X

แถลงรวบสองผู้ต้องหาชาวอิหร่านใช้หนังสือเดินทางปลอมเข้ามาในประเทศไทย

พล.ต.ท.สุรเชรษฐ์  หักพาล ผบช.สตม. นายกิตติพงศ์  กิตติขจร รอง ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  ร่วมกันแถลงข่าวรวบสองผู้ต้องหาชาวอิหร่านใช้หนังสือเดินทางปลอมเข้ามาในประเทศไทย เพื่อไปต่อประเทศที่สาม

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 9 กุมภาพัน 2562 ที่ศูนย์  ศปก.บก.ตม.2  ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ พล.ต.ท.สุรเชรษฐ์  หักพาล ผบช.สตม. นายกิตติพงศ์  กิตติขจร รอง ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผบช.ทท. พล.ต.ต.อิทธิพล  อิทธิสวรรณชัย รอง ผบช.สตม. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมสองนักท่องเที่ยวชาวอิหร่าน ประกอบด้วย MR.MOAZZEZ HOUMAM  อายุ 42 ปี ที่ใช้หนังสือเดินทางประเทศบัลแกเรียปลอม เลขที่ 84132238 ระบุ ชื่อ MR.ILIEV  DENIS  ALBERTOV  และ MRS.ESMAEILI  HOLASOU อายุ 36 ปี ที่ใช้หนังสือเดินทางปลอม เลขที่  84132238 ระบุชื่อMRS.DANAILOYA PETYA PETKOVA โดยผู้ต้องหาทั้งสองอ้างว่าจะเดินทางไปประเทศที่สาม และจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ที่บริเวณช่องตรวจลงตราตรวจคนเข้าเมืองขาเข้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ ก่อนคุมตัวมาทำการสอบสวน

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 กุมภาพัน 2562 เวลาประมาณ 11.00 น.ในขณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนตรวจคนเข้าเมือง และฝ่ายลงตรา กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ภายในอาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้พบสองนักท่องเที่ยวชายหญิงต้องสงสัยคล้ายชายชาวอาหรับใช้หนังสือเดินทางปลอมเข้ามาเพื่อใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านไปประเทศที่สาม กำลังนำหนังสือเดินทางเช้าช่องลงตราตรวจคนเข้าเมืองภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงได้แยกตัวมาทำการตรวจสอบ พบว่าหนังสือเดินทางที่ผู้ต้องหาทั้งสองถือมานั้นเป็นหนังสือเดินทางปลอม จึงได้คุมตัวมาสอบสวน  โดยผู้ต้องหาทั้งสองได้อ้างว่าเดินทางเข้ามาในประเทศไทยด้วยสายการบินการ์ต้า เที่ยวบินที่ QR 826  เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อเวลา 03.30 น.และหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ผู้โดยสารขาออก จนกระทั่งถึงเวลา 11.00 น.ของวันเดียวกัน จึงได้ออกมาแสดงตัวเพื่อขอรับลงตรา VISA ON ARRIVAL ด้วยท่าทางที่มีพิรุธ เนื่องจากเที่ยวบินดังกล่าวมาถึงนานและและไม่สามารถแสดงบัตรที่นั่งได้ ก่อนเจ้าหน้าที่จะขอตรวจหนังสือเดินทางบัลแกเรีย มาตรวจสอบที่ศูนย์ตรวจสอบหนังสือเดินทางจนพบว่าหนังสือเดินทางทั้งสองฉบับเป็นหนังสือเดินทางปลอมและแอบอ้างแสดงตัวเป็นผู้อื่น  และจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองได้ให้การรับสารภาพว่า ตนทั้งสองมีสัญชาติอิหร่านและได้อ้างว่าได้เสียค่าใช่จ่ายในการหาหนังสือเดินทางปลอมไปเล่มละประมาณ 20,000 เหรียญสหรัฐอเมริกาหรือประมาณ 600,000 บาท ต่อคน ใช้เดินทางผ่านประเทศไทยเพื่อไปประเทศที่สาม

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ปลอมหรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งหนังสือเดินทางปลอม (หนังสือเดินทางบัลลังแกเรียปลอม ) ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน