คืบหน้า คดีคนร้ายแทงคอน้องสาวเจ้าของร้านประกอบแว่นเสียชีวิต ก่อนจะกวาดทรัยพ์สินกว่าครึ่งแสนหลบหนีไป ล่าสุดเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบเส้นทางชายต้องสงสัย มั่นใจว่าได้ตัวคนร้ายในไม่ช้า
จากกรณีเมื่อช่วงเย็นของวานนี้ที่ 27 มาราคา 2561 ที่ได้ผ่านมาได้ที่มีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุใช้อาวุธปลายแหลมมีคมแทงที่ลำคอ นาง สุจินดา สิงขรโอฬาฤทธิ์ อายุ 50 ปี น้องสาวเจ้าของร้านวัดสายตาประกอบแว่น ทวีพูล ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสาย B ชุมชนการเคหะเมืองใหม่บางพลี ตำบลบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ จนเสียชีวิตก่อนกวาดเอาทรัพย์สินซึ่งเป็นทองรูปพรรณประเภทสร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือทองคำ แหวนทองคำ และเงินสดมูลค่ากว่าครึ่งแสน ก่อนหลบหนีไป
ความคืบหน้าในช่วงบ่ายของวันนี้ที่ 28 มกราคม 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง สมุทรปราการ ได้ลงพื้นที่หาเบาะแสและพยานเกี่ยวกับตัวผู้ก่อเหตุ โดยได้พบหลักฐานสำคัญ ภาพวงจรปิดของร้านค้าแห่งหนึ่งใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ สามารถบันทึกภาพของชายต้องสงสัย เป็นชายไทย อายุประมาณ 30-35 ปี สูงประมาณ 170-175 เซนติเมตร ผิวดำแดง ไว้ผมรองทรง สวมกางเกงยีนส์ สีน้ำเงิน ลักษณะมีรอยขาดเหนือเข่าทั้งสองข้าง สวมเสื้อคอกลมสีดำ สะพายกระเป๋าลายพรางสีนำตาลแบบคาดไหล่ สวมนาฬิกาสีดำข้อมือซ้าย และสวมรองเท้าผ้าใบสีดำ ในขณะเดินออกจากร้านแว่นที่เกิดเหตุก่อนจะเดินย้อนมาตามถนนสวนมุมกล้อง แต่เมื่อหันไปเห็นกล้องวงจรปิดจึงยกกระเป๋าปิดบังใบหน้าและเปลี่ยนเส้นทางหลบหนีเข้าซอยเทศบาล 1 ทันที โดยมีกล้องวงจรปิดอีกมุมสามารถจับภาพใบหน้าได้อย่างชัดเจน ขณะที่ชาวบ้านและพยานเปิดเผยข้อมูลทางลับและไม่ประสงค์ออกนามว่า พบเห็นชายคนดังกล่าวมาเดินวนไปมาบริเวณที่เกิดเกิดเหตุตั่งแต่เวลาประมาณ 09.00 น.ของวันที่เกิดเหตุแล้ว ซึ่งไม่มีใครเคยเห็นชายคนดังกล่าวมาก่อน
ด้าน พล.ต.ต. ธรรมนูญ ไตรทิพยพศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพื้นที่ และชุดสืบสวนของจังหวัด ฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจในที่เกิดเหตุและเส้นทางการหลบหนีของผู้ก่อเหตุอีกครั้ง ก่อนจะเรียกประชุมฝ่ายสืบสวนและพนักงานสอบสวนเพื่อสั่งการจัดทีมไล่ล่าตัวคนร้าย ซึ่งจากการแกะรอยเส้นทางของผู้ก่อเหตุที่ปรากฏตามภาพวงจรปิด ซึ่งมั่นใจว่าเป็นผู้ที่ลงมือก่อเหตุ พบหลบหนีด้วยการเดินเท้าหลบหนีเข้าไปซอย ก่อนถึงจุดเกิดเหตุ และวนออกถนนอีกด้านของชุมชน ทำทีจะเรียกรถตู้โดยสาร แต่จากการตรวจสอบไม่พบการขึ้นรถแต่อย่างใด และเห็นปรากฏตัวครั้งสุดท้ายที่ห้างสรรพสินค้า ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุมากนัก ซึ่งขณะนี้ได้แบ่งชุดทำงานทั้งหมด 3 ทีม ทั้งฝ่ายสืบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ฝ่ายสืบสวน สภ.บางเสาธง และเจ้าหน้าที่จราจรและสายตรวจในพื้นที่ใกล้เคียง ลงพื้นที่หาเบาะแสพร้อมทั้งเดินภาพชายต้องสงสัยเพื่อหาข้อมูลหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มั่นใจจะได้ตัวในไม่ช้านี้ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อน
