จากกรณีโซเชียลมีการแชร์ภาพและข้อความว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู นั่งเฝ้าศพนานกว่า 6 ชั่วโมง เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดำเนินการ ผลการสอบภายในมูลนิธิ ปรากฎว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิคนดังกล่าวไม่ผิด พร้อมเตรียมส่งกลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม
จากกรณีโซเชียลมีการแชร์ภาพและข้อความว่า นายนพดล สีทองคำ หรือน้าป้อม อายุ 55 ปี เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู แผนกเก็บศพ รหัสนคร71 นั่งเฝ้าศพนานกว่า 6 ชั่วโมง เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดำเนินการ ต่อมานายนพดลถูกย้ายเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในมูลนิธิร่วมกตัญญู สำนักงานใหญ่ จ.สมุทรปราการ จนมีกระแสโพสต์ให้กำลังใจในโซเชียล
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 5 มี.ค.2562 ที่มูลนิธิร่วมกตัญญู(สำนักงานใหญ่) อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ คณะผู้บริหารของมูลนิธิได้ประชุมเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าว พร้อมทั้งเชิญให้ น้าป้อม หรือ นายนภดล ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ก็ได้ข้อสรุป
นายเอกพันธ์ บรรลือฤทธ์ หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และผู้จัดการฝ่ายบุคคล เปิดเผยหลังการประชุมว่า จริงๆแล้วไม่ได้มีการดำเนินการอย่างเป็นทางการใดๆ เพียงแค่พูดคุยสอบถามเกี่ยวกับภาพนั่งรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งนายนพดล หรือน้าป้อม ได้เล่ารายละเอียดทุกอย่างให้ฟังทั้งหมด โดยตนก็รู้สึกเข้าใจคนทำงาน แต่สิ่งที่เป็นประเด็นคือ บุคคลที่นำภาพไปโพสต์ และบิดเบือนบางคำพูด ตนก็ไม่รู้ว่ามีจุดประสงค์อะไร ดังนั้นสรุปได้ว่านายนพดล หรือน้าป้อม ไม่มีความผิดใดๆทั้งสิ้น ซึ่งคำสั่งย้ายมาปฏิบัติหน้าที่เป็นไปตามขั้นตอนและกฎของมูลนิธิ จะต้องดำเนินการเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าไปสอบสวน หากพบความก็ต้องดำเนินการเป็นขั้นตอน แต่ถ้าไม่มีความผิด ก็จะมีคำสั่งให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม ซึ่งน้าป้อม จะได้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามเดิมใน 1-2 วันนี้ ทั้งนี้ในส่วนของผู้โพสท์ก็ไม่ทราบว่ามีวัตถุประสงค์อะไรแต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มีกระแสวิจารณ์ไปในทางลบ ทำให้ตำรวจดูไม่ดี และส่งผลกระทบต่อองค์กร ซึ่งหลังจากนี้จะต้องรวบรวมข้อมูลว่าใครคือคนเปลี่ยนแปลงข้อมูล ก่อนจะประสานให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อไป
ด้าน นายนพดล สีทองคำ หรือ น้าป้อม อายุ 55 ปี เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู แผนกเก็บศพ รหัส71 กล่าวว่า ตอนแรกก็รู้สึกไม่สบายใจและกังวล หลังมีคำสั่งย้ายเพราะตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีตนทำงานในช่วงเวลากลางคืนมาโดยตลอด ทำให้ช่วงแรกมีปัญหาเรื่องการปรับเวลานอนเล็กน้อย แต่ตอนนี้ไม่มีความกังวลและยอมรับต่อคำสั่งของคณะผู้บริหารไม่ว่าผลการสอบสวนจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะเชื่อว่าอย่างไรความจริงก็ปรากฏ และต้องขอขอบคุณชาวโซเชียลที่โพสต์ให้กำลังใจตนด้วย
นอกจากนี้ ดร.พิมพ์พัชชา หยิมการุณ อดีตนายก อบต. ตำบลบางคูรัด จ.นนทบุรี เดินทางมาพูดคุยและให้กำลังใจกับนายนพดล สีทองคำ หรือ น้าป้อม หลังถูกต้นสังกัดสั่งตั้งสอบสวนข้อเท็จจริงและให้ยุติหน้าที่ให้ช่วยงานส่วนกลางและมาปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานใหญ่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมทั้งยื่นหนังสื่อร้องขอความเป็นธรรมด้วย
