ย่าสุดทนพาหลานชายวัย 9 ขวบเข้าแจ้งความ หลังหลานชายถูกพ่อเลี้ยงตบตี จนมีลอยช้ำตามตัว และแก้วหูทะลุ
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 30 มกราคม 2561 ในขณะที่ ร.ต.อ.คเณศ งามประเสริฐ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องแจ้งความ ได้มี นางณัฐษร พูลทรัพย์ อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นย่า ได้พา ด.ช.รัฐศาสตร์ เวียงกลม หรือน้องโอม อายุ 9 ปี นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียน คลองใหม่ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ หลังจาก น้องโอม ถูกพ่อเลี่ยงลงโทษโดยการตบเข้าที่บ้องหูจนแก้วหูทะลุ และใช้สายยางฟาดที่บริเวณขาทั้งสองข้าง ลำตัว จนเป็นรอยเขียวช้ำ เหตุเกิดเมื่อช่วงสายวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา
นางณัฐษร ได้เล่าว่า ตนอาศัยอยู่คนละบ้านน้องโอม หลังจากที่ลูกชายของตนเลิกรากับภรรยาซึ่งเป็นแม่น้องโอม โดยแม่น้องโอม ไปมีสามีใหม่ ก่อนที่จะนำน้องโอม ไปอยู่ด้วย กระทั้งแม่ของน้องโอม ได้มีลูกกับสามีใหม่เพิ่มอีก 3 คน ที่ผ่านมา น้องโอม เคยมาเล่าให้ฟังว่า พ่อเลี้ยงและแม่ ไม่ค่อยเอาใจใส่ตนเองเท่าไรนัก ซึ่งตนก็ยอมรับว่าน้องโอม เอง ก็ค่อนข้างจะซนตามประสาเด็ก มักจะถูกพ่อเลี้ยงลงโทษอยู่เป็นประจำ
เมื่อช่วงสายของวันนี้ที่ 30 มกราคม 2561 ขณะที่ตนนั่งอยู่ที่บ้านพัก น้องโอม ซึ่งอยู่ในชุดนักเรียนได้เดินทางมาหาตนที่บ้าน พร้อมทั้งบอกว่าหนีเรียนมา และถูกพ่อเลี้ยงใช้มือตบบ่องหูและใช้สายยางตีจนเป็นรอยเขียวช้ำ โดยน้องโอม ได้เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา แม่ได้พาน้องโอมไปส่งที่โรงเรียน เช่นประจำทุกวัน แต่น้องโอม บอกว่าไม่อยากเข้าเรียนเพราะถูกเพื่อน ๆ แกล้ง และขอตามแม่กลับด้วยซึ่งแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่กับทำให้พ่อเลี้ยงโมโห ที่น้องโอมไม่ยอมไปเรียน จึงได้ใช้มือตบที่บ้องหูของน้องโอม และใช้สายยางตีตามร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บและรอยเขียวช้ำ มีอาการปวดที่หูข้างซ้าย แต่แม่และพ่อเลี้ยงก็ไม่ได้สนใจ จนมาวันนี้แม่ของน้องโอม ก็ยังพามาส่งที่โรงเรียนอีก แต่น้องโอมหนี ออกมาจากโรงเรียน มาหาตนที่บ้านและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง ตนจึงพาน้องโอมไปหาหมอที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ โดยแพทย์ระบุว่าแก้วหูซ้ายทะลุ และได้แนะนำตนให้มาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตามตนเข้าใจว่าเด็กก็ควรจะถูกลงโทษบ้าง แต่การกระทำเช่นนี้มันรุ่นแรงเกินไปเพราะน้องโอมยังเป็นเด็กอยู่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ให้นางณัฐษร ผู้เป็นย่า พาน้องโอม ไปให้แพทย์ตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อเป็นหลักฐานรอการสอบสวนต่อหน้าอัยการ เพื่อประกอบสำนวน และจะได้ เชิญตัวพ่อเลี้ยง ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ มาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: