ด่านตรวจคนหางานสุวรรณภูมิ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการศูนย์ประสานการปราบปรามผู้เป็นภัยต่อคนหางาน ร่วมกันสกัดแรงงานไทยกว่า 30 คน ที่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวจะไปทำงานที่เกาหลี
เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 22 มกราคม 2561 นายอรุณ ชัยญาณ หน.ด่านตรวจคนหางานสุวรรณภูมิ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการศูนย์ประสานการปราบปรามผู้เป็นภัยต่อคนหางาน ได้ร่วมกันนำตัวแรงงานคนไทยทั้งชายหญิงกว่า 30 ราย ที่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวจะเดินทางไปทำงานในประเทศเกาหลี ขณะที่กำลังรอเช็ดอินที่บริเวณชั้น 4 อาคารผู้โดยสารขาออก ระหว่างประเทศท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ มาสอบปากคำ หลังพบข้อมูลเชิงลึกว่าจะมีแรงงานไทยลักลอบเดินทางไปทำงานในประเทศเกาหลี โดยมีบริษัทจัดหางานหรือบริษัททัวร์หนุนหลัง
โดยเจ้าหน้าที่กรมการจัดหางาน ประจำด่านตรวจคนหางาน ภายในอาคารผู้โดยสารขาออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้สุ่มตรวจคนไทยที่จะเดินทางไปประเทศเกาหลี หลังสืบทราบว่าจะมีแรงงานไทยอายุตั้งแต่ 35-50 ปี จะลักลอบเดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลี จึงได้ร่วมกันสกัดกั้นแรงงานไทยทั้งหมดที่จะเดินทางไปทำงานในประเทศเกาหลีทั้งหมดในคราบของนักท่องเที่ยว มาทำการสอบสวน
จากการสอบสวนเบื้องต้นแรงงานไทยทั้งหมดให้การปฏิเสธว่าจะไปทำงานที่ประเทศเกาหลี อ้างเพียงจะเดินทางไปท่องเที่ยวตามโปรแกรมบริษัททัวร์เท่านั้น โดยเสียค่าเดินทางคนละ 2-4 หมื่นบาท แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากข้อมูลในกลุ่มแชทได้พบหลักฐานสำคัญทั้งการสนทนาก่อนการเดินทาง ได้พบข้อมูลงานที่จะทำในประเทศเกาหลี และค่าตอบแทนที่จะได้รับ ทำให้แรงงานไทยทั้งหมดยอมจำนนต่อหลักฐาน และรับสารภาพว่าจะลักลอบเดินทางทำงานที่ประเทศเกาหลีจริง โดยอาศัยแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวผ่านทางบริษัททัวร์ แห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้ชี้แจงและตักเตือนแรงงานไทยทั้งหมด และสั่งระงับการเดินทาง เพื่อป้องกันการลักลอบทำงาน โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายที่คนไทยจะเดินทางไปทำงานโดยไม่ผ่านระบบการจัดหางานหรือส่งคนไทยไปทำงานอย่างถูกต้องตามระเบียบของกรมการจัดหางานที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังตัดวงจรการค้ามนุษย์แรงงานเถื่อนข้ามชาติอีกด้วย
