถานทูตอินเดีย ประจำประเทศไทย มาตรวจสอบและอายัดตัวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศอินเดีย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน